แลกตัว’แกนนำขังคุก! ยุทธวิธี‘คายไพ่’ในมือ?("เขา"กลัวอะไร?)
หน้า 1 จาก 1
แลกตัว’แกนนำขังคุก! ยุทธวิธี‘คายไพ่’ในมือ?("เขา"กลัวอะไร?)
แลกตัว’แกนนำขังคุก! ยุทธวิธี‘คายไพ่’ในมือ?
“มันเป็นเกมที่เหล่าผู้มีอำนาจจำเป็นต้องเล่น...ประหนึ่งกำลังนั่งล้อมวง “ตีดัมมี่” ฉันใด...หากใครถือไพ่ในมือเยอะเกินไป ก็อาจแพ้คาโต๊ะได้ฉันนั้น”
โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ!
กรณีศาลอาญาเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 8 คน ด้วยหลักประกันคนละ 6 แสนบาท
ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม และ นายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการจับกุมตัว “นายสุรชัย แซ่ด่าน” แกนนำกลุ่มแดงสยาม เพียงไม่กี่ชั่วโมง...และถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำคลองเปรม
สิ่งหนึ่งที่สมควรคิดและวิเคราะห์คือ...ทำไมกลุ่มผู้มีอำนาจในประเทศจึงวาง หมากเกมเช่นนี้...และนี่จะใช่แผน “ขุดบ่อล่อปลา” เพื่อจะเดินเกมในการทำลายเครือข่ายคนเสื้อแดงต่อไปหรือไม่?
คำตอบ คือ เป็นไปได้มากถึงมากที่สุด!
โดยเฉพาะเกมของผู้มีอำนาจที่มีการ “ปักธง” เอาไว้มาแต่เนิ่นๆ เกี่ยวกับประเด็น “สถาบันเบื้องสูง” โดยข้อหาของ “นายสุรชัย” คือ มาตรา 112
ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่มีหลักฐาน...เพราะคลิปที่ “สุรชัย” เดินทางไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ มิใช่การกล่าวหาลอยๆ อย่างเช่นที่กล่าวหา 8 แกนนำ นปช. ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
ทั้งสองกรณีจึงแตกต่างกันทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
ลองสังเกตุดูว่า...การพิสูจน์ความผิดของ 8 แกนนำนั้น รัฐจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นจนสิ้นสงสัยจึงจะลงโทษแกนนำทั้งหมดได้
ดังนั้น การที่ศาลใช้ดุลยพินิจในการกักขัง 8 แกนนำโดยไม่ให้ประกันตัว...เมื่อเทียบกรณีแกนนำพันธมิตรฯที่ถูกจับในข้อหา เดียวกัน แต่กลับได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
ในสายตาของวิญญูชนก็มองเห็นได้ถึงความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม
การกดดันโดยพลังมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ 8 แกนนำนปช. จึงสามารถดำเนินไปได้อย่างมีน้ำหนัก
ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย...ขอย้ำว่า “คนไทยที่มีความคิดเป็นกลาง” เปิดใจรับหรือไม่ต่อต้านการเคลื่อนไหวเรียกร้องครั้งนี้ให้ปล่อยตัวแกนนำ
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องย้อนกลับมาดูที่การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ก้าวต่อไป...โดยเฉพาะประเด็นการนำมวลชนออกมากดดันศาลเพื่อให้มีการปล่อยตัว “นายสุรชัย” เฉกเช่นเดียวกับ 8 แกนนำ นปช.
หากคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องก็เท่ากับเป็นการ “ตกหลุมพราง” ของผู้มีอำนาจที่วางหมากเกมไว้ทันที...โดยเฉพาะข้อกล่าวหา “แดงล้มเจ้า” จะถูกนำมาฉายภาพซ้ำให้เกิดการกำราบอย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด
เหมือนเป็นการใช้ “นำผึ้งหยดเดียว” คือการจับกุมตัว “นายสุรชัย” เพื่อที่จะเดินเกมทำลายคนเสื้อแดงในแผนต่อไป
เพราะการปล่อยตัว 8 แกนนำคนเสื้อแดงได้มีการใช้หลักกฎหมายเป็นตัวควบคุม คือ 1.ห้ามออกนอกประเทศ และ 2. ห้ามปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ
เท่ากับว่า...เป็นการปล่อยตัวเพื่อให้ “มิตรรักแฟนเพลง” หายคิดถึง...แต่แกนนำทั้งหมดไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปลุกระดม มวลชนได้
เพราะถ้าหากฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย...ก็มีสิทธิ์ที่แกนนำทุกคนจะมีชะตากรรมต้องเดินเข้าคุกแบบขังลืมอีกรอบ
มันจึงเป็นเกมที่เหล่าผู้มีอำนาจจำเป็นต้องเล่น...ประหนึ่งกำลังนั่งล้อมวง “ตีดัมมี่” ฉันใด...หากใครถือไพ่ในมือเยอะเกินไป ก็อาจแพ้คาโต๊ะได้ฉันนั้น
การปล่อยแกนนำทั้ง 8 คน ก็เพื่อต้องการแก้ภาพพจน์ที่เสียไปให้กลับคืนมา โดยเฉพาะในสายตาของนานาประเทศที่กำลังจับจ้องเรื่องกระบวนการยุตธรรมที่ถูก ต้องในเมืองไทย
ส่วนการเลือกจับ “นายสุรชัย” ก็เพื่อวางระเบิดเวลาความร้าวฉานไว้ให้กับเสื้อแดง...และเพื่อเป็นการปิด กั้นการขยายมวลชนไม่ให้ขยายออกไปมากกว่านี้
เพราะสิ่งหนึ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ในวันนี้ คือ...ประเทศชาติไม่สามารถกระดุกกระดิกตัวไปไหนได้ เพราะทั้งศึกในและศึกนอกของรัฐบาล รวมไปถึงการชักใยผ่านผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่เล่น “เกมการเมือง” โดยต้องการเอาชนะคะคานและมุ่งมาดที่จะรวบอำนาจไว้เบ็ดเสร็จ
แต่จะทำให้สำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน...เป็นไปไม่ได้
เพราะนับวันมวลชนคนเสื้อแดงจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และกลับกลายเป็นการลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยยุทธวิธีแปลกใหม่ ซึ่งทำให้ผู้มีอำนาจ “หัวหมุน” และ “หัวปั่น” ยกตัวอย่างเช่นการเล่นเฟสบุ๊ค หรือแชตบีบี
การสื่อสารเหล่านี้ทำให้พวกเขาเติบโตไว และไวยิ่งกว่าช่วงที่ “พันธมิตรฯ” ปลุกระดมมวลชนเพื่อมาขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร “กลุ่ม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน” หรือ “กลุ่มแดงสยาม” สุดท้ายแล้วในการฝังรากลึกผนึกกำลังเป็นกลุ่มก้อน...ทั้งสองก็คือ “คนเสื้อแดง” เช่นเดียวกัน...มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน...ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
แต่ด้วยแนวคิด (บางเรื่อง) ที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงท้งสองกลุ่ม “เห็นต่าง” แต่ที่ผ่านมาพวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า “ไม่แตกแยก” (ถึงมีก็มีน้อยมาก) เพราะการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลประโยชน์เพียง “ตัวเงิน” หรือการประคองธุรกิจให้อยู่ได้
ยิ่งปิดทางสู้...ปิดรูหายใจการต่อสู้บนดิน...ก็เหลือแต่ทางใต้ดินซึ่งเป็นคำตอบของเกมๆ นี้
แต่ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดง “เลือกที่จะ” ไม่ต่อสู้ใต้ดิน...เพราะผลลัพธ์ที่ได้จะเสียมากกว่าได้...เนื่องจากอำนาจ ทุกอย่างไม่ได้ตกอยู่ในมือของประชาชน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ถึงกับทำตัวเป็น “ฮีโร่” ที่ให้อภัยอริราชศัตรูได้อย่างเต็มใจในสนามรบ...เพียงแต่รู้จักปรับตัว “เรียนรู้” และ “ศึกษา” ในการต่อสู้กับกลุ่มขั้วมหาอำนาจให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบัน...ซึ่งถูกกล่าว ว่าเป็นโลกที่ไร้พรมแดน
ดังนั้น...การปล่อย 8 แกนนำสู่อิสรภาพ และการจับสุรชัยไปขังคุกแทน...จึงเป็นยุทธวิธี “คายไพ่” ในมือของผู้มีอำนาจ เพื่อที่จะควบคุมประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้...
มิเช่นนั้นอาจต้องมาพบ “จุดจบ” บนความเสื่อมเหมือนเช่นประเทศในแถบตะวันออกกลางก่อนเวลาอันควร...เพราะพลัง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...ทั่วโลกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...มันคือพลังของ ประชาชน
น่ากลัวจริงๆ กับเกมที่ถูกวางแผนมาอย่างแยบยลและรอบคอบของ “คนในห้องสุมหัว” เพียงไม่กี่คน...!TongueTongue [บางกอกทูเดย์
“มันเป็นเกมที่เหล่าผู้มีอำนาจจำเป็นต้องเล่น...ประหนึ่งกำลังนั่งล้อมวง “ตีดัมมี่” ฉันใด...หากใครถือไพ่ในมือเยอะเกินไป ก็อาจแพ้คาโต๊ะได้ฉันนั้น”
โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ!
กรณีศาลอาญาเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 8 คน ด้วยหลักประกันคนละ 6 แสนบาท
ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายยศวริศ ชูกล่อม และ นายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการจับกุมตัว “นายสุรชัย แซ่ด่าน” แกนนำกลุ่มแดงสยาม เพียงไม่กี่ชั่วโมง...และถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำคลองเปรม
สิ่งหนึ่งที่สมควรคิดและวิเคราะห์คือ...ทำไมกลุ่มผู้มีอำนาจในประเทศจึงวาง หมากเกมเช่นนี้...และนี่จะใช่แผน “ขุดบ่อล่อปลา” เพื่อจะเดินเกมในการทำลายเครือข่ายคนเสื้อแดงต่อไปหรือไม่?
คำตอบ คือ เป็นไปได้มากถึงมากที่สุด!
โดยเฉพาะเกมของผู้มีอำนาจที่มีการ “ปักธง” เอาไว้มาแต่เนิ่นๆ เกี่ยวกับประเด็น “สถาบันเบื้องสูง” โดยข้อหาของ “นายสุรชัย” คือ มาตรา 112
ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่มีหลักฐาน...เพราะคลิปที่ “สุรชัย” เดินทางไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ มิใช่การกล่าวหาลอยๆ อย่างเช่นที่กล่าวหา 8 แกนนำ นปช. ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
ทั้งสองกรณีจึงแตกต่างกันทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
ลองสังเกตุดูว่า...การพิสูจน์ความผิดของ 8 แกนนำนั้น รัฐจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นจนสิ้นสงสัยจึงจะลงโทษแกนนำทั้งหมดได้
ดังนั้น การที่ศาลใช้ดุลยพินิจในการกักขัง 8 แกนนำโดยไม่ให้ประกันตัว...เมื่อเทียบกรณีแกนนำพันธมิตรฯที่ถูกจับในข้อหา เดียวกัน แต่กลับได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
ในสายตาของวิญญูชนก็มองเห็นได้ถึงความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม
การกดดันโดยพลังมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับ 8 แกนนำนปช. จึงสามารถดำเนินไปได้อย่างมีน้ำหนัก
ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย...ขอย้ำว่า “คนไทยที่มีความคิดเป็นกลาง” เปิดใจรับหรือไม่ต่อต้านการเคลื่อนไหวเรียกร้องครั้งนี้ให้ปล่อยตัวแกนนำ
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องย้อนกลับมาดูที่การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ก้าวต่อไป...โดยเฉพาะประเด็นการนำมวลชนออกมากดดันศาลเพื่อให้มีการปล่อยตัว “นายสุรชัย” เฉกเช่นเดียวกับ 8 แกนนำ นปช.
หากคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องก็เท่ากับเป็นการ “ตกหลุมพราง” ของผู้มีอำนาจที่วางหมากเกมไว้ทันที...โดยเฉพาะข้อกล่าวหา “แดงล้มเจ้า” จะถูกนำมาฉายภาพซ้ำให้เกิดการกำราบอย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด
เหมือนเป็นการใช้ “นำผึ้งหยดเดียว” คือการจับกุมตัว “นายสุรชัย” เพื่อที่จะเดินเกมทำลายคนเสื้อแดงในแผนต่อไป
เพราะการปล่อยตัว 8 แกนนำคนเสื้อแดงได้มีการใช้หลักกฎหมายเป็นตัวควบคุม คือ 1.ห้ามออกนอกประเทศ และ 2. ห้ามปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ
เท่ากับว่า...เป็นการปล่อยตัวเพื่อให้ “มิตรรักแฟนเพลง” หายคิดถึง...แต่แกนนำทั้งหมดไม่สามารถเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปลุกระดม มวลชนได้
เพราะถ้าหากฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย...ก็มีสิทธิ์ที่แกนนำทุกคนจะมีชะตากรรมต้องเดินเข้าคุกแบบขังลืมอีกรอบ
มันจึงเป็นเกมที่เหล่าผู้มีอำนาจจำเป็นต้องเล่น...ประหนึ่งกำลังนั่งล้อมวง “ตีดัมมี่” ฉันใด...หากใครถือไพ่ในมือเยอะเกินไป ก็อาจแพ้คาโต๊ะได้ฉันนั้น
การปล่อยแกนนำทั้ง 8 คน ก็เพื่อต้องการแก้ภาพพจน์ที่เสียไปให้กลับคืนมา โดยเฉพาะในสายตาของนานาประเทศที่กำลังจับจ้องเรื่องกระบวนการยุตธรรมที่ถูก ต้องในเมืองไทย
ส่วนการเลือกจับ “นายสุรชัย” ก็เพื่อวางระเบิดเวลาความร้าวฉานไว้ให้กับเสื้อแดง...และเพื่อเป็นการปิด กั้นการขยายมวลชนไม่ให้ขยายออกไปมากกว่านี้
เพราะสิ่งหนึ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ในวันนี้ คือ...ประเทศชาติไม่สามารถกระดุกกระดิกตัวไปไหนได้ เพราะทั้งศึกในและศึกนอกของรัฐบาล รวมไปถึงการชักใยผ่านผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่เล่น “เกมการเมือง” โดยต้องการเอาชนะคะคานและมุ่งมาดที่จะรวบอำนาจไว้เบ็ดเสร็จ
แต่จะทำให้สำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน...เป็นไปไม่ได้
เพราะนับวันมวลชนคนเสื้อแดงจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และกลับกลายเป็นการลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยยุทธวิธีแปลกใหม่ ซึ่งทำให้ผู้มีอำนาจ “หัวหมุน” และ “หัวปั่น” ยกตัวอย่างเช่นการเล่นเฟสบุ๊ค หรือแชตบีบี
การสื่อสารเหล่านี้ทำให้พวกเขาเติบโตไว และไวยิ่งกว่าช่วงที่ “พันธมิตรฯ” ปลุกระดมมวลชนเพื่อมาขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร “กลุ่ม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน” หรือ “กลุ่มแดงสยาม” สุดท้ายแล้วในการฝังรากลึกผนึกกำลังเป็นกลุ่มก้อน...ทั้งสองก็คือ “คนเสื้อแดง” เช่นเดียวกัน...มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน...ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
แต่ด้วยแนวคิด (บางเรื่อง) ที่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงท้งสองกลุ่ม “เห็นต่าง” แต่ที่ผ่านมาพวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า “ไม่แตกแยก” (ถึงมีก็มีน้อยมาก) เพราะการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลประโยชน์เพียง “ตัวเงิน” หรือการประคองธุรกิจให้อยู่ได้
ยิ่งปิดทางสู้...ปิดรูหายใจการต่อสู้บนดิน...ก็เหลือแต่ทางใต้ดินซึ่งเป็นคำตอบของเกมๆ นี้
แต่ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดง “เลือกที่จะ” ไม่ต่อสู้ใต้ดิน...เพราะผลลัพธ์ที่ได้จะเสียมากกว่าได้...เนื่องจากอำนาจ ทุกอย่างไม่ได้ตกอยู่ในมือของประชาชน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ถึงกับทำตัวเป็น “ฮีโร่” ที่ให้อภัยอริราชศัตรูได้อย่างเต็มใจในสนามรบ...เพียงแต่รู้จักปรับตัว “เรียนรู้” และ “ศึกษา” ในการต่อสู้กับกลุ่มขั้วมหาอำนาจให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบัน...ซึ่งถูกกล่าว ว่าเป็นโลกที่ไร้พรมแดน
ดังนั้น...การปล่อย 8 แกนนำสู่อิสรภาพ และการจับสุรชัยไปขังคุกแทน...จึงเป็นยุทธวิธี “คายไพ่” ในมือของผู้มีอำนาจ เพื่อที่จะควบคุมประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้...
มิเช่นนั้นอาจต้องมาพบ “จุดจบ” บนความเสื่อมเหมือนเช่นประเทศในแถบตะวันออกกลางก่อนเวลาอันควร...เพราะพลัง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...ทั่วโลกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า...มันคือพลังของ ประชาชน
น่ากลัวจริงๆ กับเกมที่ถูกวางแผนมาอย่างแยบยลและรอบคอบของ “คนในห้องสุมหัว” เพียงไม่กี่คน...!TongueTongue [บางกอกทูเดย์
แก้ไขล่าสุดโดย lucky m. เมื่อ Sat Feb 26, 2011 4:37 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
lucky m.- Hero gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010
"เขา" กลัวอะไร
"เขา" กลัวอะไร
FACT:"เขา"ไม่กลัว นปช แดงทั้งแผ่นดิน
"เขา"กลัวแดงสยาม
"เขา"อ่อนแอและไม่มีทางสู้ในขณะนี้
GOAL:"เขา"จึงทำทุกอย่างเพื่อหยุดการเติบโตของแดงสยาม
เป้าหมายของ"เขา"ไม่เคยเปลี่ยน คือรักษาอำนาจไว้ตลอดกาล
METHOD:"เขา"จึงลวงให้ นปชเข้าใจว่า"เขา"ต้องการให้ แดงทั้งสองกลุ่มแตกแยก มีตัวป่วนต้องการทำลายแกนนำ นปช ฯลฯ
RESULT:แดง นปช จะหันมาปกป้องแกนนำและองค์กรแดงทั้งแผ่นดิน และเชื่อว่าแนวทางการรอเวลาเป็นกลยุทธที่ดีที่สุด
CONCLUSION:แนวทางลุกขึ้นสู้ ของแดงสยาม จะถูกโดดเดี่ยว และทำให้อ่อนแอลง เป็นการซื้อเวลาของ"เขา"ในการเตรียมแผนตั้งรับและกำจัด โดยใช้กลยุทธ์การเลือกตั้ง ศาล ฯลฯ เป็นตัวเบนเป้าหมายที่แท้จริงของเสื้อแดง ดังนั้นจึงต้องทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่"เขา"ต้องการคือ นปช ต้องหันมาจับมือและยึดแนวทางแดงสยาม ประกาศเป้าหมายที่แท้จริงต่อมวลชน และ ---->
KEYWORD:DO IT and DO IT NOW!
FACT:"เขา"ไม่กลัว นปช แดงทั้งแผ่นดิน
"เขา"กลัวแดงสยาม
"เขา"อ่อนแอและไม่มีทางสู้ในขณะนี้
GOAL:"เขา"จึงทำทุกอย่างเพื่อหยุดการเติบโตของแดงสยาม
เป้าหมายของ"เขา"ไม่เคยเปลี่ยน คือรักษาอำนาจไว้ตลอดกาล
METHOD:"เขา"จึงลวงให้ นปชเข้าใจว่า"เขา"ต้องการให้ แดงทั้งสองกลุ่มแตกแยก มีตัวป่วนต้องการทำลายแกนนำ นปช ฯลฯ
RESULT:แดง นปช จะหันมาปกป้องแกนนำและองค์กรแดงทั้งแผ่นดิน และเชื่อว่าแนวทางการรอเวลาเป็นกลยุทธที่ดีที่สุด
CONCLUSION:แนวทางลุกขึ้นสู้ ของแดงสยาม จะถูกโดดเดี่ยว และทำให้อ่อนแอลง เป็นการซื้อเวลาของ"เขา"ในการเตรียมแผนตั้งรับและกำจัด โดยใช้กลยุทธ์การเลือกตั้ง ศาล ฯลฯ เป็นตัวเบนเป้าหมายที่แท้จริงของเสื้อแดง ดังนั้นจึงต้องทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่"เขา"ต้องการคือ นปช ต้องหันมาจับมือและยึดแนวทางแดงสยาม ประกาศเป้าหมายที่แท้จริงต่อมวลชน และ ---->
KEYWORD:DO IT and DO IT NOW!
lucky m.- Hero gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ