Updateเกาะติดเลือกตั้ง'54: อี้-แทนคุณ ท้าชิง เก่ง-การุณ & ชูวิทย์ประกาศคืนสนาม-เปิดตัวพรรค11พ.ค

[goosehhardcore]

อี้-แทนคุณ ท้าชิง เก่ง-การุณ
11 พฤษภาคม 2554 เวลา 12:18 น.

ศึกดอนเมืองครั้งนี้ ปชป.คงต้องลุ้นอย่างหนักว่า จะสามารถผลักดันเลือดใหม่เข้าไปปักธงข้ามถิ่นได้หรือไม่ โดยคำตอบขึ้นอยู่กับชาวดอนเมืองว่าจะยอมให้โอกาสด้วยหรือไม่....

สนามเลือกตั้ง สส.ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) 33 เขต คือจุดศูนย์กลางอำนาจที่จะมีการแข่งขันขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะเขต 12 ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่ง “อี้” แทนคุณ จิตต์อิสระ โฆษกกระทรวงวัฒนธรรม เข้าประกบแชมป์เก่าเจ้าสังเวียนอย่าง “เก่ง” การุณ โหสกุล แห่งพรรคเพื่อไทย (พท.) งานนี้คาดว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันมิใช่น้อย เพราะต่างฝ่ายต่างก็เป็นคนหนุ่มที่มีทีเด็ดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจับตาด้วยกันทั้งคู่

ฝ่ายหนึ่งแม้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ถอดด้าม แต่บทบาททางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา เขาก็ได้โชว์ฝีไม้ลายมือให้เห็นมาแล้วในฐานะ “พิธีกรฝีปากกล้า” ผู้ออกมาเปิดหน้าท้าชนกับกลุ่มคนเสื้อแดง ในช่วงที่ทหารตบเท้ากระชับวงล้อมที่แยกราชประสงค์

“ถ้าเราไม่กล้า ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าหมด มันก็ไม่มีความจริงให้ปรากฏขึ้นมา ผมรับไม่ได้กับสิ่งที่เขาบอกว่า ความจริงวันนี้ เพราะมันคือความเท็จทั้งนั้น” เขากล่าว

“อี้” แทนคุณ วัย 32 ปี เคยเป็นทั้งนักแสดง อาจารย์สอนภาษาจีน สถาบันฮั่นอี้ หรือโรงเรียนนวัตกรรมภาษาและปัญญามนุษย์ เป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ส่งเสริมธรรมะให้กับเยาวชน อดีตเคยได้รับรางวัลด้านสังคมมากมาย เช่น รางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก ปี 2552 รางวัลพระราชทานกลุ่มเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 2551 รางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ปี 2545 รางวัลศิลปินคุณธรรม ปี 2546

จุดยืนของเขาที่ย้ำชัดมาตลอดคือ การยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มผู้จาบจ้วงทำลายสถาบัน ซึ่งเขามองว่าเป็นการปลุกสงครามชนชั้นที่อาจนำไปสู่การนองเลือดระหว่างคนไทยด้วยกัน

“ผมยืนยันจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ถามว่ากลัวตายไหม ก็กลัวเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง เราต้องสู้ และก็ทำแบบหมดใจ” เขาบอก ด้วยความที่เป็นคนหนุ่มไฟแรงเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ ปชป.จะตัดสินใจส่งตัวเข้าไปลุยในเขตพื้นที่อิทธิพลของ สส.ฝ่ายตรงข้าม

ทว่า อี้ แทนคุณ ก็ยังมีจุดอ่อนตรงที่ว่า เมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนชังด้วยเช่นกัน ประกอบกับครั้งนี้เป็นการลงสมัครผู้แทนครั้งแรก อาจทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพหืดขึ้นคอได้ง่ายๆ

ขณะที่ฝ่ายแดง “เก่ง” การุณ เรียกได้ว่าเป็นมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์ เพราะผูกขาดพื้นที่มานานจนยากที่ใครจะแซะเก้าอี้ได้ ชาวบ้านร้านตลาดตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอยล้วนรู้จักมักคุ้นเก่ง การุณ เป็นอย่างดี จึงนับว่าเป็นเจ้าถิ่นที่น่าสะพรึงกลัวแก่ผู้ท้าชิงอย่างยิ่ง

หากเอ่ยถึงผลงานที่น่าโจษจันของเก่ง ถือได้ว่าเป็นผู้มีประสบการณ์โชกโชนและเคยฝากผลงานให้เป็นที่ร่ำลือในยุทธจักรการเมืองมานักต่อนัก จนเป็นที่ติดตาตรึงใจของประชาชน

เก่งเป็นคนกล้าแลกกล้าลุย ชอบทำมากกว่าพูด จึงนำมาซึ่งฉายา “จอมถีบสะท้านรัฐสภา” วีรกรรมครั้งนั้นศาลได้พิพากษาให้จำคุกเก่ง การุณ ฐานทำร้ายร่างกายนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สส.สัดส่วน ปชป. เป็นเวลา 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท โดยให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

แม้จะมีดีกรีเป็นแชมป์เก่าหลายสมัย แต่เก่งก็ยังมีจุดอ่อนที่อาจทำให้ตายน้ำตื้น กรณีที่ศาลเคยมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สส. เนื่องจากใช้ “วุฒิการศึกษาปลอม”

อย่างไรก็ดี ศึกดอนเมืองครั้งนี้ ปชป.คงต้องลุ้นอย่างหนักว่า จะสามารถผลักดันเลือดใหม่เข้าไปปักธงข้ามถิ่นได้หรือไม่ โดยคำตอบขึ้นอยู่กับชาวดอนเมืองว่าจะยอมให้โอกาสด้วยหรือไม่


ที่มา: โพสต์ทูเดย์วิเคราะห์
http://bit.ly/mv5nOY

[lucky m.]

เค้ากำลังเล่นหมากหลายกระดานอะป้า เราก็ต้องรอดูไปก่อน อะไรๆก็เชื่อยาก มันแปลกๆยังไงไม่รู้ซิป้า มันเหมือน เค้ากำลังดูเราอยู่น่ะ เหมือนเอาเราเป็นตัวแสดงละครอะไรซักอย่าง แล้วเขาก็ซุ่มวางแผนกัน

[goosehhardcore]

เป็นไปได้...สูง

[goosehhardcore]

ชูวิทย์ประกาศคืนสนาม-เปิดตัวพรรค11พ.ค.
11 พฤษภาคม 2554 เวลา 18:58 น.

ชูวิทย์ประกาศคืนเวทีการเมือง ลงสมัครว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในนามพรรครักประเทศไทย พร้อมเตรียมแถลงเปิดตัวพรรค-นโยบาย 12 พ.ค.นี้


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. จะแถลงเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการที่ สวนชูวิทย์ สุขุมวิทซอย 10 พร้อมจะชี้แจงเหตุผลและนโยบายที่จะขอโอกาสมารับใช้ประชาชนอีกครั้ง


"นโยบายหลักในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของผมครั้งนี้ คือ จะทำหน้าที่ในการการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลชุดต่อไป พร้อมจะเปิดตัวแคมเปญ และป้ายโฆษณาหาเสียง ที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งด้วย"นายชูวิทย์กล่าว


ทั้งนี้เบื้องต้นจะขอเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อในนามพรรคลำดับ ที่ 1 เองเพราะที่ผ่านมาก็เคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้วเมื่อครั้งเป็นว่าที่ ส.ส.สมัยแรกเพียงแค่ปีเศษ ก็เคยได้รับความไว้วางใจจากการโหวตลงคะแนนของสื่อมวลชนสายรัฐสภา ให้เป็น ดาวสภา ประจำปี 2548


นายชูวิทย์ กล่าวว่า แม้จะห่างจากสนามการเมืองมานาน แต่ก็ยังยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยมาตลอด และเห็นว่าสโลแกน “ฉันรักคุณ และพรรครักประเทศไทยจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นความสมัคร สมานสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ ให้กับประเทศชาติอีกครั้ง โดยไม่แบ่งแยกสีเสื้อ หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างที่เป็นอยู่


ที่มา: ข่าวการเมือง:โพสต์ทูเดย์
http://bit.ly/lMZXV1