เสื้อแดงไม่มีวันชนะเหล่าอำมาตย์ จนกว่า.

[นักรบภูเขา]

เสื้อแดงไม่มีวันชนะเหล่าอำมาตย์ จนกว่า...


...จะกล้าที่จะกล่าวถึง " ฐานอำนาจ " อันเป็นขุมพลังของเหล่าอภิชนทั้งหลาย


การต่อสู้ของชาวเสื้อแดงที่ผ่านมา เป็นการต่อสู้ที่ไม่ว่าผู้ใดที่รักประชาธิปไตยและความยุติธรรมต้องหันมามองในข้อเรียกร้อง

สองมาตรฐาน , เผด็จการซ่อนรูป , การแทรกแซงทางการเมืองของบรรดาอภิชน องคมนตรี ทหาร ตุลาการ ฯลฯ , ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น

นี่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประเทศสารขัณฑ์ ที่ซึ่งผู้เรียกตนเองว่า " ชนชั้นกลาง ผู้ดัดจริต " ทั้งหลาย ไม่กล้าที่จะยอมรับในตัวตนของสิ่งเหล่านี้

เหล่าดัดจริตชนทั้งหลาย พวกเขาไม่เคยมองอะไรเกินไปกว่าปลายจมูกตัวเอง คิดฝันถึงรัฐบาลอันดีพร้อม ประกอบด้วยผู้ดี ผู้ทรงคุณธรรม ตามระบอบ " ธรรมาธิปไตย " ( ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคือ เฮีย อะไร ) ที่ยึดถือกันเป็นสรณะ ซึ่งแท้จริงมันเป็นเพียง " วาทกรรม " หลอกลวงเท่านั้น...

ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ พวกเขาหลงเชื่อในวาทกรรมหลอกลวง จนกระทั่งยอมให้ความเชื่อใฝ่ต่ำนั้นมาทำลายคุณค่าของประชาธิปไตยลงได้ ยอมให้บรรดาอำนาจมืดทั้งหลายมาทำลายสิทธิ์เสียงของตนเอง

พร้อมทั้งแก้ตัวให้เสร็จสรรพว่า " ก็เขาเป็นคนดี หรือก็เขาทำไปเพราะหวังดี " หรือแม้แต่บางคนทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติเหล่านี้ แล้วอ้างว่าเป็น " ประเพณี " ( แบบทาสๆ ) ด้วยซ้ำ

นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่งสำหรับสังคมในประเทศที่กล้าวอ้างกันว่า ได้รับการเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตยแล้ว...

คนเสื้อแดงจึงนับเป็นกลุ่มชนที่มีหัว " ก้าวหน้า " ทางประชาธิปไตยอย่างมากกลุ่มหนึ่ง ที่กล้าที่จะกล่าวถึง การกระทำของบรรดาอำนาจนอกระบบที่ละเมิดความเป็นประชาธิปไตยอย่างชัดเจน


อย่างไรก็ดี ในแนวทางในการเคลื่อนไหวเชิงความคิดของเสื้อแดงที่ผ่านมา ผมคิดว่ายังไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก...

คนเสื้อแดงและแกนนำ ส่วนใหญ่จะมีแนวคิดต่ออำนาจนอกระบบที่เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยว่า " เป็นปัญหาที่ตัวบุคคล "

" ทำไมป๋าไม่ดี ก็ป๋ามันเลว "

" ทำไม สุรยุทธ ครองที่ป่า ก็ สุรยุทธ มันไม่ดี "

" ทำไม 1000 บาท มัน ฯลฯ "

แล้วแถมท้ายด้วยว่า " ถ้าคนพวกนี้ออกๆไปซะให้หมด หรือลดบทบาทของตัวเอง ก็คงจะเรียบร้อย " ( จริงหรือ ??? )

จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ... ปัญหาแท้จริงมิได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ไอ้ระบบที่เราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงนั่นแหละ...

เพราะระบบที่กล่าวมานี้ไม่ใช่หรือ... ที่เป็นฐานอำนาจให้บรรดาอภิชนกล้าทำสิ่งต่างๆอันเลวร้ายเหล่านี้ได้

มันจึงเป็นการป่วยการ และไม่เห็นประโยชน์อย่างชัดเจน ที่จะกล่าวหา ขุดคุ้ย พยายามไล่ บรรดาผู้คนที่คุณก็รู้ว่าไม่ดี

เพราะต่อให้คนเหล่านั้น ยอมลงจากอำนาจจริงๆ ( ซึ่งยากมาก ) แล้วจะมีอะไรรับประกันว่า เมื่อมีคนใหม่มาแทน เขาจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ( หรือแย่กว่าเดิมคือ ทำให้แนบเนียนขึ้น )

และการเลือกที่จะโจมตีเฉพาะบุคคล ก็ต้องถามตรงๆว่า...

" แล้วมันจะต่างอะไรกับ การกระทำของม็อบพันธมิตรที่เลือกที่จะโจมตีทักษิณเพียงคนเดียว โดยหวังว่า เมื่อทักษิณออกไป แล้วบ้านเมืองจะมีการโกงกินน้อยลง "

( ซึ่งทุกท่านก็คงรู้กันดีว่า ถึงเวลานี้แนวโน้มการโกงกินงบประมาณนั้นเป็นเช่นไร... )

ดังนั้นคำถามที่ถูก ที่ควรจะถูกตั้งขึ้น จึงไม่ใช่ " ทำไมป๋าไม่ดี ??? "

แต่เป็น " อะไรที่ทำให้ป๋ากล้าทำสิ่งเหล่านี้ และทำอย่างไรจะไม่ให้มีคนอย่างป๋าโผล่ขึ้นมาอีก ??? " ต่างหาก...


นี่เป็นเรื่องที่ ผมคิดว่าพวกเราชาวเสื้อแดง จะต้องนำไปคิดอย่างจริงจัง หากต้องการยกระดับการต่อสู้ และมองไปยังเป้าหมายแท้จริงคือ " ประชาธิปไตยอันเป็นสากล "

คุณต้อง " ตั้งคำถาม " ถึงสถานะที่ซ้อนทับกันระหว่าง อำนาจในระบอบประชาธิปไตย กับ อำนาจที่อยู่นอกระบอบประชาธิปไตย อย่างจริงจัง โดยไม่ให้มายาคติอย่าง " เป็นประเพณีแบบไทยๆ " มาหลอกตาได้

หน้าที่ขององคมนตรีซ้อนทับหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ? ขั้นตอนการแต่งตั้งมีจุดไหนที่ละเมิดความเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ?

ที่มาของศาลควรจะถูกปรัีบปรุงหรือไม่ ? การตัดสินภายใต้พระปรมาภิไทที่ชอบอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมกันนั้น แท้จริงเป็นอย่างไร ?

สถานะของพระราชอำนาจภายหลังจากการรัฐประหารนั้น แท้จริงเป็นเช่นไร ? เป็นอย่างที่ นายบวรศักดิ์ เคยอธิบายไว้หรือเปล่า ?

กฎหมายหมิ่นฯ นั้นมีความได้สัดส่วนกันระหว่างโทษกับความผิด และมีความมั่นคงทางนิติฐานะ เพียงพอที่มันจะคงสถานะเป็นกฎหมายอยู่หรือไม่ ?

ไปจนถึงเรื่อง ประวัติศาสตร์สมัยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นิยายในหนังสือเรียนนั้น มันใช่ความจริง หรือเพียงประวัติศาสตร์ของผู้ชนะ ?

ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คงเหลือจากอำนาจแบบเก่า ที่เหล่าอภิชนทั้งหลายมักจะใช้เพื่อเป็นฐานอำนาจ ทั้งในการฟอกขาว สร้างความชอบธรรมให้ตนเอง หรือแม้แต่ใช้เพื่อเป็นอาวุธในการเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม

ซึ่งเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่จะอภิปราย และจะต้องอภิปรายหากคุณบอกกับตัวเองไว้ว่า " ต้องการประชาธิปไตยจริงๆ "

( ตรงนี้ผมขอแทรก comment ว่า เรื่องพวกนี้ไม่เหมือนกับ บรรดาข่าวลือ ที่มักมาจากเว็บ usa ที่บางช่วงมาระบาดในเว็บนี้และหลายเว็บ ซึ่งนอกจากจะจริง-ไม่จริง 50-50 และไม่ส่งผลต่ออุดมการณ์เคลื่อนไหวแล้ว ยังเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางอีกต่างหาก )


สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการต่อสู้ที่วัดกันด้วยกำลังอย่างเดียว แต่เป็นการสู้กันทางความคิด อุดมการณ์ด้วย

มันจึงยากอย่างยิ่งที่เสื้อแดงจะไปถึงจุดที่เรียกว่า " ชัยชนะ " ได้ หากเลี่ยงที่จะกล่าวถึงสิ่งเหล่านี้

เพราะแม้คุณจะอ้างว่ามาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ตราบใดที่แนวคิดยังถูกผูกติดอยู่กับคติแบบเก่า มันก็ยากที่จะก้าวไปไหนได้ไกล

เรื่องเหล่านี้จึงเป็นเหมือนสิ่งที่รอเสื้อแดงก้าวข้าม ก้าวข้ามเพื่อเผชิญกับตัวตนที่แท้ัจริงของปัญหาในเรื่องที่เราต้องพานพบ

และเมื่อเรื่องราวเหล่านี้ถึงจุดสิ้นสุดจริงๆ ก็ขอให้ชัยชนะจงประสบแก่ บรรดาผู้รักในประชาธิปไตย ทุกท่านครับ.

[goosehhardcore]

จนกว่าอำมาตย์มันจะตาย(มั๊ง)ป้าว่า ดันตายยากอีก ไม่รู้มันจะอยู่ยงคงกะพันไปถึงไหน ข่าวต่างๆที่เรารับมา ก็มีส่วนถูก(มาก)บ้างเลยล่ะ แต่เราก็ทำอะไรอำมาตย์ไม่ได้ ตราบใดที่รัฐบวยยังรับคำสั่งจากอำมาตย์อยู่ พูดยาวไปก็ชักมีอารมณ์โมโห(จริงๆ)

เห้นข่าวหลายสายว่ารอเดือนนี้แหละจะเห้นอะไรดีๆ แต่ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามเรามันก็รู้เหมือนกัน จึงล็อคไว้หมด ท่าทางจะลำบากทั้งเขาทั้งเรา

[goosehhardcore]

พล.อ.เปรมโผล่ร่วมสถาปนา จปร. ยิ้มแย้ม สยบข่าวป่วยหนักยัน"สบายดี"


"ป๋า เปรม"โผล่ร่วมงานสถาปนา จปร.หลังหายเงียบไปหลายเดือน สยบข่าวป่วยหนัก-เสียชีวิต ยัน"สบายดี" บอก "ประยุทธ์" ไม่ค่อยสบายต้องกินยาแก้ปวดทุกวัน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 สิงหาคม ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.หญิงสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทรงร่วมงานวันพระราชกำเนิด รร.จปร. ครบรอบ 123 ปี โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานน์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก และนายทหารระดับสูง เฝ้ารับเสด็จ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศของผู้เข้าร่วมงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยภายหลัง พล.อ.เปรมเดินทางมาถึง ได้เข้ามาทักทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.ที่เตรียมจะขึ้นมาเป็นผบ.ทบ.ว่า "ช่วงนี้เราไม่ค่อยสบายนัก ต้องกินยาแก้ปวดทุกวัน" ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การมาร่วมงานของ พล.อ.เปรม ในครั้งนี้เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.เปรม ป่วยเป็นโรคร้าย หรือถูกยิงเสียชีวิตในช่วงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยสีหน้าของ พล.อ.เปรม ในวันนี้ยิ้มแย้มไม่ได้แสดงออกถึงอาการเจ็บป่วยแต่อย่างไร เพียงแต่ขณะนี้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงสุขภาพของพล.อ.เปรม ว่า ขณะนี้สบายดีหรือไม่ ซึ่งพล.อ.เปรม กล่าวเพียงสั้นๆว่า "สบายดี"


ref: มติชนออนไลน์
วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:30:06 น.

[นักรบภูเขา]

จนกว่าอำมาตย์มันจะตาย(มั๊ง)ป้าว่า ดันตายยากอีก ไม่รู้มันจะอยู่ยงคงกะพันไปถึงไหน ข่าวต่างๆที่เรารับมา ก็มีส่วนถูก(มาก)บ้างเลยล่ะ แต่เราก็ทำอะไรอำมาตย์ไม่ได้ ตราบใดที่รัฐบวยยังรับคำสั่งจากอำมาตย์อยู่ พูดยาวไปก็ชักมีอารมณ์โมโห(จริงๆ)

เห้นข่าวหลายสายว่ารอเดือนนี้แหละจะเห้นอะไรดีๆ แต่ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามเรามันก็รู้เหมือนกัน จึงล็อคไว้หมด ท่าทางจะลำบากทั้งเขาทั้งเรา

ผมเองก็ได้ยินมาแบบนั้นเช่นกันครับ จริงเท็จอย่างไรผมเองก็ไม่รู้แต่ที่รู้ชัดๆก็คือพวกนี้เตรียมตัวเล่นสกปรกทุกอย่างครับ ป้าลองคิดดูนะครับหากว่ามันให้ใครสักคนใส่เสื้อแดงไปงาน 12 สิงหา อะไรจะเกิดขึ้น แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำมันก็จะให้สื่อของพวกมันประโคมข่าวว่าเป้นเสื้อแดงทำ

[goosehhardcore]

เป็นไปได้ เพราะมันมีกุนซือห้อยโหน คิดแผนเฮี่ยให้อยู่

[นักรบภูเขา]

เป็นไปได้ เพราะมันมีกุนซือห้อยโหน คิดแผนเฮี่ยให้อยู่

พูดถึง ไอ้ห้อย นี่ผมเองก็อดคิดไม่ได้ครับว่าเหตุใดพี่แกถึงได้กล้าหักหลังแม้วได้ลงคอ ก่อนหน้านั้นนายห้อยผู้นี้แหละที่ร่วมทุกร่วมสุขกอดคอกับแม้วร่วมกันก่อร่างสร้างตัวเป็นพรรคไทยรักไทยขึ้นมา และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพรรคพลังประชาชน จนนายสมัครได้เป็นนายก พูดง่ายๆคือเป็นคนที่ ทักษิน เชื่อมือมากที่สุด แต่แล้วเหตุใดห้อยถึงได้กล้าทำเช่นนี้ได้....... ป้าคิดเหมือนผมไหมครับ... ..............?