คำยืยยันของ!! อู ความเห็นจากผู้ติดตามคดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
หน้า 1 จาก 1
คำยืยยันของ!! อู ความเห็นจากผู้ติดตามคดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เมื่อมีนักวิชาการ นักกฎหมาย กำลังเคลื่อนไหวให้ฟ้องร้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ฐานสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่หนนี้
ผู้คนทั่วไปก็มีคำถามง่ายๆ ว่า ถ้าคณะเดียวกันนี้ ใส่ใจจะฟ้องร้องรัฐบาลอภิสิทธิ์
ในเหตุการณ์ปราบประชาชนที่ชุมนุมทางการเมืองจนตายไป 91 ศพ
การเคลื่อนไหวคงจะมีน้ำหนักและได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม!
แต่นี่ ใครฟังก็ได้แต่ส่ายหน้าไปเท่านั้น
ถ้าลองรัฐบาลหนึ่ง ทำอะไรก็ผิดไปหมด
แต่อีกรัฐบาลทำผิดเห็นๆ
แต่ไม่รู้สึกว่าผิด
ก็คงต้องค้นหานิยามคำว่านักวิชาการและนักกฎหมายที่เป็นกลางกันใหม่เสียแล้ว
ขณะที่คนในกองทัพอย่าง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
กลับกระทำในสิ่งที่นักกฎหมายบางคนอาจต้องอายม้วนเอาหัวมุดดิน
เพราะได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน
ถึงเหตุการณ์เมษายน-พฤษภาคม 2553 เรียบร้อยไปแล้ว
พนักงานสอบสวนที่มี
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ควบคุมอำนวยการ
มีพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. เป็นหัวหน้าทีม
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา โฆษกของศอฉ. เดินยืดอกเข้าให้ปากคำอย่างเป็นทางการ!
เป็นการเข้าให้การในฐานะผู้ทำหน้าที่ภายในศอฉ.
เน้นรายละเอียดโครงสร้างและสายการบังคับบัญชาในเหตุการณ์นองเลือด
เสธ.ไก่อู ชี้ให้เห็นว่า
โดยอำนาจปกติของทหาร
โดยขอบเขตของกองทัพนั้น อยู่ที่การรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนและเขตป่าเขา
ทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ในเขตเมืองหลวง
แต่มาเพราะอำนาจของศอฉ.หรือศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
แล้วศอฉ.ก็ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่
แต่เกิดจากลายเซ็นคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ!
อีกทั้งศอฉ.ยังมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผอ.เป็นคนสั่งการ
ด้วยอำนาจของศอฉ.ภายใต้นักการเมืองทั้งสองนี่แหละ
ทำให้ทหารต้องถือปืนพร้อมรถหุ้มเกราะเข้ามากระชับพื้นที่ในเมืองหลวง
ไม่ใช่ด้วยอำนาจของกองทัพเอง
ไม่ใช่ด้วยคำสั่งของผู้บังคับบัญชาทหารเอง
แต่ด้วยคำสั่งของอภิสิทธิ์และสุเทพ
เท่ากับว่าคดี 91 ศพเริ่มกระชับถึงคนสั่งการแล้ว!
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPREU0TVRFMU5BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4T0E9PQ==
วงค์ ตาวัน
เมื่อมีนักวิชาการ นักกฎหมาย กำลังเคลื่อนไหวให้ฟ้องร้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ฐานสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่หนนี้
ผู้คนทั่วไปก็มีคำถามง่ายๆ ว่า ถ้าคณะเดียวกันนี้ ใส่ใจจะฟ้องร้องรัฐบาลอภิสิทธิ์
ในเหตุการณ์ปราบประชาชนที่ชุมนุมทางการเมืองจนตายไป 91 ศพ
การเคลื่อนไหวคงจะมีน้ำหนักและได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม!
แต่นี่ ใครฟังก็ได้แต่ส่ายหน้าไปเท่านั้น
ถ้าลองรัฐบาลหนึ่ง ทำอะไรก็ผิดไปหมด
แต่อีกรัฐบาลทำผิดเห็นๆ
แต่ไม่รู้สึกว่าผิด
ก็คงต้องค้นหานิยามคำว่านักวิชาการและนักกฎหมายที่เป็นกลางกันใหม่เสียแล้ว
ขณะที่คนในกองทัพอย่าง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
กลับกระทำในสิ่งที่นักกฎหมายบางคนอาจต้องอายม้วนเอาหัวมุดดิน
เพราะได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน
ถึงเหตุการณ์เมษายน-พฤษภาคม 2553 เรียบร้อยไปแล้ว
พนักงานสอบสวนที่มี
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ควบคุมอำนวยการ
มีพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. เป็นหัวหน้าทีม
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา โฆษกของศอฉ. เดินยืดอกเข้าให้ปากคำอย่างเป็นทางการ!
เป็นการเข้าให้การในฐานะผู้ทำหน้าที่ภายในศอฉ.
เน้นรายละเอียดโครงสร้างและสายการบังคับบัญชาในเหตุการณ์นองเลือด
เสธ.ไก่อู ชี้ให้เห็นว่า
โดยอำนาจปกติของทหาร
โดยขอบเขตของกองทัพนั้น อยู่ที่การรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนและเขตป่าเขา
ทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ในเขตเมืองหลวง
แต่มาเพราะอำนาจของศอฉ.หรือศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
แล้วศอฉ.ก็ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่
แต่เกิดจากลายเซ็นคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ!
อีกทั้งศอฉ.ยังมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผอ.เป็นคนสั่งการ
ด้วยอำนาจของศอฉ.ภายใต้นักการเมืองทั้งสองนี่แหละ
ทำให้ทหารต้องถือปืนพร้อมรถหุ้มเกราะเข้ามากระชับพื้นที่ในเมืองหลวง
ไม่ใช่ด้วยอำนาจของกองทัพเอง
ไม่ใช่ด้วยคำสั่งของผู้บังคับบัญชาทหารเอง
แต่ด้วยคำสั่งของอภิสิทธิ์และสุเทพ
เท่ากับว่าคดี 91 ศพเริ่มกระชับถึงคนสั่งการแล้ว!
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dPREU0TVRFMU5BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB4T0E9PQ==
แก้ไขล่าสุดโดย lucky m. เมื่อ Thu Nov 24, 2011 10:37 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
lucky m.- Hero gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010
ยืนยันทหารไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยพลการ แต่จะทำตามคำสั่ง ศอฉ. ความเห็นจากผู้ติดตามคดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
Posted on November 23, 2011 by jasmine http://thai-ahr.org/ เวบไซต์ สมาคมไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน TAHR
กรณี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นตัวแทนของกองทัพให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีสลายการชุมนุมช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.53 ยืนยันทหารไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยพลการ แต่จะทำตามคำสั่งศอฉ. ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.ขณะเกิดเหตุ เป็นผู้สั่งการ
คำให้การดังกล่าวจะเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน สาวไปถึงผู้สั่งการได้หรือไม่ มีความเห็นจากผู้ติดตามคดี ดังนี้
....................
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
คำให้การของ พ.อ.สรรเสริญเป็นข้อมูลเดิมว่า การสั่งการทุกครั้งใน คำสั่งของศอฉ.เป็นของนายอภิสิทธิ์ โครงสร้างของศอฉ.นั้นเห็นชัดเจนถึงสายการบังคับบัญชาว่าใครสั่งการเรื่องอะไร
การยืนยันของพ.อ.สรรเสริญจึงทำให้ข้อมูลเดิมเหล่านั้นชัดเจนขึ้น หนักแน่นขึ้น ประเด็นหลักจึงอยู่ที่การนำตัวคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่ และเป็นประเด็นต่อไปคือ คนที่จะมาตรวจสอบใช้หลักฐานที่มาจากไหน
มองในทางการเมือง เรื่องนี้น่าจะเป็นภาพของทหารที่กันตัวเองออกมาจากความผิด กันตัวเองออกมาจากรัฐบาลในช่วงนั้น อีกทั้งเป็นภาพของการประนีประนอมระหว่างทหารและรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์มากขึ้น
คนที่ต้องรับผิดชอบทุกคำสั่งการต้องเป็นรัฐบาลชุดนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ต้องมาดูว่าทหารทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ เช่น หากรัฐบาลสั่งให้ยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วมีคนเสียชีวิต ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องมาพิสูจน์กัน
ในส่วนคดีที่มีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็ว เพราะเวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว รัฐบาลจึงต้องดูว่าควรให้หน่วยงานใดรับผิดชอบ
อย่างคณะกรรมการค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ให้ทำต่อไปได้ แต่เนื่องจากการทำงานดูช้าไปหมด รัฐบาลจึงควรตั้งตัวแทนเข้าไปร่วมงานอีก ให้การค้นหาความจริงรวดเร็วขึ้น คนเหล่านี้หากไม่ถูกกระตุ้นจะทำไปเรื่อยๆ เหมือนรอดูท่าที
กรณี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นตัวแทนของกองทัพให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีสลายการชุมนุมช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.53 ยืนยันทหารไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยพลการ แต่จะทำตามคำสั่งศอฉ. ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.ขณะเกิดเหตุ เป็นผู้สั่งการ
คำให้การดังกล่าวจะเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน สาวไปถึงผู้สั่งการได้หรือไม่ มีความเห็นจากผู้ติดตามคดี ดังนี้
....................
อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
คำให้การของ พ.อ.สรรเสริญเป็นข้อมูลเดิมว่า การสั่งการทุกครั้งใน คำสั่งของศอฉ.เป็นของนายอภิสิทธิ์ โครงสร้างของศอฉ.นั้นเห็นชัดเจนถึงสายการบังคับบัญชาว่าใครสั่งการเรื่องอะไร
การยืนยันของพ.อ.สรรเสริญจึงทำให้ข้อมูลเดิมเหล่านั้นชัดเจนขึ้น หนักแน่นขึ้น ประเด็นหลักจึงอยู่ที่การนำตัวคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่ และเป็นประเด็นต่อไปคือ คนที่จะมาตรวจสอบใช้หลักฐานที่มาจากไหน
มองในทางการเมือง เรื่องนี้น่าจะเป็นภาพของทหารที่กันตัวเองออกมาจากความผิด กันตัวเองออกมาจากรัฐบาลในช่วงนั้น อีกทั้งเป็นภาพของการประนีประนอมระหว่างทหารและรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์มากขึ้น
คนที่ต้องรับผิดชอบทุกคำสั่งการต้องเป็นรัฐบาลชุดนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ต้องมาดูว่าทหารทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ เช่น หากรัฐบาลสั่งให้ยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วมีคนเสียชีวิต ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องมาพิสูจน์กัน
ในส่วนคดีที่มีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็ว เพราะเวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว รัฐบาลจึงต้องดูว่าควรให้หน่วยงานใดรับผิดชอบ
อย่างคณะกรรมการค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ให้ทำต่อไปได้ แต่เนื่องจากการทำงานดูช้าไปหมด รัฐบาลจึงควรตั้งตัวแทนเข้าไปร่วมงานอีก ให้การค้นหาความจริงรวดเร็วขึ้น คนเหล่านี้หากไม่ถูกกระตุ้นจะทำไปเรื่อยๆ เหมือนรอดูท่าที
lucky m.- Hero gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010
Similar topics
» “วิเคราะห์ผลเลือกตั้ง และแนวโน้มรัฐบาลใหม่” โดยศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ 20-07-54
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ