เงินปลัดโยง3บริษัท

[lucky m.]

เงินปลัดโยง3บริษัท

ปปช.เผยสืบจากสายรัด พบถอนวันเดียวཆล้าน'


ป.ป.ช.พบข้อมูลเด็ดจากสายรัดธนบัตร เงิน ของกลางที่ยึดได้จากแก๊งปล้นบ้านปลัดคมนา คมรวม 18 ล้านบาท พบโยงถึงบริษัทเอกชนคู่สัญญากับคมนาคม แฉมีเงินประมาณ 10 ล้านบาท ถอนออกมาโดยเอกชนรายหนึ่งภายในวันเดียว สั่งตรวจสอบวันที่ถอนเงินทางคมนาคมมีประมูลงานอะไรหรือไม่ ด้าน 'กล้านรงค์' เผยสอบพบรายชื่อบริษัท 2-3 แห่ง หากมีข้อมูลมากกว่านี้จะเรียกมาสอบถามข้อเท็จจริง ด้านสุพจน์ยังไม่มาให้ปากคำเรื่องบัญชีทรัพย์สิน แต่อย่างไรก็ต้องมาให้ปากคำภายในวันที่ 11 ม.ค. ปีหน้าแน่นอน

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการและโฆษกป.ป.ช. แถลงภายหลังการประชุมคณะ กรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ ว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานจากอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ยื่นบัญชีแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นเท็จ ร่ำรวยผิดปกติ และทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ที่มีนายปรีชา เลิศกลมมาศ เป็นประธาน ได้รายงานขั้นตอนดำเนินการให้ กรรมการป.ป.ช.ทราบถึงความคืบหน้า โดย อนุไต่สวนดำเนินการมาตลอดและมีความคืบหน้าว่าได้ไปขอหลักฐานสำเนาคำให้การของนายสุพจน์ที่ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นั้นมาแล้ว

"อนุไต่สวนฯ รายงานอีกว่า ดำเนินการ ส่งหนังสือถึงธนาคารทั้งหมด 42 แห่ง เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายสุพจน์ โดยขณะนี้ตอบมาแล้ว 27 แห่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดของคณะอนุกรรมการ และอีกประการหนึ่งคือการตรวจสอบสายรัดธนบัตรเงินของกลางที่ตำรวจยึดมาจากผู้ต้องหา พบว่าเชื่อมโยงถึงธนาคารรวม 5 แห่ง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ และจากการตรวจสอบสายรัดธนบัตรนั้นพบว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงกิจ การของบริษัทบางบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการประกวดราคาในกระทรวงคมนาคม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบแล้วว่าบริษัทอะไรแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้" นายกล้านรงค์กล่าวและว่า ป.ป.ช.ยังเชิญเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทยมาเป็นอนุกรรมการ เพื่อให้เกิดความรอบ คอบในการทำงาน

กรรมการและโฆษกป.ป.ช.กล่าวอีกว่า จากกรณีที่ป.ป.ช.เคยมีมติให้นายสุพจน์แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 30 วัน และไม่เกิน 60 วัน ถึงขณะนี้นายสุพจน์ยังไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ มาแต่อย่างใด ดังนั้นป.ป.ช.จึงให้เวลา 32 วัน และจะครบกำหนดไว้ภายในวันที่ 11 ม.ค. 55

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีจำนวนกี่บริษัทที่เชื่อมโยงถึงเงินที่ตรวจสอบ นายกล้านรงค์กล่าวว่า มีบางบริษัท เมื่อถามว่าในโครงการใดของกระทรวงคมนาคม นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่อนุกรรมการทราบดี เมื่อถามว่าเกี่ยวโยงกับเรื่องรถไฟฟ้าหรือไม่ โฆษกป.ป.ช. กล่าวว่า ยังไม่ขอตอบ เรียนได้เพียงว่ามีความเกี่ยวพันกับบางบริษัทที่ได้ดำเนินการทำสัญญากับกระทรวงคมนาคม มีข้อมูลเชื่อมโยงตรงนี้ เมื่อถามว่าเกี่ยวโยงถึงนักการเมืองหรือไม่ นายกล้านรงค์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้

ต่อข้อถามว่ามีการทำสัญญาและผ่านการประมูลแล้วใช่หรือไม่ นายกล้านรงค์กล่าวว่า มีการทำสัญญา เมื่อถามย้ำว่าจะส่งผลกระทบถึงโครงการที่ทำสัญญากับรัฐไปแล้วอย่างไร นาย กล้านรงค์กล่าวว่า "ไม่เกี่ยว ยังไม่เกี่ยว ขณะนี้กำลังสืบลึกลงไปถึงจุดนั้น ว่ามันไปถึงแค่ไหน เพียงไร อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการของอนุไต่สวน ยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ตอบ อยู่แต่เพียงว่าพบมีข้อมูลเกี่ยวพันก็จะดำเนินการไต่สวนลึกลงไปตรงนั้น"

เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่มีผลทำให้โครงการรัฐที่ทำสัญญาไปแล้วต้องเป็นโมฆะใช่หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลตรงนั้น เมื่อถามว่าหากสอบแล้วพบว่าบริษัทเอกชนมีความเกี่ยวพันจริง ป.ป.ช.สามารถเรียกมาไต่สวนได้หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า แน่นอน โดยอนุไต่สวนสามารถเรียกมาสอบได้โดยไม่ต้องขอมติจากที่ประชุมใหญ่

รายงานข่าวป.ป.ช.แจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนายสุพจน์ พบว่า ขณะนี้ได้ข้อมูลมากพอสมควร โดยคณะอนุกรรมการสงสัยบริษัทเอกชนที่ประมูลงานกับกระทรวงคมนาคม 2-3 แห่ง ว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับข้อมูลในสายรัดธนบัตร เนื่องจากพบว่าเงินสดของกลางที่พบในบ้านนายสุพจน์ ประมาณ 10 ล้านบาท เป็นเงินที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคม ถอนออกมาภายในวันเดียว ซึ่งคณะอนุกรรมการกำลังติดตามตรวจสอบลึกลงไปอีกว่า ในช่วงวันเวลาดังกล่าวมีการประมูลโครงการสำคัญอะไรของกระทรวงคมนาคมบ้าง เพื่อหาความเชื่อมโยง
..................................
ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก ข่าวสด