ตามคำเรียกร้อง จาก วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

[lucky m.]

“มาร์ค มุกควาย ‘ตอแหล’ จนนาทีสุดท้าย!!!”

วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เรียนให้ท่านผู้อ่านทราบถึงเรื่องการปิดเว็บ www.vattavan.com และมีท่านผู้อ่านได้ทักท้วงมา โดยบอกว่า
ไม่อยากให้ปิด!
จะพยายามทำตามคำเรียกร้อง เท่าที่ทำได้ โดยอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการเขียนทุกๆ อาทิตย์นั้น อาจไม่สะดวกเหมือนเดิม เนื่องจากมีภารกิจสำคัญส่วนตัวที่จะต้องเดินทาง แต่จะพยายามเขียนคอลัมน์ใหม่ๆออกมา เท่าที่จะทำได้ หรือมิฉะนั้นอาจมีคนนามสกุลเดียวกับผม มาช่วยเขียนเสริมให้บ้าง
บางสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เว็บนี้ยังเปิดบริการ ให้ทุกท่านเข้ามาอ่าน หรือค้นคว้าได้เสมอ

หมดเรื่องชี้แจงกันแล้ว ขอกลับมาเรื่องที่ค้างคาใจ และอยากจะพูดในวันนี้กันบ้าง หากไม่กล่าวถึง นายมาร์ค มุกควาย กับพรรคดักดานของเขาแล้ว คนพวกนี้มันจะได้ใจ
ต้องเอาหวายแช่เยี่ยว ฟาดหลังกันไว้หน่อย จะได้จดได้จำ!

เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ...

เมื่อค่ำ วันที่ 4 ส.ค.2554 นายมาร์ค มุกควาย ได้ออกโทรทัศน์อำลาประชาชน แต่กลับโดนวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนจำนวนมาก ด้วยวาทะที่คล้ายๆกัน คือ
“มันไม่รู้จักอายจริงๆ จะพ้นตำแหน่งอยู่แล้ว ยังสู้อุตส่าห์... ‘ตอแหล’ จนนาทีสุดท้าย!”
นึกอยู่แล้วเชียวว่า อีตานี่ดันพูดจาอย่างนี้ จะต้องถูกขย่ม จากพี่น้องประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะจากสื่อต่างๆที่รู้ไส้รู้พุง อย่างเรื่อง “เงินสำรองระหว่างประเทศ” บ้าง “เงินคงคลัง” บ้าง ฯลฯ แต่แกพูดไม่หมด หากเลือกหยิบยกแต่ส่วนดี เฉพาะที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง ขึ้นมาพูด

ผมเคยเขียนเล่า หลายครั้งหลายหนแล้วว่า
นายกฯทักษิณนั้น ประสบความสำเร็จในกอบกู้เศรษฐกิจ จากสถานการณ์ที่บ้านเมืองของเรา เป็นหนี้สินเขารุงรัง ต้องบากหน้าไปกู้เงินจาก IMF ซึ่งมันแสนจะเอาเปรียบ...
ยิ่งกว่ากู้แขกดอกโหดเสียอีก!

ความสำเร็จที่ว่านั้น เกิดจากการเป็นคนมองการณ์ไกลของคุณทักษิณฯ ซึ่งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ และบำรุงขวัญกำลังใจของราษฎร โดยได้จัดให้มีแหล่งเงินทุน สำหรับผู้คนในหมู่บ้านซึ่งห่างไกลปืนเที่ยง ซึ่งไม่เคยมีผู้นำคนไหนเลยในอดีต คิดและจัดทำให้พวกเขามาก่อนเลย
นี่เอง เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้หมู่บ้านมีความคล่องตัวในด้านการเงิน ที่จะสนับสนุนในยามขัดสน หรือหากชาวบ้านมีแผนจะทำมาหากินอื่น ก็ไม่ต้องขวนขวายออกไปหาเงินจากแหล่งทุนดอกเบี้ยโหด โดยมีแหล่งเงินสนับสนุนความฝันของตนได้ ที่อยู่ในหมู่บ้านของตัวเอง มาถึงวันนี้เงินทุนเหล่านี้ก็ยังอยู่ แถมมีกำรี้กำไรเป็นดอกเบี้ยค่อนเท่าตัว ดังที่ผมได้เคยเรียนให้ทราบแล้ว
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ โครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรค เป็นหลักประกันการดูแลสุตภาพยามป่วยไข้
เรื่องดีๆอย่างนี้ ไอ้พรรคเก่าแก่ดักดาน มันไม่เคยคิดถึง!
เงินกองทุนหมู่บ้าน และหลักประกันในการรักษาพยาบาล ทำให้พี่น้องประชาชน บังเกิดมั่นใจในชีวิต!!

การลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างถูกจังหวะจะโคน ของนายกฯทักษิณ ส่งผลให้ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product - GDP) ขยับตัวสูงขึ้น การส่งออกก็ดีขึ้นตาม ไปด้วย เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัว
นายกฯทักษิณไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่เขาเขย่าเศรษฐกิจต่อ ด้วยแผนการโฆษณาประเทศไทยที่โดนใจ นักท่องเที่ยวแห่แหนเข้าเมืองไทยมากขึ้น นำเงินทองมาใช้จ่ายเยอะแยะ อีกทั้งคนไทยในต่างแดนก็ส่งเงินเข้าประเทศ แถมยังมีเงินบำนาญของฝรั่งที่มาได้เมียไทย ก็ถูกโอนเข้ามาจำนวนมากอีกด้วย โดยเฉพาะภาคอีสาน จากการเปิดเผยของนายธนาคารที่ประจำอยู่ในภาคนั้น ทำให้ทราบว่า ปีหนึ่งๆก็ตกกว่าสองหมื่นล้านบาทเข้าไปแล้ว
นี่ยังไม่นับฝรั่งที่ผันเงินจากบ้านตัวเอง มาซื้อหลักทรัพย์ในประเทศไทย โดยเฉพาะตามหัวเมืองชายทะเลของเรา
เศรษฐกิจยุคทักษิณ จึงเจริญรุดหน้ากว่ายุคใด!

การที่เงินตราสกุลต่างๆ หลั่งไหลเข้ามาในบ้านเรามีจำนวนมากขึ้น เป็นเพราะทักษิณเดินกลยุทธ์ด้านเศรษฐกิจ อย่างเฉลียวฉลาด ถูกต้องเหมาะเจาะตามจังหวะจะโคน ผนวกกับเงินจากการส่งออก เป็นปัจจัยสำคัญที่ขยายฐาน “เงินสำรองระหว่างประเทศ” จนลำดับเงินสำรองฯสะสม ขึ้นเป็นลำดับที่สิบกว่าๆ ก่อนที่นายมาร์ค มุกควาย จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเสียอีก
ใครไม่เชื่อผม ก็ลองตรวจดูได้!

content/picdata/317/data/DOLLAR copy.jpg

นี่เป็นสิ่งที่ทักษิณฯ เริ่มต้นริน ความมั่งคั่ง เติมเต็มให้ชาติเราอีกครั้ง หลังจากกู้ชาติให้เป็น ‘ไท’ จาก ‘แอก’ ของ ไอ.เอ็ม.เอฟ. ซึ่งผมเขียนเรื่องนี้มาหลายครั้งหลายหนแล้ว
ดังนั้น นายมาร์คฯอย่าได้มาถือโอกาส คุยเขื่องแล้วตีกิน ตามสันดาน ว่าเป็นผลงานของตัว โดยหวังจะเอาหน้า ก่อนต้องคลานลงจากเวทีการเป็นผู้นำรัฐบาลเลย
คนเขารู้ทันน่า!

ส่วนเรื่อง ‘เงินคงคลัง’ ที่นายมาร์คฯดันเอามาคุยอวดโต ก็ไม่เห็นจะเข้าท่า เพราะนี่ใกล้จะสิ้นปีงบประมาณ เงินที่เตรียมไว้เพื่อการเบิกจ่ายยังล่าช้าอยู่มาก เงินเหล่านี้จึงได้ไหลเข้ามานอนกองในคลัง เพื่อรอเตรียมการเบิกจ่ายก่อนสิ้นปีงบประมาณ เลยทำให้เงินคงคลังดูสูงขึ้น
หรือ...หากอยากให้เงินคงคลังดูดี ก็กู้มาใส่เอาไว้ ก็ไม่ได้ผิดกติกาอันใด เพราะรัฐบาลของนายมาร์ค มุกควาย นั้น พี่น้องประชาชนพูดถึงทีไรก็พากันส่ายหัว และบอกว่า...
ดีแต่กู้ และกู้มาผลาญ!
เงินคงคลังก็อย่างนี้แหละครับ ต้องดูรายละเอียดแล้วจึงจะรู้ไส้ใน ว่าที่มีมากๆนั้น มันของจริงหรือของปลอม อีกทั้งเงินคงคลังยังผันแปร ขึ้นได้ลงได้ เสมอ เช่น ตอนไหนเป็นฤดูเก็บภาษีก็สูงพรวดพราด ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใดเลย แต่ที่สำคัญคือ
ไม่ใช่ความดีของนายมาร์ค มุกควาย กับรัฐบาลที่เพิ่งถูกถีบลงจากตำแหน่งแต่อย่างใด
หนอย! ฉวยโอกาสมาทวงบุญคุณ... ไอ้ทุเรศ!!

แฟนๆ ที่ติดตามอ่านคอลัมน์ของ ‘วาทตะวัน’ คงจะรู้ดีว่าสันดานนายมาร์ค มุกควาย ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ชอบเอาดีใส่ตัว แต่ไม่ยักกล้าพูดความจริง ความชั่วร้ายของตน ให้ประชาชนฟัง
แม้จะกล่าวอำลาไป แต่ยังปิดบังเอาไว้หลายเรื่อง!
เรื่องที่นายมาร์ค มุกควาย ไม่ยอมพูดกับประชาชนในวันอำลา ก็ล้วนเป็นเรื่องความล้มเหลวของรัฐบาลประชาธิเปรต ซึ่งมีหลายๆเรื่องที่เสียหาย ยกตัวอย่างให้ดูหน่อยก็ได้
ตัวอย่างเช่น...

วันที่นายมาร์ค มุกควาย จะแถลงอำลา ข่าวต่างประเทศก็ออกมาประจานรัฐบาลเส็งเครง ตั้งแต่เช้าตรู่เลย นั่นคือ
ไทยเราก็ถูกจัดเป็น ‘แดนก่อการร้ายอันดับ 1’ ของอาเซียนไปซะแล้ว!
นี่ก็เป็นเพราะความ ‘ไร้ฝีมือ’ ในการจัดการกับปัญหาการก่อการร้าย โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ภาคใต้นั่นเอง เพราะรัฐบาลของนายมาร์ค มุกควาย ไม่กล้ายอมรับว่า
การกระทำของผู้ก่อความไม่สงบ (ภาษาของรัฐบาล) เป็น ‘การก่อการร้าย’ แล้วอย่างนี้...
จะไปปราบปราม ให้ได้ผลอย่างไรกัน?

นโยบายที่นายมาร์ค มุกควาย นำมาพูดในตอนแถลงอำลาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรักษาพยาบาลฟรี เรียนฟรี เบี้ยคนแก่ฯลฯ ชาวบ้านเขาก็รู้ดีว่า เป็นแค่การต่อยอด จากนโยบายเก่าๆ ของนายกฯทักษิณทั้งนั้น เพราะตัวเองคิดไม่เป็น
เสือกเอามาคุย... โถ!

ทำไมไม่ยอมคุยเรื่อง ‘การปราบปรามยาเสพติด’ ที่รัฐบาลของนายมาร์คฯ ไม่แสดงความใส่ใจ เพิ่งจะมาออกแอ๊คชั่นกวดขันเอาก่อนตกเก้าอี้ไม่กี่วัน ซึ่งความย่อหย่อนเหลาะแหละ เป็นสาเหตุสำคัญ ทำให้จำนวนคนในคุกเพิ่มขึ้น
ความล้มเหลวอย่างนี้ ปิดบังไว้ทำไม?
บอกชาวบ้านไปซี่ ว่า เมื่อสองปีก่อนที่ตัวเองมารับตำแหน่ง ในคุกมีนักโทษอยู่ 120,000 คน ตอนนี้ มีเกือบ 190,000 คน
นั่นไง...สองปีที่นายมาร์ค มุกควาย เป็นนายกฯ จำนวน ‘คนคุก’ เพิ่มขึ้นมาอีก 70,000 คน!
เป็นคดียาเสพติดกว่า 90 %!!
ที่ว่ารัฐบาลของตัวมาอยู่แล้ว ฐานะการเงินของบ้านเมืองดีขึ้นนั้น แต่ทำไมถึงตัดเบี้ยเลี้ยงผู้ต้องขังในเรือนจำ ลงไปหัวละ 10 กว่าบาท จนถูกด่าว่า...
เบียดเบียนจนกระทั่ง...คนในคุก!?

ยังครับ...ยังมีอีก
นายมาร์ค มุกควาย ทำไมไม่พูดถึง ‘ผลการศึกษา’ ของ ‘เด็กไทย’ บ้างว่า เป็นอย่างไร?
จำนวนเด็กที่สอบ โอเน็ท-เอเน็ท ลดลงมากใช่ไหม?
เด็กไทยเพิ่งถูกตราหน้าว่า ‘โง่’ กว่าเด็กชาติอื่นใช่ไหม?
อย่างนี้เป็นต้น

นายมาร์ค มุกควาย และรัฐบาลของเขา ดำเนินนโยบายผิดพลาด จนเกิดสงครามกับเขมร ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล(โลก) แก้ไขอะไรไม่เคยได้ แถมทิ้งปัญหาเอาไว้ให้กับรัฐบาลใหม่อีก
ใช่ไหมล่ะ?
ทีอย่างนี้ละ...ไม่ยอมคุยถึง!!
แล้วเรื่องที่รัฐบาลโลซกของตัว ถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาล ‘โคตรคอรัปชั่น’ นั่นล่ะ?
พูดไม่ออกเลย...ใช่ไหมล่ะ!!!?

การที่นายมาร์ค มุกควาย ลอยหน้าลอยตาออกมาพูดจาว่า“ดับไฟบ้านเมืองแล้ว” นั้น ชาวบ้านเขางงงวยมาก พูดจาไต่ถามกันให้อื้ออึงว่า
“ไฟ ‘ส้นมือ-ส้นตีน’ อะไรของมัน โว้ย!?”
มีคนที่เขาฟังอยู่ บอกกับผมว่า
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถ้านายมาร์ค มุกควาย อย่าใกล้ๆ อยากจะลุกขึ้น ‘ถีบ’ เข้าให้ซักพลั่ก เพราะผู้คนเขาต่างรู้กันดีว่า
พรรคประชาธิปัตย์ของนายมาร์ค มุกควายกับพันธมารต่างหาก ที่ร่วมกันจุดไฟเผาบ้านเมือง เพื่อไล่หนูทักษิณฯ ตัวเดียว
จนบ้านเมืองเดือดร้อน วุ่นวายมาหลายปีแล้ว!

เท่านั้นยังไม่พอนะ!
ยังเสือกสุมไฟใหม่ๆอีกหลายกอง ที่สำคัญคือ ‘ไฟแห่งความแตกแยกของคนในชาติ’ ที่ลุกโชนมาทุกวันนี้ เพราะมีหลักฐานเปิดเผยออกสู่สังคมหลายชิ้นว่า
รัฐบาลอัปรีย์ของนายมาร์คฯ สั่งให้ทหารฆ่าฟันประชาชน ตายและบาดเจ็บไปจำนวนมาก!
หลักฐานคำสั่งของจริง ที่ให้ “ฆ่าได้” ก็ถูกนำมาเปิดโปงอย่างโจ่งแจ้งต่อสาธารณชน ทีแรกก็ปฏิเสธกันวุ่นวายว่า
“ไม่จริง”
ลงท้ายก็ต้องยอมรับ...ทุเรศมาก!

แค่นั้นยังไม่หมด นายมาร์ค มุกควาย ยังส่งสมาชิกพรรคที่เป็น ส.ส. (ตอนนี้สอบตกเรียกร้อยแล้ว) รุกล้ำดินแดนเข้าไป จุดไฟเผาเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาอีก จนเกิดสงครามต่อกัน
ผู้คนบาดเจ็บล้มตาย ชาวบ้านต้องอพยพกันวุ่นวาย!
ความระยำต่างๆ เหล่านี้ สร้างความเคียดแค้นชิงชังให้พี่น้องประชาชนอย่างล้ำลึก เป็นสาเหตุให้ตัวนายมาร์ค มุกควาย และพรรคดักดานเอง ต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ชนิดกระจุยกระจายขายขี้หน้าเลยทีเดียว
ยังไม่สำนึกอีก!!

ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ

ทุกครั้งที่ได้ยินคำสัมภาษณ์แบบ ‘ตอแหล-ตอหลด-ตดใต้น้ำ’ ของนายมาร์ค มุกควาย ซึ่งตรงข้ามกับข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ เข้าเท่านั้น
‘ของขึ้น’ ทุกที!
เลยจำเป็นลุกขึ้นมาเขียน แบ่งปันข้อมูลที่รู้มา ให้กับท่านผู้อ่านที่เคารพรัก ได้รับทราบทั่วกันด้วย

เอาไว้อารมณ์ดีๆ แล้วจะเขียนแจกแจงเรื่อง ‘กาลี’ ของรัฐบาลนายมาร์ค มุกควาย ให้ท่านได้อ่านกันชนิด ‘ลากไส้-ทุกขด’ ออกมาประจานอีกครั้ง

อดใจรอหน่อย...นะครับ!!!

........................

ท้ายบท กว่า 1 ปีผ่านมาแล้ว คือเมื่อ 4 มิถุนายน 2553 ผมเขียนบทความ ตำรวจสากล...‘มะเขือเทศ’ สากล!? (http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=228) แจกแจงเรื่องที่รัฐบาลกาลีของ นายมาร์ค มุกควาย ซึ่งมีความพยายามเหลือกำลัง ในการกระพือข่าวว่ารัฐบาลกาลี ได้ “หมายจับ” ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายไปทั่วโลก
ผลย้อนกลับกลายเป็นเสมือน นายมาร์ค มุกควาย ได้ประจานพฤติกรรมของตนเองและรัฐบาล เรียบร้อยไปแล้วในสายตาของนานาชาติ เพราะแม้แต่ตำรวจสากล ผู้นำองค์การเขาบอกชัดเจนว่า องค์การผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของโลกนั้น
เขาไม่ยุ่งกับ...คดีการเมือง!
โลกเขาเห็นว่า ที่คุณทักษิณฯถูกดำเนินคดี ถูกป้ายสีจากไอ้พวกอัปรีย์ มี “ไอ้บัง กบฏ” กับทหารจังไร เป็นตัวการ ก่อการกบฏยึดอำนาจจากพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง
เป็นเรื่อง ‘การเมือง’ โดยแท้!!

แค่คุณทักษิณฯ เขาจะไปธุระ พูดจากับคนญี่ปุ่นเท่านั้น ก็มีความพยายามเหลือเกิน ที่ขุดเรื่องหมายจับของตำรวจสากลมาโจมตี แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับออกแถลงเปิดโปง ให้ชาวบ้านทราบเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ปิดบังความจริง ที่ตำรวจสากลเขาไม่เคยมีหมายจับทักษิณ

เมื่อไหร่ไอ้พวกเวร มันจะหายดักดานสักทีนะ!!!

(***คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ ตอน มาร์ค มุกควาย ‘ตอแหล’ จนนาทีสุดท้าย!” ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 20 สิงหาคม 2554)