รวยอู้ฟู่!

[goosehhardcore]

รวยอู้ฟู่!


การแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “สัตว์การเมือง” ถือเป็นหนึ่งในมาตรการตรวจสอบและป้องกัน “โจรใส่สูท” ที่ไม่ยอมเปลี่ยนสันดอนและสันดาน “โคตะระโกง” แม้จะไม่ใช่มาตรการที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ดีกว่าไม่มี “อำนาจ” หรือ “อาวุธ” อะไรเลย

ล่าสุด “เสือกระดาษ (ติดปีก)” ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน “สัตว์การเมือง” ที่พ้นจากตำแหน่งในสภาอันทรงเกือกตั้งแต่หัวจดหาง ที่น่าสนใจและคนอยากรู้คงหนีไม่พ้น “หล่อหลักลอย” ที่ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านบาท คือ 51 ล้านบาทเพิ่มเป็น 54 ล้านบาท ยังเป็นเศรษฐีสิบล้านไม่ใช่ร้อยล้าน

ส่วนเพื่อนคู่ใจ “อำมาตย์โย่ง” ทรัพย์สินลดลงแค่ 90 กว่าล้านบาท แต่ยังเป็นเศรษฐีเฉียดพันล้าน คือมีทรัพย์สินรวมกว่า 839 ล้านบาท จากที่แจ้งไว้กว่า 929 ล้านบาท แต่ถ้าดูหนี้สินที่เดิมมีกว่า 1 ล้านบาท ลดลงเหลือแค่ 5 แสนกว่าบาท เท่ากับ “รวยคงที่”

ด้าน “เทพอมทุกข์” มีทรัพย์สินลดลงกว่า 11 ล้านบาท จากเดิมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 80 ล้านบาท หลังถอด “หัวโขน” มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 69 ล้านบาท

ที่น่าสนใจกลับเป็น “วอลเปเปอร์” ที่หนี้หายไปถึง 119 ล้านบาท จากเดิมมีทรัพย์สินเพียงกว่า 1 ล้านบาท มีหนี้สินถึง 119 ล้านบาท วันนี้ยังมีทรัพย์สินกว่า 1 ล้านบาท แต่หนี้สินหายไปหมด!

คำตอบของ “วอลเปเปอร์” ที่บอกว่าหนี้หายไปเพราะธุรกิจครอบครัวที่ตนเป็นผู้ค้ำประกัน ทำให้อยู่ในฐานะลูกหนี้ ไม่สามารถบันทึกเป็นทรัพย์สินส่วนตัวได้ เพราะเป็นทรัพย์สินของบริษัท เมื่อบริษัทปรับโครงสร้างหนี้โดยการเอาห้องชุดไปขาย จึงทำให้หนี้สินทั้งหมดหายไป ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและภาพที่โผล่ทุกสื่อตลอด 2 ปีที่ผ่านมาในฐานะ “กาวตราช้าง” ที่ติดเหนียวแน่นกับ “หัวโขนใหญ่” เลย!

“สะตอแคระ” เดิมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 35 ล้านบาท หลังถอด “หัวโขน” มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 53 ล้านบาท คือรวยขึ้นกว่า 18 ล้านบาท สำหรับ “ลุงชวน” ยังรักษาความ “จน” คงเส้นคงวา ไม่เคยมีหนี้สิน ส่วนทรัพย์สินจากเดิมกว่า 3 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 5 ล้านบาท

การนำขุมทรัพย์และกระปุกออมสินของ “ก๊วนสะตอ” มาให้เห็นกันจะจะไม่ใช่แค่ให้รู้ว่าการเมืองทำให้จนลงหรือรวยแบบ “อู้ฟู่”และพิสดารอย่างไร แต่ยังมีอีกมากมายที่ “กบไต๋” ไว้ใต้ดินที่ไม่มีใครรู้ ที่สำคัญเรื่องทรัพย์สินเป็นหนึ่งในบันไดสู่อำนาจ ไม่ว่าจะใน “ก๊วน” หรือ “แก๊ง”!

เส้นทาง “อำมาตย์โย่ง” จึงมีโอกาสสูงที่จะต้องขยับไปรับตำแหน่งสำคัญใน “ก๊วนสะตอ”!
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=55555