งานนี้ไม่รู้ใคร "ไพร่" ใคร "อำมาตย์"...??!!: สงครามเฟซบุ๊กระหว่าง "นายทุน-อำมาตย์" vs "ไพร่" หลัง "ขุนคลังกรณ์" กินข้าวร้านเดียวกับ "ณัฐวุฒิ"

[goosehhardcore]

7 พ.ค.54 เขียนความคิดบน FB ระหว่าง รมว.คลัง ของประเทศไทย สถานะ "อำมาตย์" กับ "ไพร่"..คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ


* 12 นาทีที่ผ่านมา คุณกรณ์ โพสต์ใน FB ใหม่ว่า
"อธิบายเรื่องที่ผม post สักนิดนะครับ ถ้าอ่านดีๆจะเห็นว่าประเด็นของผมก็คือ จะมาปลุกปั่นให้สังคมแตกแยกทำไม ในเมื่อทุกคนก็มีวิถีชีวิตที่ไม่แตกต่างกัน ผมเองไม่เคยมองว่าคนไทยแตกต่างกัน และนั่นคือประเด็นสำคัญ"



ขอบคุณรูปภาพบนกระดานโดย Nipaporn Freedom

[goosehhardcore]

ท่านเหล่านี้คือบุคคลในประวัติศาสตร์ที่เยาวชนรุ่นหลังไม่รู้จัก (ยกเว้นคนที่เรียนหรือสนใจประวัติศาสตร์) ซึ่งคุณณัฐวุฒิได้นำมาปราศรัยให้ชาวสุรินทร์และผู้ชมที่รับชมอยู่ทางบ้านได้ทราบ ซึ่งคุณ Bangkokian นำภาพไปโพสต์ในเว็ป internetfreedom เคยได้ยินแต่ชื่อไม่กี่ท่าน ครั้งนี้ได้เห็นภาพด้วย ก็เลยนำมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ

* คลิปคุณณัฐวุฒิ ปราศรัยที่ จ.สุรินทร์ 5 พ.ค.54
https://www.youtube.com/watch?v=0oeG_RI2RsE&feature=mfu_in_order&list=UL


ขอบคุณรูปภาพบนกระดานโดย Nipaporn Freedom

[goosehhardcore]

สงครามเฟซบุ๊กระหว่าง "นายทุน-อำมาตย์" vs "ไพร่" หลัง "ขุนคลังกรณ์" กินข้าวร้านเดียวกับ "ณัฐวุฒิ"
วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13:59:34 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความลงในหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า


"เมื่อสักครู่ ได้มาทานข้าวกับภรรยาที่ร้านอาหารแถวๆทองหล่อ คนที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆบอกว่า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับครอบครัวเพิ่งลุกไปจากโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ไม่ถึง 5 นาทีที่ผ่านมานี้เอง ทำให้เราอดนึกขำไม่ได้ว่า คนที่เรียกตัวเองว่า "ไพร่" ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแตกต่างไปจากคนที่เขาเรียกว่าเป็นพวก "อำมาตย์" สักเท่าใดนัก.."


จากนั้นไม่นาน นายณัฐวุฒิจึงได้ตอบโต้ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตนเองเช่นกันว่า


"ตอนหัวค่ำ พาแก้ม (ภรรยาของณัฐวุฒิ) ไปทานข้าวร้านที่เขาชอบ ช้างน้อย (ชื่อเล่นของ ด.ช.นปก ลูกชายของณัฐวุฒิ) ก็ไปด้วย สุดคาดหมายว่ากรณ์ จาติกวณิชจะเอามาเป็นประเด็น แล้วบอกว่าไม่นึกว่าคนประกาศตัวเป็นไพร่จะมีวิถีชีวิตคล้ายพวกเขา ฟังเรานะกรณ์ เพราะประเทศนี้มีคนคิดอย่างคุณ การกดขี่จึงดำรงอยู่ ทำไมกำหนดว่าไพร่ต้องจน ต้องโง่ ต้องก้มหน้ารับการเหยียบย่ำ ทำไมไพร่มันจะกินข้าวร้านเดียวกับนายทุนไม่ได้ ประชาชนจงเจริญ"


ส่งผลให้มีสมาชิกเฟซบุ๊กชาวไทยจำนวนมาก ทั้งที่ชื่นชมนายกรณ์และชื่นชมนายณัฐวุฒิ ได้นำข้อความโต้ตอบระหว่างรมว.คลัง กับแกนนำนปช. ไป "ลิงก์" ต่อกันอย่างแพร่หลาย พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ตามแนวคิดความเชื่อทางการเมืองของแต่ละฝ่าย

ต่อมา นายกรณ์ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า

อธิบายเรื่องที่ผม post สักนิดนะครับ ถ้าอ่านดี ๆ จะเห็นว่าประเด็นของผมก็คือจะมาปลุกปั่นให้สังคมแตกแยกทำไม ในเมื่อทุกคนก็มีวิถีชีวิตไม่แตกต่างกัน ผมเองไม่เคยมองว่าคนไทยแตกต่างกัน และนั่นคือประเด็นสำคัญ

นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า นางวรกร จาติกวณิช ยังได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองเช่นกันว่า


ณ ร้านอาหารในซอยทองหล่อคืนนี้ อำมาตย์และอำมาตย์หญิงแชร์เบียร์ไทย 1 ขวด ส่วน "ไพร่กับภรรยา" ดื่มไวน์ราคาแพง และมีพยาบาลตามมาดูแลลูก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากวิวาทะในเฟซบุ๊กดังกล่าว นอกจากจะนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองแล้ว ยังมีผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กบางส่วนนำคำพูดของนายกรณ์และนายณัฐวุฒิไปล้อเลียนในเชิงขำขันอีกด้วย อาทิ แฟนเพจในเฟซบุ๊กของกลุ่ม Hmoiism (ซึ่งมักล้อเลียนประเด็นฮ็อตฮิตต่างๆ ในสังคมการเมืองไทย ผ่านถ้อยคำว่าด้วย "อวัยวะบางส่วน" ในร่างกายมนุษย์) ที่ขึ้นข้อความล้อเลียนว่า


"ตอนหัวค่ำไปประกอบพิธีกรรมกับเพื่อน สุดคาดหมายว่าพวกองคชาตินิยมจะเอามาเป็นประเด็นแล้วบอกว่าไม่นึกว่าคนประกาศตัวเป็นหมอยอิสต์จะมีวิถีชีวิตคล้ายพวกเขา ฟังเรานะ เพราะประเทศนี้มีคนคิดอย่างคุณการเหยียดหมอยจึงดำรงอยู่ ทำไมกำหนดว่าหมอยอิสต์ต้องไม่กินข้าว ต้องกินแต่หมอย ต้องก้มหน้ารับการเหยียบย่ำ ทำไมหมอยอิสต์มันจะกินหมอยร้านเดียวกับที่พวกองคชาตินิยมกินข้าวไม่ได้ หมอยอิสต์จงเจริญ"

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1304837570&grpid=01&catid=&subcatid=

[lucky m.]

ไม่เห็นแปลกเลยเน๊าะป้า จะนั่งร้านกินข้าวร้านไหน ทำไมจะต้องเอามาเล่นด้วย ร้านอาหารเค้าก็ไม่ได้บอกนี่ว่าเข้าได้แต่เฉพาะคนชั้นสูง ไปขำอะไรเขา ขำตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ

[นักรบภูเขา]

แม่งไอ้กร ส้นตีน ทำไมวะมีตังแดกแล้วมันเกี่ยวกันด้วยเหรอว่าห้ามกินรวมกับคนชั้นสูงปากแส่หาตีนอีกแล้วนะมึง ดีนะป้าที่ผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น ไม่งั้นคงมีเฮ จะเดินเข้าไปถามมันเลยว่าเป็นไพร่แล้วไง กูเอาเงินพ่อมึงมาซื้อแดกเหรอกูถึงไปกินร้านเดียวกับมึงไม่ได้ กวนตีนนักนะมึง