ธ.ก.ส.ลดวงเงินทำบัตรสินเชื่อเกษตรกร300ล.แจกชาวนา2ล้านราย

[goosehhardcore]

ธ.ก.ส.ลดวงเงินทำบัตรสินเชื่อเกษตรกร300ล.แจกชาวนา2ล้านราย

บอร์ด ธ.ก.ส. ปรับลดวงเงินโครงการจัดทำบัตรสินเชื่อเกษตรกรจาก 1,008 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท เตรียมเปิดประมูลเร็ว ๆ นี้ ตั้งเป้าแจกชาวนา 2 ล้านราย ภายใน ม.ค.55

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ปรับลดวงเงินดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรเหลือ 300 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 1,008 ล้านบาท เพื่อเช่าเหมาบริการระบบงานบัตรสินเชื่อเกษตรกร บริหารจัดการบัตร และวางระบบความคุมวงเงินและระบบการบริหารจัดการร้านค้า เป็นระยะเวลา 3 ปี และเห็นชอบให้จัดหาระบบบัตรสินเชื่อเกษตรกร โดยเช่าเหมาบริการระบบงานบัตรสินเชื่อเกษตรกร เพื่อบริหารจัดการบัตรและวางระบบความคุมวงเงิน และระบบการบริหารจัดการร้านค้า

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า สาเหตุที่ลดวงเงินเหลือ 300 ล้านบาท เพราะ ธ.ก.ส. จัดทำระบบงานธุรกิจหลัก (คอร์แบงกิ้ง) เอง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 2555 จากเดิมต้องเช่า และได้ยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดว่าจะต้องสแกนหน้า และนิ้วมือของชาวนาที่จะใช้บัตรเครดิต โดยจะเปิดประมูลได้เร็ว ๆ นี้ ซึ่งผู้ประมูลในครั้งแรกสามารถเข้าร่วมประมูลในครั้งใหม่ได้ด้วย

ส่วนราคาค่าบัตรอยู่ที่ใบละ 40 บาท รูปแบบบัตรจะเป็นบัตรที่มีแถบแม่เหล็กและมีไมโครชิปเหมือนบัตรเครดิต แต่ไม่ถือเป็นบัตรเครดิต แต่จะเป็นเพียงบัตรสินเชื่อเกษตรกรเท่านั้น คาดว่าจะเริ่มแจกจ่ายบัตรได้ภายในเดือน ม.ค. 2555 สำหรับชาวนา 2 ล้านราย ซึ่งปรับลดลงจากเดิมที่จะแจกให้เกษตรกรของลูกค้า ธ.ก.ส.ทั้งหมด 3 ล้านราย

เงื่อนไขการใช้บัตร คือ เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ใช้จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์การเกษตร หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ โดยจำกัดใช‰เฉพาะสินค้าที่เป?นปัจจัยการผลิต เชˆน ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช ฯลฯ ที่ซื้อจากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) และร้านค้าในเครือข่าย 3,000 แห่ง

ทั้งนี้ เกษตรกรที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการบัตรสินเชื่อต้องไม่มีหนี้ค้างชำระ และไม่เป็นลูกค้าตามโครงการพักชำระหนี้ ประกอบอาชีพทำนาข้าวและมีผลผลิตข้าวส่วนเหลือเพื่อขาย และต้องนำผลผลิตข้าวของตนเองมาจำนำตามโครงการรับจำนำข้าว โดยมีเป้าหมายลูกค้าทั้งหมดรวม 2 ล้านราย

สำหรับวงเงินสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตกำหนดไม่เกิน 70% ของผลผลิตส่วนเหลือเพื่อขาย ซึ่งเป?นวงเงินตามความจำเป็นและเหมาะสมในการผลิตข้าวของเกษตรกรแต่ละรายไม่เกิน 30% ของจำนวน 70% ตามวงเงินสินเชื่อ คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ซึ่งปัจจุบันเท่ากับ 7% ปลอดดอกเบี้ย 30 วัน โดยจะตัดยอดการใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรในวันที่ 31 ธ.ค. ของทุกปี กำหนดชำระคืนในวันที่ 31 มี.ค.ของทุกปี

กรณีเกษตรกรใช้บัตรช่วงระยะเวลาเดือน ม.ค.-มี.ค. กำหนดชำระคืนในวันที่ 31 มี.ค.ของปีถัดไป ในกรณีเกษตรกรไม่สามารถชำระหนี้ตามบัตรสินเชื่อเมื่อถึงกำหนดชำระได้ทั้งหมดหรือบางส่วน ธ.ก.ส.จะปรับดอกเบี้ยเป็นอัตราสูงสุดตามประกาศ ธ.ก.ส. คือ เอ็มอาร์อาร์+3 หรือ 10% ต่อปีรวมทั้งเบี้ยปรับ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1319872732&grpid=&catid=09&subcatid=