GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จับสัญญาณการเมืองร้อน หวั่นหมัด "น็อกมืด"

Go down

"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จับสัญญาณการเมืองร้อน หวั่นหมัด "น็อกมืด" Empty "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จับสัญญาณการเมืองร้อน หวั่นหมัด "น็อกมืด"

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Mon May 13, 2013 3:14 pm

"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จับสัญญาณการเมืองร้อน หวั่นหมัด "น็อกมืด" Pol01130556p1


"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จับสัญญาณการเมืองร้อน หวั่นหมัด "น็อกมืด"
สัมภาษณ์โดย ศักดา เสมอภพ, อนุชา ทองเติม

หมายเหตุ - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ "มติชน" ถึงสถานการณ์การเมืองที่นับวันมีการเผชิญหน้ากันมากขึ้น

- มีการวิเคราะห์แกนนำคนเสื้อแดงไม่ออกมาร่วมขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกับกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เพราะกลัวโดนถอนประกันเหมือนกรณีของนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำคนเสื้อแดงความอิสระของคนเสื้อแดงเป็นพลังส่วนหนึ่งของเรา ตอนนี้ประชาชนซึมลึกถึงอุดมการณ์การต่อสู้ จึงออกมาเคลื่อนขบวนเอง พี่น้องที่เขาเคลื่อนไหวขับไล่ศาลรัฐธรรมนูญเขาไม่เคยมาปรึกษาพวกผม เราไม่ได้มีอำนาจสั่งการเขาได้ แต่ถ้าจะเสนอความเห็นกันผ่านช่องทางต่างๆ ได้


- แกนนำคนเสื้อแดงมีส่วนอยู่เบื้องหลังหรือไม่

ไม่มี แกนนำ นปช.ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง บางที่ประชาชนเขาอยากแสดงออก ผมจึงบอกว่าสถานการณ์ข้างหน้ามันแหลมคม จึงต้องเดินด้วยความรอบคอบ การเคลื่อนแต่ละครั้งมันต้องรุก มันต้องมีถอย การเมืองตอนนี้มันไม่น็อกกันง่ายๆ หรอก


- ทำไมแกนนำคนเสื้อแดงไม่ออกมาร่วมเคลื่อนกับประชาชน

เราเข้าชื่อรวมถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว คนที่เป็น ส.ส.ก็แสดงท่าทีปฏิเสธการใช้มาตรา 68 แล้ว เราก็ขับเคลื่อนอยู่ แต่ใช้วิธีการนี้ เพราะเรื่องเงื่อนไขการถอนประกันตัว เป็นประเด็นหนึ่งที่เราต้องนำมาใช้พิจารณาด้วย เราเดินแต่ละก้าวต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในการต่อสู้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่ลืมคิดไม่ได้คือชีวิตของประชาชน


- หากถึงจุดสู้รบจริง แกนนำคนเสื้อแดงพร้อมออกมาเคลื่อนไหว หรือจะเกรงกลัวเงื่อนไขถอนประกันตัว

ถ้าถึงเวลาไม่ต้องเรียก ผมจะไปยืนอยู่ข้างหน้า แต่ว่าต้องพูดจาให้เข้าใจกันเสียก่อนว่า การไปยืนอยู่ของผมเที่ยวนี้ สิ่งที่จะให้ความสำคัญที่สุดคือ ชีวิตของประชาชน คือความพยายามที่จะไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่เรื่องนี้ผมนั่งภาวนาคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องมาพูดคุยกัน เพราะถ้าเอาอาวุธมาพูดคุยกัน มันคุยกันไม่รู้เรื่อง


- หลายฝ่ายวิเคราะห์กันว่าการเมืองจะเริ่มกลับมาร้อนแรง เพราะรัฐบาล พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง ส่งสัญญาณพร้อมเผชิญกับฝั่งตรงข้าม

การเมืองจะยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้น พท.แสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการแก้ไขปัญหาการเมืองอย่างจริงจัง โดยการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงการยื่นร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามต่างเฝ้ามองเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา พยายามใช้การขับเคลื่อนของรัฐบาล เพื่อสร้างประเด็นทางการเมืองลดความน่าเชื่อถือ ทุกเรื่องที่ผ่านมาในการบริหารฝ่ายตรงข้ามพยายามทำให้เป็นประเด็นทางการเมืองแต่ไม่ได้ผล

พอถึงคราวที่รัฐบาลต้องจับเรื่องการเมืองโดยตรง อีกฝ่ายจึงชักแถวออกมา ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส.ว.สรรหา รวมถึงนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง เพราะ 2 ปี เขาเห็นแล้วว่าหากไปเล่นในเกมบริหารยังไงก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ แต่เมื่อรัฐบาลเข้ามาดำเนินการในประเด็นทางการเมือง จึงเป็นโอกาสของเขา


- วงในของพรรคเพื่อไทย วงในของคนเสื้อแดง ประเมินฝ่ายตรงข้ามอย่างไร


มีการวิเคราะห์ว่ากำลังฝ่ายตรงข้ามอ่อนลง แต่ผมเห็นต่างออกไปว่ากำลังที่อ่อนลงของฝ่ายตรงข้ามมีเพียงอย่างเดียวคือ กำลังมวลชน แต่กำลังอื่นอย่างองค์กรอิสระ ปชป. ส.ว.สรรหา พร้อมเครือข่ายยังอยู่ครบ นอกจากนี้กองทัพเองก็ยังเป็นกำลังของอีกฝ่ายอยู่ แม้ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลจะเป็นไปอย่างราบรื่นก็ตาม เพราะไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเมื่อเกิดวิกฤตการเมืองทุกครั้งกองทัพมักถูกคาดหวังจากฝ่ายตรงข้ามกับระบอบประชาธิปไตยเสมอ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการโค่นล้มอดีตนายกฯอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มต้นโดยการใช้มวลชน แต่มาคราวนี้มวลชนดังกล่าวกลับอ่อนกำลังลง เป็นไปได้ว่าเขาจะใช้มวลชนของฝ่ายเราเป็นเครื่องมือ โดยการพยายามสร้างสถานการณ์ยั่วยุ กดดัน บีบคั้น จนกำลังฝ่ายเราล้นบรรทัด จากนั้นเขาก็จะดำเนินการขั้นที่ 2-3-4 ได้ต่อ แต่ก่อนเขามีทุนในกระเป๋า ก็ควักทุนก้อนแรกคือ มวลชนออกมาเคลื่อน เคลื่อนจนอธิบายว่าบ้านเมืองวิกฤตมากแล้ว แต่วันนี้ทุนของเขามันร่อยหรอ ขณะนี้เขาจึงมองกำลังจากฝ่ายเราไปเป็นจุดเริ่มต้น

- ยั่วยุให้มวลชนชุมนุมจนล้ำเส้นแตกแถวแล้วเข้าดำเนินการ


ไม่ได้บอกว่าเป็นกำลังฝ่ายเราที่แตกแถวหรือไม่แตกแถว แต่การยั่วยุอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน การทำอะไรโดยไม่แคร์เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ผมว่ามีเจตนา หากประชาชนเกิดขาดความอดทนอดกลั้น ทำอะไรเกินกติกา ก็จะเป็นเหตุอ้างว่ารัฐบาลไปรู้เห็นเป็นใจ หรือไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เกิดความวุ่นวายเกิดวิกฤต ทีนี้ลูกผสมก็จะออกมา

ต้องไม่ลืมว่าหลายปีที่ผ่านมา ฝ่ายตรงข้ามตีไพ่ไว้ให้องค์กรอิสระหลายใบแล้ว แม้ผมเองยังจำไม่ได้ว่าใครได้ไปยื่นร้องอะไรเอาไว้บ้าง ดังนั้น เมื่อถึงจังหวะองค์กรอิสระต่างๆ อาจจะมีการน็อกมืดเลยก็ได้ เพราะมีไพ่หลายใบในมือ เช่น เรื่อง จำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น เรียกว่าไปยื่นทุกเรื่อง จึงทำให้องค์กรอิสระมีไพ่หลายใบที่จะเล่น แต่สถานการณ์ข้างนอกมันอาจจะไม่เอื้อพอ เขาอุ่นเครื่องกำลังฝ่ายเขาไม่ได้ ก็มาใส่ไฟกำลังฝ่ายเรา

มันเหมือนหม้อต้มน้ำอยู่ดีๆ เขาก็มาเร่งไฟหวังให้น้ำเดือดเรื่อยๆ น้ำเดือดสักพักน้ำก็จะล้นหม้อ จึงเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตามอง อดไม่ได้ที่จะส่งสัญญาณเหล่านี้ออกไป เพราะเดินมาถึงวันนี้ อาจจะเดินไปเข้าทางเขาง่ายๆ อาจจะพลาดง่ายๆ จึงต้องระมัดระวัง ไม่ใช่บอกให้กลัว เพราะถ้ามีสถานการณ์ทำลายประชาธิปไตยขึ้นมา ไม่ต้องเรียก ผมจะออกไปยืนข้างหน้า ไม่อยากให้สถานการณ์การเมืองทำให้ประชาชนต้องมาบาดเจ็บล้มตายอีก ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม

- บอกว่าฝ่ายตรงข้ามจะน็อกมืด แล้วตอนนี้มีไพ่หน้าไหนที่รัฐบาลเปิดไพ่ให้ฝ่ายตรงข้ามเห็น


นี่ไงถึงบอกว่าต่อไปจะตีไพ่ใบไหน ต้องมองไพ่ในกองด้วย ต้องอ่านไพ่ในมือเขาด้วย ต้องมองหน้าสบตาเขาด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่าทั้งวงขาอื่นเขารู้กันหมด เรานี่เล่นอยู่ขาเดียว เขาตีไพ่ให้กันยังไง เขาเก็บกันยังไงต้องมองให้ชัด เพราะสถานการณ์หลังจากนี้จะเข้าสู่ความเข้มข้นแล้ว เข้าสู่โหมดของการต่อสู้แล้ว


- การที่พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง กำลังเผชิญหน้ากับศาลเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งวุ่นวายหรือไม่


ถึงเวลานี้ยังไม่เกิดเงื่อนไขนั้น แต่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามพยายาม


- บอกว่ากลุ่มมวลชนของฝั่งตรงข้ามเหลือน้อย แต่ก็มีการแตกย่อยมวลชนออกเป็นหลายกลุ่ม สุดท้ายแล้วกลุ่มเหล่านี้จะต่อกันติดหรือไม่

ถึงเวลาอาจจะมารวมตัวกันได้ แต่ปัจจุบันเขาพยายามสร้างเงื่อนไขแต่ไม่สำเร็จ วันนี้ ปชป.อยากให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ออกมา แต่ พธม.ก็รู้สึกเข็ดกับ ปชป. แต่ภายใต้ความแตกต่าง ยังมองว่าถึงเวลาเขารวมตัวกันได้แน่ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ 2 ปี เขาทำตลอด แต่ไม่สำเร็จ


- อ่านใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.อย่างไร


ยังไม่กังวลกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่พูดตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาว่า ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลจะดีเพียงใด แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการเมือง มักจะถูกฝ่ายหนึ่งคาดหวังจากกองทัพเสมอ ถ้าถามว่าจะมีรัฐประหารหรือไม่ ไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่พูดตามกฎเกณฑ์ทางประวัติศาสตร์ว่า กองทัพเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราละสายตาไม่มองไม่ได้ แต่ชั้นนี้พวก ปชป. ส.ว. องค์กรอิสระ มาเคลื่อนไหวมากมาย แต่กองทัพเขายังนิ่งอยู่


- มองว่ายังนิ่งอยู่เพราะเงื่อนไขยังไม่เอื้ออำนวย

คิดว่าเมื่อกองทัพยังอยู่ในบทบาทที่เหมาะสม ยังอยู่ในสภาพที่สังคมยอมรับได้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดอะไรขึ้นมา แต่เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมทางการเมือง กองทัพมักอยู่ฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยเสมอ

ที่มา : หน้า 11,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1368410330&grpid=01&catid=01&subcatid=0100
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics
» เปิดใจ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ "ความสูญเสียประชาชนรอช้าไม่ได้"
» ณ วันนี้ เขาได้รับกำลังใจต่อชีวิต จากผู้ชายที่ชื่อ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"
» 555+ หัวเราะเยาะเย้ยให้เผด็จการ อำนาจนอกระบบ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพื่อไทย เชียงใหม่ 2 มิถุนายน 2556
» ‘ณัฐวุฒิ’แฉลอบสังหาร3ครั้งไม่สำเร็จ7แกนนำสมัครส.ส.
» “ณัฐวุฒิ”ปูด“มือที่มองไม่เห็นและปากห้อยๆ”ขนชายฉกรรจ์ตรียมก่อเหตุปราศรัยใหญ่ ปชป.

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ