updateข่าว"ว่าที่นายกฯหญิงยิ่งลักษณ์" 1ก.ค.54: เปิดใจ"อนุสรณ์ อมรฉัตร" "ภรรยาของผม อ่อนโยนแต่เข้มแข็ง" >>ต่อไปนี้ไม่ใช่ว่าที่อีกแล้ว ท่านคือ นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย

[goosehhardcore]

"ทักษิณ"ดัน"ยิ่งลักษณ์"นั่ง หน.เพื่อไทย

2011-01-07 10:46:32

นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำพู พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จะเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะแนบท้ายในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลคือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เพราะได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วเห็นด้วยที่จะให้ทั้ง 2 ทำหน้าที่ดังกล่าว และจากการซาวเสียง ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีใครขัดข้อง ซึ่งวิธีดังกล่าวถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และยังเป็นการป้องกันการถูกยุบพรรคด้วย

นายไชยา ยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว โดยประเมินจากการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา และคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ คาดว่าก่อนเปิดประชุมสภาในวันที่ 21 ม.ค.จะมีการนัดประชุมพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้และขอมติพรรคอีกครั้ง
Ref: http://www.dailyworldtoday.com/hotnews.php?hotnews_id=39678

[goosehhardcore]

พท.เคาะแล้วให้ยิ่งลักษณ์ นั่งหน.พรรค

นายไชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า สำหรับหัวหน้าพรรคนั้นคาดว่าเป็น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ส่วนแคนดิเดต นายกฯ ที่จะแนบท้ายการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เพราะ ได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็เห็นด้วยที่จะให้บุคคลทั้ง 2 ทำหน้าที่ดังกล่าวและจากการซาวน์เสียงสมาชิกพรรคก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งวิธีดังกล่าวเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ อีกทั้งยั้งเป็นการป้องกันการถูกยุบพรรคด้วย ซึ่งพรรคได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว โดยการประเมินจากการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาและคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้คาดว่าก่อนเปิดสมัยประชุมในวันที่ 21 ม.ค. จะมีการนัดประชุมพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้เพื่อขอมติพรรคอีกที

ส่วนสัดส่วน ส.ส.สูตร 375 ต่อ 125 ซึ่งเป็นการลดจำนวน ส.ส.เขต และเพิ่ม ส.ส.สัดส่วน ย่อมส่งผลกระทบทุกพรรคอย่างแน่นอน ไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.อีสานมาก ก็อาจทำให้กระทบตัวเลขในภาคอีสานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ข้อเสนอสูตรดังกล่าวของนักวิชาการเพื่อไม่ให้ประชาชนยึดติดที่ตัวบุคคลนั้น มองว่า นักวิชาการยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมของการเมือง ซึ่งประชาชนกับ ส.ส.นั้น มีความผูกพันกัน

สำหรับ ยิิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิด 21 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ชื่อเล่น ปู ผู้ดูแลภาคกลางและกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด น้องสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวน 9 คน ของนายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร จบการศึกษาปริญญาตรี จาก คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2531 และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2533 จากนั้น ได้เข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด ต่อมา ได้รับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการผู้อำนวยการ ของเอไอเอส เมื่อ พ.ศ. 2545

หลังจาก ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ป ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งในเอไอเอส โดยยังดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด เพียงตำแหน่งเดียว โดยก่อนหน้านั้นเธอได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในมือทั้งหมด เพื่อทำกำไรออกไปก่อน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่ง กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม

นางสาวยิ่งลักษณ์ สมรสกับ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม ลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว โดยมิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ "น้องไปป์"


ขอบคุณที่มาข่าว: http://news.sanook.com/993206-%E0%B8%9E%E0%B8%97.%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99.%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84.html

[goosehhardcore]

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องการเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่า หากดำรงตำแหน่งจริง ก็จะมีผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมาก เพราะเคยทำงานให้กับพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชนมาก่อน

พร้อมกันนี้ การเป็นคนในตระกูลชินวัตร ก็คงไม่เป็นอุปสรรค เพราะทุกคนมีสิทธิเป็นเจ้าของประเทศเช่นเดียวกัน



ที่มาข่าว: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294397436&grpid=00&catid=&subcatid=
update: วันที่ 07 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 21:00:19 น.

[goosehhardcore]

พท.จุดพลุ 'ยิ่งลักษณ์' แยกขาย 'หัวหน้า-นายกฯ'

การจุดกระแสเปิดชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขึ้นมาเป็น “แคนดิเดต” หัวหน้าพรรค รับหน้าที่ประคับประคองเสถียรภาพพรรคเพื่อไทย เตรียมตัวสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใกล้จะมาถึง


นอกจากจะช่วยลดแรงเสียดทานภายในพรรคที่กำลัง “ปริร้าว” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปกับการช่วงชิงจังหวะการนำของบรรดากลุ่มก๊วนต่างๆ ด้วยการเร่งสร้างผลงาน วางฐานกำลัง

อีกด้านหนึ่งยังช่วยสร้าง “ความหวัง” กับบรรดาลูกพรรค ไม่ให้ “สละเรือ” ที่ไร้หัว ไร้หางเสือ ไร้ทิศทางเช่นนี้ ให้กลับมาพร้อมใจกัดฟันต่อสู้อีกยก หลังจากเกิดสภาวะที่มี สส.ไหลไปพรรคอื่นจำนวนไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา

ดังจะเห็นจากกระแสตอบรับอันล้นหลามจากทุก “มุ้ง” ภายในพรรค หลังการเปิดชื่อ“ยิ่งลักษณ์” น้องสาวสุดรักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งส่งผลให้ความเคลื่อนไหวที่ปั่นป่วนภายในพรรคสงบลงชั่วคราว

แน่นอนว่า “คุณสมบัติ” สำคัญที่ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยหันมาประสานเสียงสนับสนุน “ยิ่งลักษณ์” แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ถึงขั้นเชียร์ให้สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย ด้วยการมีนายกฯ หญิงเป็นคนแรกในประเทศไทย มาจากการเป็นสายตรงของ “นายใหญ่”

แม้ที่ผ่านมา “พายัพ ชินวัตร” ซึ่งเคยถูกปั้นให้มารับหน้าที่คุมพรรค แต่ทว่ากลับไม่สามารถสร้างการยอมรับให้เกิดขึ้นได้ ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์ภายในพรรคสั่นคลอนไปพักหนึ่ง

จน “ยิ่งลักษณ์” ต้องแวบเข้ามาทำหน้าที่ “แม่บ้านพรรค” บริหารจัดการงาน วางงบประมาณ สะสางปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเพื่อไทย เสื้อแดง ฯลฯ ควบคู่ไปกับ “ธุรกิจ” ในความดูแลอย่างบริษัท เอสซี แอสเสท

ท่อน้ำเลี้ยง กระสุนดินดำที่เคยแห้งขอดตีบตัน จึงเริ่มกลับมาเฟื่องฟู สร้างความกระชุ่มกระชวย หยุดยั้ง “ห้ามเลือด” ที่ไหลไปแล้วบางส่วนก่อนหน้านี้

งานนี้รายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคที่โผล่ออกมาแบบต่อเนื่องจน “ฝุ่นตลบ” จึงเริ่มซาลง ปรากฏให้เห็นรูปเห็นร่าง เห็นเค้าโครงที่ชัดเจนขึ้น

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ห้อยท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงเป็นเหมือนกับแม่ทัพคุมศึกเฉพาะงาน มิได้หมายถึงการเป็น “หัวหน้าพรรค” หรือคนที่จะถูกชูขึ้นมาแข่งนายกฯ ในการหาเสียงระยะยาว ทำให้เจ้าตัวยังไม่มีสัญญาณตอบรับในเรื่องนี้

และไม่แปลกที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งรับหน้าที่คุมศึกอภิปรายใน 2 ครั้งที่ผ่านมา จะยอมหลีกทางเปิดให้ “มิ่งขวัญ” มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ห้อยท้ายญัตติอภิปราย เมื่อรู้ว่าสนามนี้ทำดีก็ได้แค่เสมอตัว แต่พลาดพลั้งก็เป็นโอกาสให้ได้ตัดคู่แข่งคนสำคัญ

ยังไม่รวมกับอีกสารพัดชื่อก่อนหน้านี้อย่าง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และวิทยา บุรณศิริ ที่ได้เพียงแค่หยั่งกระแสก่อนจะเงียบหายไปในที่สุด

ที่สำคัญ ครั้งนี้ “นายใหญ่” งัดเทคนิคใหม่ แยกตัว “หัวหน้าพรรค” และ “ว่าที่นายกฯ” ออกจากกัน เพื่อป้องกันปัญหากระทบทั่ง และเพิ่มระบบถ่วงดุลอำนาจเสร็จสรรพ

ต้องไม่ลืมว่าบทเรียนจากสมัย สมัครสุนทรเวช ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกฯ กลายเป็นปัญหายอกอก เมื่อระยะหลังไม่สามารถตอบสนองงานได้ดั่งใจ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงให้ออกจากตำแหน่งอะไรได้

ครั้งนี้หัวหน้าพรรคที่จะขึ้นมากุมบังเหียนเพื่อไทย จึงไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ หากพรรคได้รับเลือกตั้งจนสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นคนที่คุมการบริหารจัดการภายในเป็นหลัก

แต่เอาเข้าจริง การเปิดชื่อ “หัวหน้าพรรค” ขึ้นมาเป็นหลักนำทีมสู้ศึกเลือกตั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่ สส.กลุ่มหนึ่งต้องการความชัดเจน ถึงขั้นบินไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อขอให้ชี้ขาด

ทว่ารู้อยู่แล้วว่าการเปิดชื่อ “หัวหน้าพรรค” ไปจนถึง “คนที่จะมาเป็นนายกฯ” ย่อมสุ่มเสี่ยงให้พรรคแตกกระสานซ่านเซ็นได้มากขึ้น และยิ่งเปิดเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเป้าให้ถูกโจมตีมากยิ่งขึ้น

ดังจะเห็นจากบทเรียนสำคัญในอดีต ที่ครั้งหนึ่ง “เพื่อไทย” เคยพยายามดึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ขึ้นมาเรียกเรตติ้ง ลบข้อครหาความไม่จงรักภักดี แต่สุดท้ายกลับถูกย้อนเกล็ดด้วยการหยิบยกวาทะ “ม็อบมีเส้น” ที่เคยกล่าวกลางสภาเมื่อสมัยเป็น รมว.มหาดไทย และถูกล็อบบี้ให้ถอนตัวในที่สุด

แม้แต่ “ยิ่งลักษณ์” ที่ถูกวางตัวให้ดูแลงานด้านธุรกิจ ไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง การจะประกาศชูขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแบบเต็มตัว ซึ่งจำเป็นต้องวางมือในกิจการธุรกิจต่างๆ จึงเป็นอีกการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ต้องประเมินถึงความคุ้ม ความเสี่ยง ที่ไม่อาจผลีผลาม

พรรคเพื่อไทยเองจับจุดตรงนี้ได้ และยืนตามยุทธศาสตร์ขาย “นโยบาย” มากกว่า “ตัวบุคคล” ทำให้เน้นหนักไปที่จุดแข็ง คือ นโยบายโดนใจรากหญ้า ซึ่งยังรักษาฐานในอีสานและเหนือได้ถึงปัจจุบัน การเปิดตัวหัวหน้าพรรคในเวลานี้จึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น

เช่นเดียวกับ “แคนดิเดต” นายกฯ ที่เปิดเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเสียเปรียบ...

ถึงจะมีชื่อ ดร.โกร่ง “วีรพงษ์ รามางกูร” ปรากฏขึ้นมาหยั่งกระแส โดยเบื้องลึกแล้วเป็นการติดต่อทาบทามโดยตรงจาก “นายใหญ่” เพื่อนำจุดแข็งเรื่องการบริหารเศรษฐกิจมาเป็นจุดขายสำคัญ ในภาวะที่ประเด็นเศรษฐกิจกำลังจะเป็นวาระสำคัญในปีนี้และปีหน้า

แต่สุดท้ายยังไม่อาจผลีผลามอะไรในตอนนี้ได้ ทุกอย่างยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดจนกว่าจะถึงเวลาสุกงอมเพียงพอจะเปิดตัว


ที่มา http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/68152/%E0%B8%9E%E0%B8%97-%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B8-%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF

[goosehhardcore]

พท.แจกหนังสือ ทุจริตอภิสิทธิ์ชน เล่ม 1


พท.แจกหนังสือ ทุจริตอภิสิทธิ์ชน เล่ม 1

วันที่ 10 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ ในฐานะผอ.สำนักงานปราบโกง พรรคเพื่อไทย และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงก่อนแจกหนังสือ “ทุจริตอภิสิทธิ์ชน” โดยน.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นการรวบรวมข้อกล่าวหาการทุจริตประพฤติมิชอบกว่า 2 ปี แต่ยังไม่มีใครรับผิดชอบ

ซึ่งพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลใน ลักษณะการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายบริหารตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ในหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ มาตรา 75,76 และ 78 ,หมวด 9 คณะรัฐมนตรี มาตรา 176 และ 178

ดังนั้นการรวบรวมเรื่องราวที่มิชอบเหล่านี้แล้วตีพิมพ์เป็นหนังสือเผยแพร่ จึงเป็นความชอบธรรม เพื่อให้ประชาชนเจ้าของภาษีซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงได้รับทราบความ เสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการร่วมกันตัดสินใจในการยับยั้งไม่ให้คนโกงมีโอกาสกลับมาโกงได้อีก

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ความไม่โปร่งใสหลายกรณีเกิดขึ้นอย่างแยบยลที่เชื่อว่ามีการวางแผนการโกงกัน เป็นอย่างดี แต่หลายกรณีก็กระทำกันอย่างอุกอาจ โดยไม่สนใจว่าจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง แสดงให้เห็นถึงการลุแก่อำนาจของผู้มีอำนาจ ที่กระทำการโดยปราศจากความละอายและความเกรงกลัวต่อกฎหมาย หากผู้ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบละเลย ไม่สนใจ ปล่อยให้การกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดผลร้ายทั้งหมดจะตกอยู่กับลูกหลานและประเทศไทยในอนาคต

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับหนังสือทุจริตอภิสิทธิ์ชน เล่มที่ 1 พิมพ์ครั้งแรกจำนวน 1 หมื่นเล่ม นอกจากแจกให้สื่อมวลชนแล้วจะแจกให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศโดย ฝากผ่านทางส.ส.และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรค รวมถึงประชาชนผู้สนใจ นักวิชาการ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องการเพื่อเป็นข้อมูล

โดยสามารถรับหนังสือได้ที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป สำหรับเล่มที่ 2 จะเป็นการรวมเล่มที่เจาะลึกในรายละเอียดเน้นในแต่ละเรื่องที่ได้รับการปู พื้นมาอย่างดีต่อจากเล่มที่ 1 อย่างไรก็ตามหนังสือดังกล่าวถือว่าเป็นหนังสือที่ผู้เสียภาษีทุกคนควรอ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาของหนังสือดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1.การบริหารราชการแผ่นดินที่เข้าข่ายละเว้นหรือปล่อยให้เกิดการทุจริต คอร์รัปชั่นจนทำให้เกิดความเสียหายต่อเงินงบประมาณแผ่นดิน ประกอบด้วย โครงการจัดซื้อรถ เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร โครงการชุมชนพอเพียง ปลากระป๋องเน่า โครงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ และโครงการถนนปลอดฝุ่น

2.การบริหารราชการแผ่นดินที่ตรวจพบว่าอาจมีการเอื้อให้เกิดการทุจริต ประกอบด้วย โครงการประมูลสินค้าการเกษตร โครงการจัดหาครุภัณฑ์กระทรวงสาธารณสุข โครงการจัดหาคุรุภัณฑ์กระทรวงศึกษาธิการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

3.การบริหารราชการแผ่นดินที่ผู้มีอำนาจอาจใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องหรืออาจใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ ประกอบด้วย อัพเกรดการบินไทย ใครๆก็อยากได้อภิสิทธิ์ ซื้อเครื่อบินไม่มีเก้าอี้ เที่ยวบินอภิสิทธิ์เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน การแต่งตั้งตำรวจ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โครงการรถเข็นกระเป๋าสุวรรณภูมิ โครงการจัดหาปืนเล็กยาว การออกเอกสารแสดงสิทธิ์ที่ดินบนเขาแพง การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ เอสเอ็มเอสนายกฯกับความเป็นสองมาตราฐาน การแทรกแซงและการปิดกั้นสื่อ

และ 4.การบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดล้มเหลว ไม่เป็นไปตามนโยบายหรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายหรือไม่คุ้มค่า กับงบประมาณ ประกอบด้วย โครงการเรียนฟรี 15 ปี ค่าเงินบาท ราคาน้ำมัน โครงการรถเมล์บีอาร์ที แก้ปัญหายาเสพติด งบประมาณประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล งบประมาณการจัดกิจกรรมของรัฐบาล การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โครงการเช็คช่วยชาติ ปัญหาการแก้หนี้นอกระบบ การประกาศใช้พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินและการปราบปรามประชาชน


ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 18:18 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNU5EWXpOemsyTUE9PQ==&sectionid=

[goosehhardcore]

"ยิ่งลักษณ์"ยังไม่แสดงเจตนานั่งหัวหน้า พท.

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีการเปิดตัวผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่เห็นการแสดงเจตนารมณ์ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่โดยส่วนตัวมองว่า การที่ผู้ใดจะมาเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะการแข่งขันกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญ และตนมองว่า พื้นฐานแล้ว ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคควรจะเป็นคนเดียวกับผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะประชาชนต้องคาดหวังอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ภายในพรรคไม่มีเหตุการณ์เสียงแตกเกิดขึ้น แต่ยอมรับว่า ส.ส.บางกลุ่ม อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน เพียงแต่ยังไม่มีเวลานั่งพูดคุยกันอย่างจริงจัง จึงยังไม่มีความเห็นในตัวของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ลงตัว ซึ่งต้องพิจารณาและพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งผลออกมาเป็นอย่างไร ส.ส. ทุกคนต้องยอมรับได้


ที่มาข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2554 09:59 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000036328

[goosehhardcore]

"สุรพงษ์"เชื่อ"เฉลิม"ไม่ทิ้งพท. อ้างโหงวเฮ้ง"ยิ่งลักษณ์"เด่นคั่วนายกฯหญิง

"สุรพงษ์" ยังมั่นใจ "เป็ดเหลิม" ไม่ทิ้งเพื่อไทย ปูดภูมิใจห้อยล็อบบี้ตนไม่ให้มีการยุบสภา อ้างโหงวเฮ้ง เด่นถ้าได้นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีสิทธิคั่วเก้าอี้นายกฯหญิงคนแรก

วันนี้(22 มี.ค.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมประกาศวางมือจากการเมืองถ้าหาก นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่าตนขอยืนยันว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่คิดวางมือจากพรรคเพื่อไทยอย่างที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน และตนก็คิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะยังคงอยู่ทำหน้าที่ประธาน ส.ส.ของพรรคเช่นเดิมด้วย

"ช่วงที่ผ่านมาได้มีสมาชิกจากพรรคภูมิใจไทยมีความพยายามที่จะล็อบบี้ผม เพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา ซึ่งผมไม่เอาด้วยอยู่แล้ว และเหตุที่จะทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถยุบสภาได้ ก็คือ ทาง กกต.ต้องลาออก ก็เท่านั้น"

นายสุรพงษ์ ยังกล่าวเป็นนัยอีกว่า กรณีกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอาจจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้ก็มีความสอดคล้องกับการที่มีหมอดูการเมืองออกมาคาดเดาว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นผู้หญิง อีกทั้งตนยังมองตามหลักของโหวงเฮ้งแล้ว พบว่า เส้นบารมีตรงส่วนของช่วงแก้มนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือว่า ตรงตามโหงวเฮ้ง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000036357

[goosehhardcore]

‘ทักษิณ’ล็อกสเปกหัวหน้าพท.เก่งเศรษฐกิจ-มีประสบการณ์

“ทักษิณ” ทวิตข้อความกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 9 ข้อ เน้นคนมีประสบการณ์บริหารองค์กรขนาดใหญ่ เก่งเรื่องเศรษฐกิจ กล้าตัดสินใจ รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย เคารพประชาชน ระบุเปิดตัวทันทีเมื่อนายกฯประกาศยุบสภา “สุเทพ” เกทับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เจ๋งอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับ “บุญยอด” ชี้ล็อกสเปกเพื่อดันคนตัวเองชิงนายกฯ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ระบุถึงการเลือกผู้นำพรรคเพื่อไทยที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหากพรรคชนะเลือกตั้ง โดยระบุว่า วันที่ 22 มี.ค. นี้พรรคเพื่อไทยจะประชุมสามัญประจำปีเพื่อรับรองงบการเงิน ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่มีการคาดกันไปต่างๆนานาว่าคนที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต้องเป็นนายกฯหากได้เป็นรัฐบาล แต่บังเอิญพรรคสายเลือดไทยรักไทยเป็นพรรคที่ถูกแกล้ง ต้องโดนยุบพรรคมาหลายครั้งแล้ว ส่วนพรรคคู่แข่งทำอะไรผิดก็ช่วยกันให้ไม่ผิด เลยต้องสู้กันแบบนี้ หลายคนเลยถามว่าถ้าชนะจะเสนอใครเป็นนายกฯ

พรรคเพื่อไทยต้องหาคนที่มีคุณสมบัติทำได้ตามที่ประชาชนอยากเห็นมาเสนอต่อประชาชนคือ 1.ต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน พูดจาประสานงานกับทุกฝ่ายได้ ไม่ขยันสร้างศัตรู 2.ต้องเป็นคนมีเมตตาธรรม 3.ต้องมีจิตใจรักความเป็นธรรม 4.ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงแก้ไขในสิ่งที่ผิด 5.ต้องเป็นคนเข้าใจเศรษฐกิจของประชาชนและภาคธุรกิจ 6.ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์บริหารองค์กรขนาดใหญ่ เข้าใจอย่างเดียวแต่ทำไม่เป็นไม่ได้ 7.ต้องเป็นคนที่มีใจรักประชาชน 8.ต้องเป็นผู้รักความเป็นประชาธิปไตยโดยเคารพความสามารถและสติปัญญาของประชาชน และ 9.ต้องเป็นผู้ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คงเป็นหน้าที่พรรคเพื่อไทยต้องช่วยกันคิดโดยด่วน และต้องประกาศให้ประชาชนทราบทันทีที่ยุบสภา

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณกำหนดคุณสมบัติคนเป็นหัวหน้าพรรคแสดงว่ายังมีอำนาจผูกขาดภายในพรรค และเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง ส่วนตัวเชื่อว่ามีการล็อกสเปกเอาไว้สำหรับคนของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็ต้องเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“คุณสมบัติที่ พ.ต.ท.ทักษิณลืมกำหนดไปคือต้องไม่โกงการเลือกตั้ง หากเป็นรัฐบาลจะไม่คอร์รัปชัน และยอมรับกระบวนการยุติธรรม” นายบุญยอดกล่าวและว่า เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าต้องการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาโดยไร้มลทิน ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาบอกว่าคนที่จะเป็นผู้นำพรรคต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นชัดเจนว่าจะต้องมีทุนมาช่วยในการเลือกตั้ง ประชาชนต้องตระหนักว่าจะให้โอกาสพรรคการเมืองแบบนี้หรือไม่ หากผลการเลือกตั้งในระบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยได้มากกว่า 30% พวกตนพร้อมยอมรับ แต่ประชาชนต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วย เพราะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อระดับต้นๆของพรรคเพื่อไทยล้วนแต่เป็นบุคคลที่สร้างความร้าวฉานในบ้านเมือง และประกาศชัดเจนว่าจะเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อไป การลงเลือกตั้งเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองเหมือนกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรเขียนแปะข้างฝาเอาไว้อ่านเองเพื่อทบทวนดูเรื่องที่ผ่านมา หากทำได้ทั้ง 9 ข้อบ้านเมืองจะได้ดีขึ้น ในส่วนคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นใช้ได้ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับอะไร

“ผมไม่วิจารณ์เรื่องใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าก่อนเลือกตั้งเขาคงได้คนมานำพรรคสู่การเลือกตั้ง ใครจะมาผมไม่มีปัญหา”



ที่มา: http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=10089

[goosehhardcore]

2011-03-22 10:34:22
เฉลิมย้ำหากมิ่งขวัญนั่งหน.พรรคจะไม่สมัครสส.>>>แต่หากเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะขอทวบทวนใหม่อีกครั้ง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยัน ไม่ได้น้อยใจ หลังประกาศจะไม่เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคในวันนี้ เนื่องจาก ติดภารกิจ อีกทั้ง การประชุมดังกล่าวเป็นเพียงการรับรองงบดุล ไม่ได้มีประเด็นสำคัญอะไร ซึ่งในการประชุมวันนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับโครงสร้างพรรค หรือ การคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่

หลังมีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมานั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ พร้อมกันนี้ ยังย้ำด้วยว่า หาก นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เป็นหัวหน้าพรรค ตนก็จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แต่หากเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะขอทวบทวนใหม่อีกครั้ง

ขณะเดียวกันก็ไม่เห็นด้วยที่ นายมิ่งขวัญ ประกาศพร้อมเป็นนายกฯกลางสภา ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะประกาศไปตอนนี้ก็สู้ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ แต่หากประกาศหลังชนะการเลือกตั้ง ตนก็ไม่ขัดข้อง เชื่อว่า การออกมาประกาศเช่นนี้ น่าจะได้รับสัญญาณมากจาก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตาม ในการอภิปรายครั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจมากที่ผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ให้คะแนนตน เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งมากกว่า นายกฯ

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น กรณีการตั้งพรรคประชาสันติ ของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง พรรคไทยรักไทย ที่ประกาศจะเป็นทางเลือกใหม่ของคน กทม. นั้น เพราะตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก โดยระบุเพียงว่า ร.ต.อ.ปุระชัย เป็นคนดี
http://www.dailyworldtoday.com/hotnews.php?hotnews_id=42010

[goosehhardcore]

2011-03-22 17:15:26
สมชายชมมิ่งขวัญซักฟอกดี-ไม่ชัดใครนั่งหน.พรรค

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ตนคิดว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ในฐานะผู้นำการอภิปรายทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ซึ่งการอภิปรายของนายมิ่งขวัญ ถือว่ามีเหตุผลและความชัดเจน ทำให้ประชาชนเข้าใจง่าย นอกจากนี้การอภิปรายครั้งนี้ยังมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศทำให้ประชาชนได้ รับทราบข้อมูลเพื่อนำไปไตร่ตรอง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะเชื่อข้อมูลของฝ่ายใด

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่มีกระแสข่าวในขณะนี้นั้น ตนคิดว่า กระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากว่าเป็นช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้ง ซึ่งในพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องนี้ แต่ตนเชื่อว่าทุกคนในพรรคมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งทั้งสิ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่ามติของพรรคจะสนับสนุนใคร ซึ่งผลก็คงออกมาตามมติของพรรค เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่ยึดถือระบอบประชาธิปไตยเป็นหลักอยู่ แล้ว อีกทั้งตนยังเห็นว่าบุคคลที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคนั้นไม่จำเป็นที่จะต้อง มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหมือนในช่วงเวลาที่ตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด

ส่วนกระแสข่าวของ นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ตนยังไม่เคยได้ยินว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ พูดว่าต้องการที่จะเล่นการเมืองแต่อย่างใด แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเล่นการเมืองจริง ๆ ทางพรรคเพื่อไทยก็จะไม่เกิดความขัดแย้งใด ๆ

นอกจากนี้นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศจะวางมือจากการเมืองถ้าหากนายมิ่งขวัญ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ร.ต.อ.เฉลิม ก็ถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่มีรายชื่ออยู่ในการแคนดิเดตตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ในตอนนี้ตนก็คงพูดอะไรไม่ได้ เพราะตนไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินภายในพรรค

ทั้งนี้นายสมชาย ยังเปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้มีผู้ใหญ่ในประเทศประกาศจะเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยด้วย แต่ตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร คงจะต้องปสอบถามกรรมการบริหารพรรคเอง
http://www.dailyworldtoday.com/hotnews.php?hotnews_id=42033

[goosehhardcore]

พท.ฝัน ยิ่งลักษณ์ นั่งนายกฯ หญิง
22 มีนาคม 2554 เวลา 08:07 น.

เสร็จศึกอภิปราย พรรคเพื่อไทยก็กลับมาเผชิญกับปัญหาเดิมๆ ที่คนในพรรคปวดหัวไม่จบกับคำถามที่ว่า “จะชูใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี”

ทั้งที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ซึ่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภาอย่างช้าต้นเดือน พ.ค. หรืออีกเดือนกว่า พรรคเพื่อไทยเองก็เป็นพรรคใหญ่อันดับหนึ่ง แต่กลับไม่มีความพร้อมว่าจะเลือกใครระหว่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หรือ คนนอกที่กำลังดีลกันอยู่

ปัญหาพรรคหัวขาดจึงเป็นจุดอ่อนจนถึงทุกวันนี้
บรรยากาศที่ยังอึมครึม เพราะ ทักษิณ ชินวัตร ผู้กุมอำนาจตัวจริง ยังไม่เคาะจนถึงวินาทีสุดท้ายทันทีที่มีการประกาศยุบสภา

ยุทธศาสตร์ของทักษิณ ที่ผ่านมาใช้ม้าศึกหลายตัวร่วมกันล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อเกมชิงอำนาจเข้าสู่ปลายทางกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องตัดสินใจว่า ใครจะเป็นผู้ชนะเลิศ ที่จะถูกวางตัวเป็นนายกฯ

แต่ช่วง 2 ปี ทักษิณใช้สถานการณ์ค่อยๆ ฆ่าขุนพลเขาไปทีละคนสองคน

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่สร้างผลงานฝากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ให้เกิดภาพ “สองมาตรฐาน” เป็นเชื้อให้กับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง

ที่สุดทักษิณก็ไม่เอา “บิ๊กเหลิม” เพราะกลัวคุมไม่อยู่เหมือน สมัคร สุนทรเวช จึงค่อยๆ ฆ่าเขาอย่างเลือดเย็น โดยลดบทบาทไม่ให้เป็นผู้นำทัพในศึกซักฟอก พร้อมกับดันมิ่งขวัญขึ้นมาแทน

แต่ใช่ว่าทักษิณจะเลือกมิ่งขวัญ เพราะคนที่ทักษิณวางตัวไว้ คือ ยิ่งลักษณ์

ก่อนหน้านี้คนในพรรคมองว่า การที่ทักษิณยอมให้มิ่งขวัญขึ้นมานำช่วงอภิปรายเพราะต้องการให้โอกาสบ้าง หลังจากมิ่งขวัญพยายามฉายตัวเองว่ามีความสามารถไม่แพ้คนอื่น ซึ่งทักษิณเองก็มีคำตอบในใจว่า ยังไงก็ไม่มีทางให้เก้าอี้นายกฯ แต่จะให้สถานการณ์อภิปรายซึ่งหนักสาหัสมาฆ่า “มิ่งขวัญ” ให้ตายไปอีกคน

ขณะที่มิ่งขวัญเองใช้สารเร่งโต สร้างกลุ่มขึ้นจนมี สส.หนุนหลังเกือบ 80 คน พร้อมสำหรับการขึ้นเป็นใหญ่ในพรรค ทว่าแรงจูงใจสำคัญที่คนในพรรคแห่แหนไปอยู่กับมิ่งขวัญ คือ เงินทุนแต่ละเดือนที่ “จัดหนัก” ให้กับ สส. จน “บิ๊กเหลิม” ก็แถลงคาใจว่าเงิน 3,000 ล้านบาท มาจากไหน

อีกกลุ่มที่สนับสนุนมิ่งขวัญ เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม่หญิง กทม. จาตุรนต์ ฉายแสง กุนซือใหญ่ในการอภิปรายฯ นั่นก็เพราะไม่ต้องการให้ทักษิณส่งยิ่งลักษณ์มาเป็นคู่ชิงนายกฯ เกรงว่าถ้าชินวัตรเปิดหน้าเล่น ก็จะถูกต่อต้านจนอาจไม่ได้เป็นรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หลายคนในพรรคเพื่อไทยไม่ได้ให้การยอมรับมิ่งขวัญ จากข้ออ่อนเรื่องภาวะผู้นำ ไม่ได้เก่งจริง ไม่ช่วยพรรคเดินสายหาเสียง ติดกับการตลาด รักษาภาพลักษณ์ตัวเองมากเกินไปจนไม่กล้าเสี่ยง และเหินห่างจากกลุ่มเสื้อแดง

ผลงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เขาเป็น “ผู้จัดการ” คุมการแสดงทั้งหมด ก็ไม่ประสบความสำเร็จ สื่อ คอลัมนิสต์ โพลหลายสำนัก เห็นตรงกันว่า ฝ่ายค้านเสียของ ข้อมูลไม่ลึกพอ

และ “นายใหญ่” เองก็ไม่ประทับใจ

แม้ว่ามิ่งขวัญจะประกาศตัวกลางสภาขอเป็นนายกฯ แข่งกับอภิสิทธิ์ แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของทักษิณ แต่มิ่งขวัญเองก็มีข้อดีที่เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ประนีประนอม ไม่เพาะศัตรูเพิ่ม

ล่าสุด ทักษิณยืนยันว่าจะยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร จนกว่าจะมีการยุบสภา แต่บอกสเปกคร่าวๆ ว่า คนที่เป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยต้องมีคุณสมบัติ 9 ข้อ 1.อ่อนน้อม ประสานทุกฝ่ายได้ ไม่ขยันสร้างศัตรู 2.มีเมตตาธรรม 3.รักความเป็นธรรม 4.ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงแก้ไขในสิ่งที่ผิด 5.เข้าใจเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ 6.ต้องมีประสบการณ์บริหารองค์กรขนาดใหญ่ 7.รักประชาชน 8.รักประชาธิปไตย และ 9.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ชัดเจนว่าสเปกนี้ขีดฆ่า “บิ๊กเหลิม” แต่เปิดกว้างสำหรับ “ยิ่งลักษณ์มิ่งขวัญ” เมื่อทั้งคู่ไม่สร้างศัตรู ผ่านการบริหารองค์กรใหญ่ ยิ่งลักษณ์ ปัจจุบันดูแลบริษัท เอสซี แอสเสทฯ อยู่ ส่วนมิ่งขวัญผ่านองค์กรโตโยต้า กับ อสมท มาแล้ว

สำหรับ “คนนอก” ทักษิณติดต่อไว้หลายคน ไม่ว่า วีรพงษ์ รามางกูร ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล แต่ถูกปฏิเสธหมด

ว่ากันตามจริง ลูกพรรคส่วนใหญ่เอาใครก็ได้ที่ทักษิณเลือก ยิ่งถ้าได้ เลือดแท้อย่างยิ่งลักษณ์ ก็ง่ายต่อการหาเสียง ทั้งสวย จบเมืองนอก เอามาขายสู้กับอภิสิทธิ์ได้ในแง่คนรุ่นใหม่

จุดแข็งของยิ่งลักษณ์คือ ภาพ “ความสด” และความเป็นชินวัตร แต่นี่ก็เป็นจุดอ่อน เหมือนที่อีกปีกในพรรคเป็นห่วงว่าการเอายิ่งลักษณ์มาจะทำให้การต่อสู้รุนแรงกว่าที่คิด และอาจทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ถึงฝั่ง

ข้อดีอีกเรื่อง พรรคจะเกิดความสามัคคี ไม่แตกแยก มี “ยุทธปัจจัย” ชัดเจน กระจายยังทุกกลุ่ม ไม่มีสองมาตรฐานแบ่งแยกว่าใครอยู่กลุ่มเพื่อนมิ่ง จะได้มากกว่า

ขณะที่ “บิ๊กเหลิม” ก็สนับสนุนยิ่งลักษณ์สุดตัว และพร้อมผนึกกำลังช่วย แต่หากมิ่งขวัญขึ้นเป็นเบอร์ 1 แน่นอนว่าจะเจอแรงต้านจากบิ๊กเหลิม เป็นคลื่นใต้น้ำ ที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยแตกเร็วขึ้น

กระนั้น ระหว่างที่รอการเปิดตัวผู้นำพรรคอย่างเป็นทางการ ทักษิณได้สั่งให้ทีมงานทำโพลลับก่อนการอภิปรายเมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อวัดคะแนนนิยม
ว่ากันว่า นี่เป็นโพลที่แม่นยำที่สุด ผลสรุปพบว่า ทักษิณยังครองใจเป็นที่หนึ่ง ตามด้วยอภิสิทธิ์ และยิ่งลักษณ์ ที่อยู่ในสัดส่วนใกล้กัน ส่วนมิ่งขวัญไม่เห็นฝุ่น

ทุกอย่างจึงรอเพียงการเป่านกหวีด ไม่ต้องรีบออกตัวเพราะไม่ว่าใคร ทักษิณก็เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง
ที่มา: โพสต์ทูเดย์วิเคราะห์ http://bit.ly/g4KJF3

[goosehhardcore]

"สุดารัตน์"ชี้"ยิ่งลักษณ์"เป็นผู้หญิงช่วยลดความร้อนแรงการเมืองได้
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:04:40 น.

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) กล่าวถึงผลโพลระบุว่าประชาชนเห็นด้วยที่คุณหญิงสุดารัตน์และร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เหมาะสมเป็นนายกฯ ว่า

ตนไม่เคยใฝ่ฝันจะเป็นนายกฯ ขณะนี้ก็ยังติดโทษแบนทางการเมือง แต่ในส่วนคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้นำประเทศยามนี้ คือน่าจะเป็นผู้ที่พร้อมเข้าใจทุกฝ่าย พร้อมเป็นผู้เสียสละทำให้ประเทศเกิดความสามัคคีปรองดอง คุยกับทุกฝ่ายละความเคียดแค้น รวมทั้งน่าเป็นผู้มีความรู้และมีทีมงานเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่กล้าวิจารณ์นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) หรือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเหมาะสมเป็นนายกฯหรือไม่ แต่ทั้งสองมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันอยู่ จึงเป็นสิทธิของสมาชิก พท.จะตัดสินใจเลือกว่าท่านใดเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้นำพรรค เพราะทั้งคู่ก็มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้หญิง อาจทำให้ความร้อนแรงการต่อสู้การเมืองเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามสามัคคีได้ แต่ต้องดูว่าสมาชิกพรรคจะเลือกใคร
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1300953896&grpid=&catid=01&subcatid=0100

[goosehhardcore]

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้เสนอตัวขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีการโหวตบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 5 คนคือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนอีก 2 คนเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ

ที่น่าสนใจคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวคนเล็กของตระกูลชินวัตร ที่สนิทมากกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่จับตามองอย่างมากว่าอาจมีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคและนายกฯคนต่อไป แต่ขณะนี้มีปัญหาหลายด้านจึงยังไม่สามารถที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2510 เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 9 คนของนายเลิศและนางยินดี ชินวัตร (ธิดาในเจ้าหญิงจันทร์ทิพย์ (ณ เชียงใหม่) ระมิงค์วงศ์) จบการศึกษาปริญญาตรีคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2531 และปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2533 จากนั้นเข้าทำงานที่บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด จนได้เป็นกรรมการผู้อำนวยการของเอไอเอสเมื่อ พ.ศ. 2545

หลังจากตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปให้กลุ่มเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลาออกจากเอไอเอสไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด โดยก่อนหน้านั้นได้ขายหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคมด้วย

ตามดวงชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ในช่วงนี้ เป็นจังหวะที่มีทั้งโอกาสและอุปสรรค โดยเริ่มที่ดาวพุธ (๔) ซึ่งเป็นดวงดาวที่ทำหน้าที่ในช่วงนี้มีตำแหน่งเป็นเกษตรในราศีเมถุน มีพลังงานมาก ทั้งยังได้รับแสงจากดาวอาทิตย์ (๑) ที่มีตำแหน่งเป็นราชาโชค ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับเกียรติยศชื่อเสียงและความสำเร็จได้

แต่ในระยะนี้ดาวราหู (๘) ตั้งเล็งดาวพุธ (๔) ดาวอาทิตย์ (๑) ที่ราศีธนูอยู่ตั้งแต่ปลายปี 2552 เป็นผลให้เกิดอุปสรรคที่จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดาวราหู (๘) กำลังจะย้ายเข้าสู่ราศีพิจิกในวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 จึงถือเป็นโอกาสที่ดาวอาทิตย์ (๑) และดาวพุธ (๔) จะแสดงผลอย่างเต็มที่

ในเวลาเดียวกันดาวเสาร์ (๗) เดิมในดวงชะตาที่อยู่ราศีมีนได้รับพลังงานจากดาวเสาร์ (๗) จรที่โคจรอยู่ในราศีกันย์ ทำให้เกิดศัตรูและการขัดแย้ง ทำให้มีปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่หลังจากวันที่ 17 กันยายน 2554 ดาวเสาร์ (๗) จะเป็นดวงดาวที่ทำหน้าที่แทนดาวพุธ (๔) ทั้งดาวเสาร์ (๗) จรยังเล็งดาวเสาร์ (๗) เดิมอยู่จนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2554 จึงเป็นช่วงที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ถือว่าช่วงระหว่างวันที่ 17 กันยายนถึง 7 ธันวาคม 2554 เป็นช่วงที่ดวงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตกมาก และจะเกิดปัญหามากมาย อีกทั้งดาวราหู (๘) ยังโคจรอยู่ราศีพิจิก ตรีโกณดาวเสาร์ (๗) เดิมอีก จึงไม่ควรที่จะเข้าสู่ถนนการเมือง เพราะจะเป็นเป้าให้ถูกโจมตีอย่างหนัก ทั้งยังต้องระวังเรื่องข้าวยากหมากแพง ปัญหาเรื่องน้ำท่วมอีก (เกิดจากดาวเสาร์ (๗) เดิมที่อยู่ราศีธาตุน้ำ และดาวราหู (๘) จรที่ตรีโกณถึงจากราศีพิจิกธาตุน้ำ) ถือว่าเข้ามารับทุกขลาภที่แสนจะเหนื่อยหนักเลยทีเดียว
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=50928

-------------------------------------------

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนี่คือคำพยากรณ์!

[goosehhardcore]

เปิดหน้าไม่เปิด "หัว" ยิ่งลักษณ์-ไม่ใช่-มิ่งขวัญ-ไม่ชัวร์

ขาใหญ่-ฝ่ายก้าวหน้าในเครือข่ายพรรคเพื่อไทยฟันธง-ตรงกัน ทันที ที่มีชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นหัวหน้าเพื่อไทย แม้แต่ "คนในแท้ ๆ" ยังวิเคราะห์ว่า "หากยิ่งลักษณ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะถูกกวาดล้างอีกรอบ" เพราะประสบการณ์สอน "ทักษิณ" ให้บทเรียนตระกูล "ชินวัตร" ไปแล้วว่า แม้ที่ผ่านมาได้ตั้งนายกฯ และหัวหน้าพรรค มาแทนตัวเองแล้วถึง 2 คน แต่โมเดล "ช่วยทักษิณกลับบ้าน ช่วยเพื่อไทยคืนทำเนียบ" ก็ไม่เคยสำเร็จ

เช่นเดียวกับ "แดง-ปัญญาชน" ที่แนะทางลง-ทางออกว่า "ใครก็ได้มาเป็นหัวหน้า ถึงอย่างไรเพื่อไทยก็ชนะ โดยคะแนนเสียงจะมาจากทั้งเหลืองบางเฉด แดงทั้งหมด คนที่ไม่เอาประชาธิปัตย์ต้องเลือกเพื่อไทย" โดยไม่จำเป็นต้องชูชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ให้เสียขบวน แผนเปิดชื่อ "หัว" ของเพื่อไทย จึงมี "3 หัว"

หัวแรก เป็น "หัวลวง" ใส่ไว้ในบัญชี ส.ส.ระบบสัดส่วน อันดับ 1-5 ประกอบด้วย 1.พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 2.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 3.มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ 4.โอฬาร ไชยประวัติ 5.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

หัวที่สอง เป็น "หัวนายกฯ" ที่จะเปิดตัวพร้อมหัว ในสภาผู้แทนราษฎร หลังการเลือกตั้ง เพื่อชูขึ้นมาเป็นคู่แข่งโหวตนายกรัฐมนตรี โดยเลือกจาก ส.ส.ระบบสัดส่วน 1 ใน 5 คน ที่พรรคและ "ทักษิณ" เลือกไว้ในใจ

หัวที่สาม เป็น "หัวหน้าพรรค"จะเปิดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หัวนี้จะมีดีกรีสำคัญที่สุด ด้วยโมเดลพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ "พรรค" ต้องใหญ่-มีอำนาจ มากกว่า "นายกฯ-คณะรัฐบาล"

"หากนายกฯที่พรรคส่งไปโหวตแข่งในสภาชนะ แล้วไปทำเรื่องที่นอกเหนือจากคำสั่งพรรค บ้าอำนาจหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคสั่งปลดได้" แหล่งข่าวในเพื่อ ไทยอธิบายโมเดล

เป็นโมเดลที่พัฒนามาจากประสบการณ์ การแต่งตั้งให้ "สมัคร สุนทรเวช" เป็นทั้ง "หัวหน้าพรรค-หัวหน้ารัฐบาล" ที่ไม่มีพันธะยึดโยงกับความเป็นพรรคพลังประชาชน
คนในพรรคบอกตรงกันว่า ต่อไปนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะ "เข็ด...ที่สมัคร ไม่ยอมฟังใคร แต่พรรคก็ทำอะไรไม่ได้"

ดังนั้นโมเดลใหม่นี้ อาจมีชื่อ "มิ่งขวัญ" เป็นนายกฯ และหาก "มิ่งขวัญ" ไม่เดินงาน-ทำภารกิจของ "พรรคและทักษิณ" พรรคก็มีมติ "ปลดนายกรัฐมนตรีได้"

"เพราะฉะนั้นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย จึงไม่ใช่หัวหน้าพรรคแน่นอน" แหล่งข่าวในเพื่อไทยยืนยัน

ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อไทยจะออกแคมเปญให้เข้าใจโดยทั่วกันว่า ส.ส.สัดส่วน เบอร์ 1-5 มีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี โดยซ่อนไพ่ใบที่จะเป็นหัวหน้า และนายกรัฐมนตรีไว้ ไม่ให้เป็น "เป้านิ่ง" ที่จะถูกโจมตี ได้ถูกตัว

นักการเมืองขาใหญ่-เก๋าเกมบอกด้วยว่า หากชูชื่อ "ยิ่งลักษณ์" เป็น "หัว" นอกจากพรรคจะโดนกวาดล้างแล้ว ยังอาจโดนโจมตีจนช้ำได้ และไม่อาจนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกเลย

เส้นทางการเมืองของ "ยิ่งลักษณ์" จึงเป็นได้เพียง "ส.ส.ระบบสัดส่วน" แกนนำพรรคระดับใกล้ชิด "ทักษิณ" บอกว่า "วิธีคิดของยิ่งลักษณ์ คงไม่โง่ ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ให้คนหมั่นไส้" ดังนั้นบรรทัดสุดท้าย-เป้าหมายของเพื่อไทย จึงอยู่ที่หลังเลือกตั้ง ประมาณ 72 ชั่วโมง ชั่วข้ามคืนสุดท้าย ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภา

โดยมีวิธีการ เสนอชื่อ ส.ส.สัดส่วน คนใดคนหนึ่ง ที่ "ทักษิณ" ซ่อนไพ่ไว้ ในมือ เป็นนายกรัฐมนตรี 1 คืนก่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดแรก แล้วล็อบบี้ หาคะแนนเสียง ส.ส.จาก พรรคร่วม แล้วโหวตนายกรัฐมนตรีจาก เพื่อไทย ในวันรุ่งขึ้นทันที

ที่ผ่านมา คนในครอบครัว "ชินวัตร" จะหนุน "ยิ่งลักษณ์" ขึ้นเป็น "หัว" ด้วยการส่งเธอลงพื้นที่ เหนือ-ใต้-อีสาน-ออก-ตก ทั่วประเทศ

เยาวเรศ ชินวัตร-บอกนักข่าวระหว่างลงพื้นที่ให้กำลังใจน้องสาวที่ภาคอีสานว่า "เราเข้ามาเพราะคนที่ดูแลพรรคเป็นน้อง เป็นญาติ มันก็ต้องลิงก์กันอยู่แล้ว" "ทักษิณ" ก็เปิดหน้า-ปล่อยเสียง-ส่งสัญญาณ ให้การสนับสนุน "ยิ่งลักษณ์" แต่เกมการเล่นเผ-เปิดไพ่ทีละโผ ยังจำเป็นสำหรับตระกูล "ชินวัตร"

นาทีนี้ ชื่อ "ยิ่งลักษณ์" จึงอาจยังไม่ใช่ ชื่อ "มิ่งขวัญ" ยังอาจไม่ชัวร์ จนกว่าจะถึง 24 ชั่วโมงสุดท้าย ก่อนการโหวตแข่งในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ควรลืมว่าครั้งหนึ่ง ชื่อ "สมัคร" เคยถูกหักหลังคาสภา เพราะการล็อบบี้เพียงชั่วข้ามคืน

คำตอบสุดท้ายอยู่ที่คนถือไพ่ ที่ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1301736353&grpid=no&catid=04&subcatid=
วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:00:55 น.

[goosehhardcore]

เมื่อเสือพบ(นาง)สิงห์
วันที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:30:09 น.


ถือเป็น "ไฮไลต์" สำคัญ สำหรับการเผชิญหน้ากันระหว่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย

ในการจัดงาน "ใจประสานใจช่วยไทยน้ำท่วม" เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11

งานนี้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" มาในฐานะประธานวิทยาลัยตลาดทุน รุ่น 12 หรือ วตท.12 ไม่ได้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

โดย "ยิ่งลักษณ์" นั้น มาแรงจริงๆ เข้ามานั่งเป็นประธานรุ่นปุ๊บก็สามารถระดมเงินจากรุ่นได้จำนวนทั้งสิ้น 3,550,000 บาทปั๊บ

มีแหล่งข่าวผู้อยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าเรื่องราวเหตุการณ์การพบกันระหว่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ไว้ได้ละเอียดยิบ

"ต้องขอบอกว่าเงินที่มอบผ่าน ′อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ′ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ทันที เรื่องนี้เป็นไปอย่างที่กลุ่ม F.O.Y. (กลุ่มเพื่อนยิ่งลักษณ์) บอกไว้ว่า ′ยิ่งลักษณ์′ อยู่ตรงไหนก็ตาม ก็พร้อมที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคม ในทุกสถานะจริงๆ

ในงานนี้มี "สื่อ" ที่ร่วมทำข่าวแอบมาแพร่งพรายออกมาว่า บรรยากาศแห่งการรับมอบภายใน "ห้องจัดงาน" ของช่อง 11 นั้นได้เรียก เสียง "ซี้ด" ให้กับบรรดา "คอการเมือง" เป็นอย่างมาก



ทั้งนี้ เนื่องจากการ "โคจร" มาพบกันระหว่าง "ยิ่งลักษณ์" ในฐานะประธาน วตท.12 กับ "อภิสิทธิ์" ในฐานะ "สร.1" ซึ่งผู้ชมทั้งห้องส่ง "ลุ้น" ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่มาเจอหน้ากันอย่างจังๆ

มีการระบุว่า "อภิสิทธิ์" กับ "องอาจ คล้ามไพบูลย์" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมายืนรอรับคณะ วตท.12 ที่มี "ยิ่งลักษณ์" นำมามอบเงินช่วยเหลือก็น่าจะปกติ ไม่มีอะไร

แต่มีคนสังเกต "ท่าที" ของ "อภิสิทธิ์" ว่าออกจะ "อึดอัด" และไม่ค่อยอยากเผชิญหน้าตรงๆ แถมยังไม่มีการทักทายกันตามมารยาท!

และเมื่อลงจากเวทีแล้วนักข่าวก็ตามสัมภาษณ์ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" กลับได้คำตอบเรียกความรู้สึกทันทีว่า "คนไทยต้องช่วยกันค่ะ"

งานนี้ "กองเชียร์" ขอบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น "โนคอมเม้นท์" ให้คิดกันเอาเอง แต่ยังไม่วายมีเสียงกระซิบเบาๆ ว่างานนี้ "สร.1เสียแต้ม"

และนี่คืออีกเหตุการณ์หนึ่งที่เปรียบเทียบระหว่าง "อภิสิทธิ์" ผู้ที่ถูกระบุว่าไม่เอ่ยแม้กระทั่งคำขอบคุณสำหรับเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ กับคำกล่าวของ "ยิ่งลักษณ์" ที่ว่า "คนไทยต้องช่วยกันค่ะ"

จริงหรือไม่ คนทั้งสองคงรู้ดี


ที่มา : มติชนรายวัน(update:วันที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:30:09 น.)

[goosehhardcore]

ยิ่งลักษณ์สายตรงเฉลิม ไฟเขียว"วัน"ลงลต.กทม.
9 เมษา. 2554 07:53 น.

แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวเนชั่น ถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะลงสมัคร ส.ส.กทม.เขตบางบอนในนามพรรคเพื่อไทยว่า แต่เดิมภาคกทม.นั้น ไม่เห็นด้วยที่พรรคจะส่งนายวัน ลงสมัคร ส.ส.กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเกรงเรื่องของภาพลักษณ์ส่วนตัวของนายวัน อาจจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงของพรรคได้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริหารพรรคยังยืนยันที่จะมีมติให้ พรรคส่งนายวัน ลงสมัครส.ส.กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย


"ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์ ไปพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยได้ขอร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม ยอมให้นายวัน ลงสมัคร รับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย ดั้งนั้น เมื่อพรรคตัดสินใจส่งนายวัน ลงสมัคร ส.ส. จึงเท่ากับว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะยังคงมีความผูกพันธ์กับพรรคอยู่ และพร้อมที่จะทำงานเพื่อพรรคต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่า กรณีของนายวันนั้น จะส่งผลให้ ร.ต.อ.เฉลิม ยอมใจอ่อนลงสมัคร รับเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในนามพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว


แหล่งข่าวใกล้ชิดร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้เตรียมจัดงานเลี้ยงเปิดตัวนายวัน ลูกชายลงสนามเลือกตั้งกทม.ในนามพรรคเพื่อไทยในวันเสาร์ที่ 23 เมษายนนี้ ที่บ้านริมคลองของร.ต.อ.เฉลิม
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=503962&lang=&cat=

[goosehhardcore]

นายวัน ลูกชายเฉลิม เปิดตัว ส.ส.เขตหนองแขม ขอโอกาสชาวหนองแขม ขอเป็นกำลังใจให้นะครับผม
https://www.youtube.com/watch?v=XN0oKMShTg4&feature=player_embedded#at=40

[goosehhardcore]

คู่ชิงนายกฯใน-นอกสภาฯ เส้นทางของ "ยิ่งลักษณ์-อภิสิทธิ์" และ2แคมเปญเด็ดเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 16:00:51 น.


ในตึกชินวัตร ชั้น 24 มีห้องประชุม "ลับ"

ก่อนเสียงโฟนอินจาก "ทักษิณ ชินวัตร" จะดังขึ้นที่พรรคเพื่อไทย คำราม-ปราม พวกเชียร์ "ว่าที่นายกฯ" คนในพรรค

ที่ตึกชินวัตร มีวาระการประชุม "ลับ" พิจารณาประเด็น แคมเปญเลือกตั้ง และวาระหัวหน้าพรรค โดย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นั่งหัวโต๊ะ
วาระแคมเปญการเมือง บรรทัดสุดท้าย เป็นข้อสรุป ที่ถูกเสนอจากปาก "ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" แกนนำ นปช.
แคมเปญการเมืองมีเป้าหมายชู "ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ" ทางอ้อมจากนอกวง เข้าสู่การโหวตในสภาผู้แทนราษฎร

ด้วยการรณรงค์ทั่วประเทศ บรรทัดเดียวจบ คือ "เลือกเพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง เป็นรัฐบาล"
การเข้าสู่การเมืองแบบเต็มตัวของ "ยิ่งลักษณ์" อาจจะเกิดขึ้นทันที ที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา "ยุบสภา"
ชื่อนายกฯ "นอกสภา" จึงถูกสรรหาไว้แล้วจากตึก "ชินวัตร"

ทำให้ค่ายประชาธิปัตย์ จัดทัพสู้ศึกเลือกนายกฯคนที่ 28 ด้วยการชูแคมเปญ "ต้องเลือกนายกฯในสภา"
ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประธานวอร์รูมการเมือง ดีดลูกคิดการเมือง เตรียมแคมเปญ ดักทางทั้งใน-นอกสภา
เกมนอก-ในสนามเลือกตั้ง จึงตั้งความหวังไว้ที่ การปั้นตัวเลข ส.ส.ให้ได้ไม่น้อยกว่า 250 เสียง

เกมในสภา-หลังปิดหีบเลือกตั้ง หวังล็อกมือ-ล็อกเสียง "ข้างมาก" จากทุกพรรคในสภา เพื่อ "โหวต" ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ให้ "อภิสิทธิ์"
วิธีการที่ค่ายประชาธิปัตย์เตรียมตั้งรับคือ "หลักการโหวต" ที่พรรคอันดับ 1 หรืออันดับ 2 มีสิทธิ์เสนอชื่อหัวหน้าพรรค เข้าชิงเก้าอี้นายกฯ และวัดคะแนนด้วยการโหวต
"การตั้งรัฐบาลต้องตั้งในสภา" ชำนิ-อ้างหลักการ-ธรรมเนียมปฏิบัติ

"เขามีสิทธิได้ตั้งรัฐบาลก่อน แต่ถ้าคนฝ่ายเขาเสนอตัวนายกฯ แล้วแพ้โหวตเราก็มีสิทธิ์เสนอชื่ออภิสิทธิ์แข่ง และเราแข่ง 3 ครั้งแล้ว แพ้ 2 ครั้ง ชนะ 1 ครั้ง"
"ขึ้นอยู่กับส.ส.ในสภา ว่าจะเลือกใครเป็นนายกฯ"

เส้นทางการเมืองของ "ยิ่งลักษณ์" อยู่ที่ "ทักษิณ" ผู้ถือไพ่-เล่นเผ ภายใต้โพลที่แน่ยิ่งกว่าแน่ ว่าจะ "ชนะเลือกตั้ง"
เส้นทางการเมืองของ "อภิสิทธิ์" เปิดหน้า-เปิดตัว ภายใต้แคมเปญและผลโพล ที่ยังอยู่ในตัวเลข 50/50

สัญญาณ-บรรทัดสุดท้าย การชิงชัยเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ยังอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร

.........


ที่มา :ประชาชาติธุรกิจ (การเมือง)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302511657&grpid=01&catid=&subcatid=

[goosehhardcore]

นักวิชาการชี้"ยิ่งลักษณ์"เป็นนายกฯเพื่อตระกูล"ชินวัตร" แนะพท.ควรเร่งเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 22:29:08 น.


น.ส.สิริพรรณ นกสวน อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเมื่อวันที่ 11 เมษายน ว่า ไม่แปลกใจที่มีกระแสข่าวจากพรรคเพื่อไทย จะให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 จะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเป็นครอบครัวและพรรคชินวัตรทันที ดังนั้น ไม่ว่าจะมีชื่อปรากฏเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ในขณะนี้ก็เป็นการปล่อยชื่อออกมาเพื่อทดสอบกระแสสังคมเท่านั้น ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณจะเซฟครอบครัวมาตลอด แต่ด้วยไม่ไว้วางใจกับการเลือกตั้งผู้นำพรรคในอดีต ครั้งนี้จึงเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะหากเลือกนายมิ่งขวัญก็อาจจะยังไม่ได้ใจคนเสื้อแดง


"แนวโน้มที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกชูตัวเป็นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นไปได้สูง นั่นหมายความว่าจะเป็นการเปิดศึกสู้กับชนชั้นนำและทหารเต็มที่ โดยขณะนี้เห็นว่าพรรค พท.ควรที่จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯในเร็ววันนี้เพราะใกล้จะมีการเลือกตั้งได้แล้ว ยิ่งในช่วงสงกรานต์เมื่อ ส.ส.ลงพื้นที่ประชาชนก็จะถามว่าใครจะมาเป็นนายกฯซึ่งหากเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เป็นการต่อสู้เพื่อครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ


ที่สำคัญหลังการเลือกตั้งแนวโน้มที่พรรค พท.จะถูกยุบพรรคยังมีสูง เพราะจะมีกระบวนการสกัดกั้นมิให้พรรค พท.ได้ตั้งรัฐบาลอย่างเต็มที่ และหากพรรค พท.ได้ตั้งรัฐบาลก็จะต้องเป็นการตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นนายกฯโอกาสวิกฤตการเมืองจะกลับมาอีกครั้งจะยังคงมีความวุ่นวายอยู่ไม่ว่าพรรคใดชนะเลือกตั้งก็ตาม ซึ่งหากรอให้อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กลับมาถึงเวลาก็อาจมีจุดเปลี่ยนได้" น.ส.สิริพรรณกล่าว


ด้านนายทวี สุรฤทธิกุล อาจารย์ประจำสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์คือการเอาใจใส่ต่อพรรคเพื่อไทย เพราะการเลือกน.ส.ยิ่งลักษณ์เท่ากับเลือกพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ย่อมเป็นที่จะถูกกระบวนการต่างๆ สกัดกั้นอยู่ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นเป้าหมายและเป็นไปได้ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะถูกวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ หากไม่ถอดใจก่อน เพียงแต่เวลานี้เป็นเวลาที่พรรคเพื่อไทยควรเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯอย่างเป็นทางการได้แล้ว ไม่ควรรอให้มีการยุบสภา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302519936&grpid=00&catid=&subcatid=

[goosehhardcore]

"ป๋าเหนาะ-บิ๊กจิ๋ว "ทักท้วงดัน "เจ๊ปู" ขึ้นแคนดิเดตเก้าอี้นายกฯ เหตุใกล้ชิด "แม้ว" เกินไป
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 06:59:55 น.

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งเมื่อวันที่ 11 เมษายน ว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ว่าอาจทำให้เกิดความกังวลของ ส.ส.พรรคจำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยอย่างนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่เคยหารือร่วมกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และมีความเห็นว่ายังไม่ควรชู น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯขณะนี้ เพราะถือเป็นคนในครอบครัวชินวัตร และใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณมาก อาจเป็นปัญหาการสร้างความประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเดิมหลังจากเลือกตั้งเสร็จสิ้น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302529948&grpid=00&catid=&subcatid=

[goosehhardcore]

โฆษก พท.ปัด "เหนาะ-จิ๋ว" ขวาง "ยิ่งลักษณ์"
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 19:51:25 น.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 12 เมษายน ถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย ไม่สบายใจที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเกรงแรงเสียดทานจากฝ่ายตรงข้าม ว่า ตนได้พูดคุยกับเลขานุการส่วนตัวของ พล.อ.ชวลิตแล้ว ได้รับคำยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าว


รวมทั้งกระแสข่าวที่ระบุว่าจะถอนตัวจากพรรคเพื่อไทยก็ไม่มี และขณะนี้ พล.อ.ชวลิต ได้ลงพื้นที่ที่ จ.กาฬสินธุ์ ตามสถานการณ์ที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง โดยในวันที่ 13 เม.ย. จะเปิดบ้านพักริมโขง ที่ จ.นครพนม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รดน้ำดำหัวตามประเพณีสงกรานต์ และสำหรับนายเสนาะ นั้น เท่าที่ได้สอบถามจากคนใกล้ชิดก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน และพร้อมที่จะเข้ามาช่วยพรรคเพื่อไทยหลังการยุบสภา เพื่อสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยได้เสียงในสภามากที่สุดและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302612158&grpid=03&catid=03

[goosehhardcore]

วิเคราะห์-วิพากษ์ "ยิ่งลักษณ์" จากมุมมองใน-นอกประเทศ: ไพ่ใบสุดท้ายของพี่ชาย-วิธีเลือกผู้นำที่ล้าสมัย
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 20:00:00 น.

"ยิ่งลักษณ์" ไพ่ใบสุดท้าย กุมชะตา "ทักษิณ-เพื่อไทย"
(หน้าการเมือง หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 13 เมษายน 2554)

ความคืบหน้าล่าสุด ของ "พรรคเพื่อไทย" ที่เปิดโหมดเลือกตั้ง เข้าสู่โหมดของการหาเสียง คือ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เคาะชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" น้องสาวคนสุดท้าย ให้ลงสมัคร ส.ส.ในระบบ "ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1" ของพรรคเพื่อไทย

ซึ่งนั่นหมายความว่า โอกาสที่ "ยิ่งลักษณ์" จะถูกดันให้ขึ้นเป็นตัวแทน "พรรคเพื่อไทย" ในตำแหน่ง "แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี" พุ่งสูง หนีแคนดิเดตคนอื่นๆ ลิบลับ

โดยในวงประชุมกลางเมือง "ดูไบ" ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่แวดล้อมไปด้วย "สายทักษิณ" ไม่ว่าจะเป็น "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" , "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" , "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" และ "ยงยุทธ ติยะไพรัช" สรุปร่วมกันว่า "ยิ่งลักษณ์" คือผู้ที่เหมาะสมที่สุด ที่จะเป็น "ผู้นำทัพเพื่อไทย" ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

เฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสถานการณ์การต่อสู้ระหว่าง "พ.ต.ท.ทักษิณ" และ "ฝ่ายถืออำนาจ" เข้ามาถึงจุดสำคัญ ที่ทำให้มองได้ว่า "ชัยชนะหลังการเลือกตั้ง" ไม่ได้มีความหมายเพียง "การชิงอำนาจรัฐ"

หากย้อนมองสถานการณ์การเมืองในภาพรวม "พรรคเพื่อไทย" และ "พ.ต.ท.ทักษิณ" เผชิญศึกใหญ่อยู่ 2 ด้าน คือ "แรงต้านจากภายนอก" กับ "แรงกระเพื่อมภายใน"

โดย "แรงต้านจากภายนอก" นั้น แกนนำใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ประเมินตรงกันว่า ไม่ว่า "เพื่อไทย" จะส่งใครมานั่งเป็น "แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี" ก็หนีไม่พ้นข้อกล่าวหา "นอมินีทักษิณ" และต้องเผชิญกับการโจมตีทุกรูปแบบ ไม่ต่างจากกัน

และที่สำคัญคือ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกระแสโจมตีเหล่านี้ได้

ดังนั้น ทั้งหมดจึงหันมอง "ปัญหาภายใน" คือ "แรงกระเพื่อมในพรรค" ที่ขณะนี้ "แกนนำระดับบิ๊กเนม" หลายคน ประกาศตัวในทั้งที่ลับและที่ไม่ลับ จะขอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี [b]ซึ่งไม่ว่า "แกนนำคนไหน" จะได้ขึ้นมาหยิบชิ้นปลามัน เอาไปได้ ย่อมทำให้ "ผู้ที่ผิดหวัง" ตีโพยตีพาย สร้าง "แรงกระเพื่อมภายใน" ได้รุนแรง และจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา


(มีต่อ)

[goosehhardcore]

จึงมีการเสนอชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ซึ่งถือเป็นสายตรงที่สุด ขึ้นมาเป็น "แคนดิเดต" คนสำคัญ
[/b]
ภายใต้สมมติฐาน ที่ว่า สถานะ "สายตรง" ของ "ยิ่งลักษณ์" จะสามารถสยบ "ศึกใน" และทำให้ "เพื่อไทย" กลับมาแข็งแกร่ง เพื่อสู้ "ศึกนอก" ในการเลือกตั้งได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผล "แพ้-ชนะ" ในสนามเลือกตั้ง คือ คำพิพากษา อนาคต "เพื่อไทย" ลมหายใจ "เสื้อแดง" และสำคัญที่สุดคือ ชีวิตของ "พ.ต.ท.ทักษิณ"
เพราะหาก "เพื่อไทย" ต้องพ่ายแพ้ใน "การเลือกตั้ง" ครั้งนี้ เอฟเฟ็คต์สำคัญที่จะตามมาคือ ผลกระทบต่อความมั่นใจใน "กระแสทักษิณ"

ซึ่งจะส่งผลต่อความชอบธรรม ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ ทั้งในระบบรัฐสภาและเกมการเมืองข้างถนน โดยเฉพาะ "พรรคเพื่อไทย" ที่หลายคนมองตรงกันว่าโอกาส "พรรคแตก" มีสูง

ดังนั้น การลงเลือกตั้งครั้งสำคัญ ในฐานะ "ฝ่ายค้าน" จึงไม่แปลกเลย หาก "พ.ต.ท.ทักษิณ" จะเลือก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็น "ไพ่ใบสำคัญ" ขึ้นมาต่อกรกับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" , "พรรคประชาธิปัตย์" และ "ฝ่ายถืออำนาจ" ทั้งระบบ

เป็นการ "ทุ่มสุดตัว" ที่ "ระดับแกนนำพรรคเพื่อไทย" มองว่า เป็น "ไพ่ใบเดียว" ที่จะเพิ่มโอกาสให้ "เพื่อไทย" ได้รับชัยชนะ

แม้จะมีความพยายาม ส่งสัญญาณ คัดค้านจาก "อดีตนักการเมืองผู้ใหญ่" ในพรรค ไม่ว่าจะเป็น "จาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

รวมไปถึง "พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" ประธานพรรคเพื่อไทย และ "เสนาะ เทียนทอง" หัวหน้าพรรคประชาราช บิ๊กเนมที่เพิ่งตบเท้าเข้ามาอยู่กับ "ฝ่ายทักษิณ"
โดยเป็นห่วงในสถานการณ์หลังเลือกตั้งว่า ความเป็น "ชินวัตร" ของ "ยิ่งลักษณ์" อาจจะสร้างปัญหาให้กับการประนีประนอมกับ "ฝ่ายถืออำนาจ"

แต่ "แกนนำสายทักษิณ" สรุปเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า "อำนาจรัฐ" คือใบเบิกทางไปสู่ "โต๊ะเจรจา" ดังนั้น "ชนะเลือกตั้ง" ให้ได้ก่อน น่าจะดีกว่า !!!

"วิธีการเลือกผู้นำแบบล้าสมัย!!"

(เขียนโดย แอนดรูว์ วอล์คเกอร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย เผยแพร่ในเว็บล็อก "นิว มันดาลา" หรือ "นวมณฑล" เมื่อวันที่ 12 เมษายน)

ใครก็ตามที่กำลังสนับสนุนให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคตของประเทศไทย สมควรจะถูกประณามอย่างรุนแรง!

การคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งผู้นำระดับชาติ ด้วยพื้นฐานในเรื่อง "สายเลือด" ถือเป็นวิถีปฏิบัติที่ไม่น่าเชื่อถือและเก่าแก่ล้าสมัย ผู้นำระดับชาติควรจะถูกคัดเลือกจากคุณสมบัติทางด้านคุณธรรมความสามารถ ไม่ใช่ด้วยหลักเกณฑ์ทางด้านสายโลหิต คุณสมบัติในการเป็นผู้นำนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถและการประสบความสำเร็จในโลกแห่งความจริง นี่คือสิ่งที่สำคัญเกินกว่าจะถูกยุติลงด้วยอุบัติเหตุทางพันธุศาสตร์ของการมีบรรพบุรุษร่วมกัน

พวกเราล้วนรู้เป็นอย่างดีว่า การที่สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวใดมีความสามารถและได้รับการเคารพนับถืออย่างสูงนั้น ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าบรรดาเครือญาติร่วมสายเลือดของเขาจะถูกสร้างขึ้นมาให้มีความสามารถในระดับเดียวกัน ประวัติศาสตร์ถูกทำให้เรี่ยราดไปด้วยการกระทำที่โง่เขลาอันน่าเศร้าสลดของพี่น้องซึ่งมีความทะเยอทะยานมากเกินไป, เครือญาติที่มีความโหดเหี้ยมอำมหิต และบรรดาลูกชายผู้เบาปัญญา

การนำทางประเทศชาติในช่วงเวลาอันยากลำบากต้องอาศัยมากกว่านามสกุลอันเป็นมงคล นี่คือช่วงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องก้าวให้พ้นไปจากรอยทางของระบอบปิตาธิปไตยเสียที
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302697263&grpid=01&catid=&subcatid=

[goosehhardcore]

"ยิ่งลักษณ์"นำทีม ส่งเทียบเชิญ"ประชา"ร่วมงานการเมืองเพื่อไทย "อดีตผบ.ตร."ตอบรับยินดี
วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 21:05:22 น.

เมื่อวันที่ 22 เมษายน แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิทยา บุรณศิริ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าพบ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดินและอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ที่บ้านพักส่วนตัว ถนนวิภาวดี ซอย 60

เพื่อส่งเทียบเชิญให้ พล.ต.อ.ประชาร่วมงานการเมืองกับเพื่อไทยก่อนที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานเปิดตัวนโยบายของพรรคเพื่อไทยวันที่ 23 เมษายนนี้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดย พล.ต.อ.ประชาได้เตรียมก๋วยเตี๋ยวไก่ไว้เลี้ยงต้อนรับด้วย

ทั้งนี้ นายยงยุทธได้กล่าวกับ พล.ต.อ.ประชา ว่า การเดินทางมาของแกนนำพรรคเพื่อไทยครั้งนี้เหมือนกับประเพณีอินเดีย ซึ่งก็คือการที่พรรคเพื่อไทยมาสู่ขอ พล.ต.อ.ประชาให้ไปร่วมงานการเมืองด้วยกัน

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า หาก พล.ต.อ.ประชามาร่วมงานกับพรรคจะทำให้พรรคเพื่อไทยมีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่ง พล.ต.อ.ประชาได้ตอบว่ามีความยินดีและพร้อมที่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยโดยในวันที่ 23 เมษายนนี้ จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1303471899&grpid=00&catid=&subcatid=
--------------------------------

[goosehhardcore]

ท่านทักษิณแถลงนโนบาย 23 4 20011
https://youtu.be/VmTLR4CRA6Y



นโยบายทักษิณคิด เพื่อไทยทำ