คนโขนรูดม่านวันนี้ (ใครยังไม่ได้ดูหนังดีๆแบบนี้รีบๆหน่อยน่ะค่ะ)
2 posters
หน้า 1 จาก 1
คนโขนรูดม่านวันนี้ (ใครยังไม่ได้ดูหนังดีๆแบบนี้รีบๆหน่อยน่ะค่ะ)
ตั้วพ้อพธม.เมินคนโขนนนรูดม่านวันนี้ ปิดฉากเทศกาลหนังเมืองคลานผลาญเงินภาษีสร้าง-บังคับเด็กดู
[img][/img]
วันที่ 14 กันยายนจะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขนนน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมาเหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "-บันทึกของ ศรัณยู ,13 ก.ย.54
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
14 กันยายน 2554
ศรัณยูเขียนบันทึกปิดม่านคนโขนตัดพ้อพธม.ไม่ช่วยดู ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามสมน้ำหน้า
ตั้ว-ศรัณยู ผู้สร้าง ผู้เขียนบท ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคนโขนเขียนบันทึกในเฟซบุ๊คของเขาเมื่อ 13 กันยายน หัวข้อเรื่อง ปิดม่าน คนโขนนน" ปาฏิหารย์ไม่มีจริง ทุกสรรพสิ่งมีผลมาจากเหตุและปัจจัย " โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
จั่วหัวไว้อย่างนี้ พี่น้องคงพอเดาได้ ว่าเนื้อหาบรรทัดต่อๆไปของบทความนี้จะเคลื่อนตัวไปในแนวไหน
กว่าสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมทุ่มเททั้งชีวิตให้กับภารกิจทุกอย่างที่เจ้าของหนังคนหนึ่งพึงกระทำได้ นับตั้งแต่เปิดตัวประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่ามีหนังเรื่อง คนโขน รออยู่ในโรงฉาย
ชักชวน อ้อนวอนคนรู้จักมากมายให้พากันมาดูหนังเรื่องนี้ ผมแอบฝันเล็กๆว่า หากมีพี่น้องพันธมิตร ซึ่งไม่ต้องถึงกับทั้งหมดหรอกครับ เอาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเท่าที่มี พร้อมใจกันมาดูหนังเรื่องนี้ รายได้ของหนังก็จะทะลุเกินเป้าที่นายทุนตั้งความหวังไว้แล้ว...นายทุนเองยังพลอยยิ้ม เห็นด้วยกับความฝันของผมเลย แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่!!!
ผมเพิ่งกลับจาก บ.สหมงคล เพิ่งเปิดบัญชี ดูตัวเลขรายได้ทั้งหมดที่เก็บได้จนถึงรอบเมื่อกี้ ทุกคนตกใจ มันน้อยเกินว่าระดับต่ำสุดที่เราประเมินไว้เสียอีก...น้อยจริงๆครับ อย่าให้ผมบอกตัวเลขเลย ผู้ที่คอยลุ้นคอยให้กำลังใจผมตลอดมาจะพลอยหดหู่ใจกันเปล่าๆ แต่คนที่ีอยู่ฟากฝั่งตรงข้ามหากเห็นตัวเลขนี้เข้า ก็คงจะสมน้ำหน้า ว่าสมแล้วหละมึง...ถ้าจะบอกว่าผมไม่เสียใจ ก็คงจะเป็นการโกหกตัวเองเกินไป เพียงแต่ว่าภายใต้ความชอกช้ำใจครั้งนี้ มันได้บอกอะไรกับผมหลายต่อหลายอย่าง
ในส่วนของตัวงานภาพยนตร์ ผมคิดว่าผมมาถูกทางแล้ว เพราะเกือบทุกคนที่ดูคนโขน ต่างพากันชื่นชมในคุณค่าของงาน ในมุมมองที่ต่างๆกัน ตามแต่รสนิยมในการรับรู้ของแต่ละคน จะมีบ้างบางมุม ที่เห็นต่างกันไป หรือมีบางมุมที่ไม่ชอบ ขัดใจ เช่นชะตากรรมของตัวละครในตอนจบ ซึ่งผมถือว่านี่คือเสียงตอบรับที่ดี ที่ตัวหนังได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์
ไม่ใช่ตั้งใจชม หรือตั้งใจเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตา
นักข่าวอาวุโสหลายท่านต่างเขียนชมภาพยนตร์เรื่อง"คนโขน"นี้กันไม่น้อย ล่าสุดคอลัมน์ ซูม ในนสพ.ไทยรัฐฉบับเมื่อเช้านี้ (13กย.2554)ก็กล่าวชมยาวทั้งคอลัมน์ บนความเสียดายของคุณซูมที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ช้าไป
ในส่วนของกำลังใจจากพี่น้องพธม.นั้น ผมพูดอะไรไม่ออก น้ำตามากมายของผมหยดลงบนบันทึกก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คำว่าขอบคุณนับล้านคำ นับล้านครั้ง ก็ยังไม่เท่าน้ำใจไมตรีที่พี่น้องมอบให้กับหนังของผม
ผมได้รู้ว่า " เท่าที่ผมเป็น เท่าที่ผมมี "มันยังไม่เพียงพอที่จะให้ผมยืนหยัดอยู่ในอาชีพนี้ได้ ในระดับของโอกาส ที่เท่าเทียมกับคนอื่นในสังคม
ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่ท้อหรอกครับ ผมจะสู้ต่อไป ในอาชีพของผม ด้วยต้นทุนเท่าที่ผมมี
ผมยังหวังว่า สักวันหนึ่งคุณค่าของงานที่ได้สร้างไว้ในวันนี้คงจะมีโอกาสเข้าถึงการรับรู้ของผู้ชม ด้วยรูปแบบของสื่อที่ต่างกันออกไป เช่นจากแผ่น DVD ไม่ว่าจะเป็นแผ่นแท้หรือแผ่นผี หรือถูกฉายในช่องฟรีทีวี หรือแม้แต่ในวงสนทนาของผู้ที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมก็ดีใจแล้วครับ
วันพุธที่14กันยายน2554 ก็จะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขนนน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ผมไม่โทษโรงภาพยนตร์เลย ออกจะเห็นใจเขาด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังดีที่กระทรวงวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของงานที่เหมาะแก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ยังดีที่บ.ไทยประกันชีวิต และ ธอส. ก็เห็นคุณค่านี้ด้วย จึงเอื้อเฟื้อค่าใช้จ่ายในการเหมาโรงฉายให้นักเรียน หลากหลายโรงเรียนได้เข้าชมฟรี โดยแจ้งความจำนงมาที่กระทรวง ณ.วันนี้ มีรอคิวอยู่แล้วประมาณ20โรงเรียน เรียงกันไปจนถึงอาทิตย์หน้า
ฉะนั้ันหากพี่น้องท่านใด อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการสั่งลา ก็ทำได้ด้วยการรวมตัวกันประมาณ100คนขึ้นไป นัดหมายกันไปซื้อตั๋วดูรอบเดียวกัน โรงภาพยนตร์ก็จะเปิดรอบนั้นฉายให้เป็นกรณีพิเศษเป็นรอบๆไป ซึ่งพี่น้องสามารถเลือกโรงที่สะดวก เดินทางง่าย โรงใดก็ได้ แต่ต้องแจ้งมาที่ผมก่อน หรือจะผ่านทางASTVVมายังผมก็น่าจะได้
ผมจะได้ติดต่อเหมาโรงล่วงหน้าให้ในทันที
คิดเล่นๆอีกสักครั้ง ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมา เหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "
กราบคารวะน้ำใจของพี่น้องทุกท่านอีกสักครั้ง บนบทความว่าด้วยเรื่อง คนโขน ชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ เพราะรู้ว่า อ้อมแขนอันโอบอุ่นของพี่น้อง ยังคงประคองผมอยู่
จะมากจะน้อยแค่ไหน หากไม่ตาย ผมคงได้ทดแทนคุณครับผม
ศรัณยู
๑๓ กันยายน ๒๕๕๔
มันเป็นสัจธรรม กรรมเกิดจากการกระทำของตนเอง
......................
อืม..ก็ช่วยประคองกันไปอะนะ พี่น้องพันธมิตร
[img][/img]
วันที่ 14 กันยายนจะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขนนน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมาเหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "-บันทึกของ ศรัณยู ,13 ก.ย.54
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
14 กันยายน 2554
ศรัณยูเขียนบันทึกปิดม่านคนโขนตัดพ้อพธม.ไม่ช่วยดู ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามสมน้ำหน้า
ตั้ว-ศรัณยู ผู้สร้าง ผู้เขียนบท ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคนโขนเขียนบันทึกในเฟซบุ๊คของเขาเมื่อ 13 กันยายน หัวข้อเรื่อง ปิดม่าน คนโขนนน" ปาฏิหารย์ไม่มีจริง ทุกสรรพสิ่งมีผลมาจากเหตุและปัจจัย " โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
จั่วหัวไว้อย่างนี้ พี่น้องคงพอเดาได้ ว่าเนื้อหาบรรทัดต่อๆไปของบทความนี้จะเคลื่อนตัวไปในแนวไหน
กว่าสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมทุ่มเททั้งชีวิตให้กับภารกิจทุกอย่างที่เจ้าของหนังคนหนึ่งพึงกระทำได้ นับตั้งแต่เปิดตัวประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่ามีหนังเรื่อง คนโขน รออยู่ในโรงฉาย
ชักชวน อ้อนวอนคนรู้จักมากมายให้พากันมาดูหนังเรื่องนี้ ผมแอบฝันเล็กๆว่า หากมีพี่น้องพันธมิตร ซึ่งไม่ต้องถึงกับทั้งหมดหรอกครับ เอาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเท่าที่มี พร้อมใจกันมาดูหนังเรื่องนี้ รายได้ของหนังก็จะทะลุเกินเป้าที่นายทุนตั้งความหวังไว้แล้ว...นายทุนเองยังพลอยยิ้ม เห็นด้วยกับความฝันของผมเลย แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่!!!
ผมเพิ่งกลับจาก บ.สหมงคล เพิ่งเปิดบัญชี ดูตัวเลขรายได้ทั้งหมดที่เก็บได้จนถึงรอบเมื่อกี้ ทุกคนตกใจ มันน้อยเกินว่าระดับต่ำสุดที่เราประเมินไว้เสียอีก...น้อยจริงๆครับ อย่าให้ผมบอกตัวเลขเลย ผู้ที่คอยลุ้นคอยให้กำลังใจผมตลอดมาจะพลอยหดหู่ใจกันเปล่าๆ แต่คนที่ีอยู่ฟากฝั่งตรงข้ามหากเห็นตัวเลขนี้เข้า ก็คงจะสมน้ำหน้า ว่าสมแล้วหละมึง...ถ้าจะบอกว่าผมไม่เสียใจ ก็คงจะเป็นการโกหกตัวเองเกินไป เพียงแต่ว่าภายใต้ความชอกช้ำใจครั้งนี้ มันได้บอกอะไรกับผมหลายต่อหลายอย่าง
ในส่วนของตัวงานภาพยนตร์ ผมคิดว่าผมมาถูกทางแล้ว เพราะเกือบทุกคนที่ดูคนโขน ต่างพากันชื่นชมในคุณค่าของงาน ในมุมมองที่ต่างๆกัน ตามแต่รสนิยมในการรับรู้ของแต่ละคน จะมีบ้างบางมุม ที่เห็นต่างกันไป หรือมีบางมุมที่ไม่ชอบ ขัดใจ เช่นชะตากรรมของตัวละครในตอนจบ ซึ่งผมถือว่านี่คือเสียงตอบรับที่ดี ที่ตัวหนังได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์
ไม่ใช่ตั้งใจชม หรือตั้งใจเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตา
นักข่าวอาวุโสหลายท่านต่างเขียนชมภาพยนตร์เรื่อง"คนโขน"นี้กันไม่น้อย ล่าสุดคอลัมน์ ซูม ในนสพ.ไทยรัฐฉบับเมื่อเช้านี้ (13กย.2554)ก็กล่าวชมยาวทั้งคอลัมน์ บนความเสียดายของคุณซูมที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ช้าไป
ในส่วนของกำลังใจจากพี่น้องพธม.นั้น ผมพูดอะไรไม่ออก น้ำตามากมายของผมหยดลงบนบันทึกก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คำว่าขอบคุณนับล้านคำ นับล้านครั้ง ก็ยังไม่เท่าน้ำใจไมตรีที่พี่น้องมอบให้กับหนังของผม
ผมได้รู้ว่า " เท่าที่ผมเป็น เท่าที่ผมมี "มันยังไม่เพียงพอที่จะให้ผมยืนหยัดอยู่ในอาชีพนี้ได้ ในระดับของโอกาส ที่เท่าเทียมกับคนอื่นในสังคม
ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่ท้อหรอกครับ ผมจะสู้ต่อไป ในอาชีพของผม ด้วยต้นทุนเท่าที่ผมมี
ผมยังหวังว่า สักวันหนึ่งคุณค่าของงานที่ได้สร้างไว้ในวันนี้คงจะมีโอกาสเข้าถึงการรับรู้ของผู้ชม ด้วยรูปแบบของสื่อที่ต่างกันออกไป เช่นจากแผ่น DVD ไม่ว่าจะเป็นแผ่นแท้หรือแผ่นผี หรือถูกฉายในช่องฟรีทีวี หรือแม้แต่ในวงสนทนาของผู้ที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมก็ดีใจแล้วครับ
วันพุธที่14กันยายน2554 ก็จะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขนนน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ผมไม่โทษโรงภาพยนตร์เลย ออกจะเห็นใจเขาด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังดีที่กระทรวงวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของงานที่เหมาะแก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ยังดีที่บ.ไทยประกันชีวิต และ ธอส. ก็เห็นคุณค่านี้ด้วย จึงเอื้อเฟื้อค่าใช้จ่ายในการเหมาโรงฉายให้นักเรียน หลากหลายโรงเรียนได้เข้าชมฟรี โดยแจ้งความจำนงมาที่กระทรวง ณ.วันนี้ มีรอคิวอยู่แล้วประมาณ20โรงเรียน เรียงกันไปจนถึงอาทิตย์หน้า
ฉะนั้ันหากพี่น้องท่านใด อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการสั่งลา ก็ทำได้ด้วยการรวมตัวกันประมาณ100คนขึ้นไป นัดหมายกันไปซื้อตั๋วดูรอบเดียวกัน โรงภาพยนตร์ก็จะเปิดรอบนั้นฉายให้เป็นกรณีพิเศษเป็นรอบๆไป ซึ่งพี่น้องสามารถเลือกโรงที่สะดวก เดินทางง่าย โรงใดก็ได้ แต่ต้องแจ้งมาที่ผมก่อน หรือจะผ่านทางASTVVมายังผมก็น่าจะได้
ผมจะได้ติดต่อเหมาโรงล่วงหน้าให้ในทันที
คิดเล่นๆอีกสักครั้ง ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมา เหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "
กราบคารวะน้ำใจของพี่น้องทุกท่านอีกสักครั้ง บนบทความว่าด้วยเรื่อง คนโขน ชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ เพราะรู้ว่า อ้อมแขนอันโอบอุ่นของพี่น้อง ยังคงประคองผมอยู่
จะมากจะน้อยแค่ไหน หากไม่ตาย ผมคงได้ทดแทนคุณครับผม
ศรัณยู
๑๓ กันยายน ๒๕๕๔
มันเป็นสัจธรรม กรรมเกิดจากการกระทำของตนเอง
......................
อืม..ก็ช่วยประคองกันไปอะนะ พี่น้องพันธมิตร
lucky m.- Hero gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010
ภาษี กู แม่งขอรึยังเอาไปสนับสนุน หนังมึง ไอ้ควายเหลือง เสื่อมตั้งแต่มึงคิดที่จะทำแล้ว คนเขากินข้าวว่ะ ไม่ได้แดกหญ้า เสื่อมจริงๆจนต้อง บังคับเด็กให้มาดู เวรจริงๆ
lucky m. พิมพ์ว่า:ตั้วพ้อพธม.เมินคนโขนรูดม่านวันนี้ ปิดฉากเทศกาลหนังเมืองคลานผลาญเงินภาษีสร้าง-บังคับเด็กดู
[img][/img]
วันที่ 14 กันยายนจะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมาเหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "-บันทึกของ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง,13 ก.ย.54
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
14 กันยายน 2554
ศรัณยูเขียนบันทึกปิดม่านคนโขนตัดพ้อพธม.ไม่ช่วยดู ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามสมน้ำหน้า
ตั้ว-ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ผู้สร้าง ผู้เขียนบท ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องคนโขนเขียนบันทึกในเฟซบุ๊คของเขาเมื่อ 13 กันยายน หัวข้อเรื่อง ปิดม่าน คนโขน" ปาฏิหารย์ไม่มีจริง ทุกสรรพสิ่งมีผลมาจากเหตุและปัจจัย " โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
จั่วหัวไว้อย่างนี้ พี่น้องคงพอเดาได้ ว่าเนื้อหาบรรทัดต่อๆไปของบทความนี้จะเคลื่อนตัวไปในแนวไหน
กว่าสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมทุ่มเททั้งชีวิตให้กับภารกิจทุกอย่างที่เจ้าของหนังคนหนึ่งพึงกระทำได้ นับตั้งแต่เปิดตัวประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่ามีหนังเรื่อง คนโขน รออยู่ในโรงฉาย
ชักชวน อ้อนวอนคนรู้จักมากมายให้พากันมาดูหนังเรื่องนี้ ผมแอบฝันเล็กๆว่า หากมีพี่น้องพันธมิตร ซึ่งไม่ต้องถึงกับทั้งหมดหรอกครับ เอาเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเท่าที่มี พร้อมใจกันมาดูหนังเรื่องนี้ รายได้ของหนังก็จะทะลุเกินเป้าที่นายทุนตั้งความหวังไว้แล้ว...นายทุนเองยังพลอยยิ้ม เห็นด้วยกับความฝันของผมเลย แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่!!!
ผมเพิ่งกลับจาก บ.สหมงคลฟีล์ม เพิ่งเปิดบัญชี ดูตัวเลขรายได้ทั้งหมดที่เก็บได้จนถึงรอบเมื่อกี้ ทุกคนตกใจ มันน้อยเกินว่าระดับต่ำสุดที่เราประเมินไว้เสียอีก...น้อยจริงๆครับ อย่าให้ผมบอกตัวเลขเลย ผู้ที่คอยลุ้นคอยให้กำลังใจผมตลอดมาจะพลอยหดหู่ใจกันเปล่าๆ แต่คนที่ีอยู่ฟากฝั่งตรงข้ามหากเห็นตัวเลขนี้เข้า ก็คงจะสมน้ำหน้า ว่าสมแล้วหละมึง...ถ้าจะบอกว่าผมไม่เสียใจ ก็คงจะเป็นการโกหกตัวเองเกินไป เพียงแต่ว่าภายใต้ความชอกช้ำใจครั้งนี้ มันได้บอกอะไรกับผมหลายต่อหลายอย่าง
ในส่วนของตัวงานภาพยนตร์ ผมคิดว่าผมมาถูกทางแล้ว เพราะเกือบทุกคนที่ดูคนโขน ต่างพากันชื่นชมในคุณค่าของงาน ในมุมมองที่ต่างๆกัน ตามแต่รสนิยมในการรับรู้ของแต่ละคน จะมีบ้างบางมุม ที่เห็นต่างกันไป หรือมีบางมุมที่ไม่ชอบ ขัดใจ เช่นชะตากรรมของตัวละครในตอนจบ ซึ่งผมถือว่านี่คือเสียงตอบรับที่ดี ที่ตัวหนังได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์
ไม่ใช่ตั้งใจชม หรือตั้งใจเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตา
นักข่าวอาวุโสหลายท่านต่างเขียนชมภาพยนตร์เรื่อง"คนโขน"นี้กันไม่น้อย ล่าสุดคอลัมน์ ซูม ในนสพ.ไทยรัฐฉบับเมื่อเช้านี้ (13กย.2554)ก็กล่าวชมยาวทั้งคอลัมน์ บนความเสียดายของคุณซูมที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ช้าไป
ในส่วนของกำลังใจจากพี่น้องพธม.นั้น ผมพูดอะไรไม่ออก น้ำตามากมายของผมหยดลงบนบันทึกก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คำว่าขอบคุณนับล้านคำ นับล้านครั้ง ก็ยังไม่เท่าน้ำใจไมตรีที่พี่น้องมอบให้กับหนังของผม
ผมได้รู้ว่า " เท่าที่ผมเป็น เท่าที่ผมมี "มันยังไม่เพียงพอที่จะให้ผมยืนหยัดอยู่ในอาชีพนี้ได้ ในระดับของโอกาส ที่เท่าเทียมกับคนอื่นในสังคม
ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่ท้อหรอกครับ ผมจะสู้ต่อไป ในอาชีพของผม ด้วยต้นทุนเท่าที่ผมมี
ผมยังหวังว่า สักวันหนึ่งคุณค่าของงานที่ได้สร้างไว้ในวันนี้คงจะมีโอกาสเข้าถึงการรับรู้ของผู้ชม ด้วยรูปแบบของสื่อที่ต่างกันออกไป เช่นจากแผ่น DVD ไม่ว่าจะเป็นแผ่นแท้หรือแผ่นผี หรือถูกฉายในช่องฟรีทีวี หรือแม้แต่ในวงสนทนาของผู้ที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมก็ดีใจแล้วครับ
วันพุธที่14กันยายน2554 ก็จะเป็นวันสุดท้าย ที่หนัง"คนโขน"จะได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไม่มีโรงไหนยอมฉายหนังเรื่องนี้ต่อไปหรอกครับ ในเมื่อแต่ละรอบมีคนดูไม่เกินหลักสิบ ผมไม่โทษโรงภาพยนตร์เลย ออกจะเห็นใจเขาด้วยซ้ำ
แต่ก็ยังดีที่กระทรวงวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของงานที่เหมาะแก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ยังดีที่บ.ไทยประกันชีวิต และ ธอส. ก็เห็นคุณค่านี้ด้วย จึงเอื้อเฟื้อค่าใช้จ่ายในการเหมาโรงฉายให้นักเรียน หลากหลายโรงเรียนได้เข้าชมฟรี โดยแจ้งความจำนงมาที่กระทรวง ณ.วันนี้ มีรอคิวอยู่แล้วประมาณ20โรงเรียน เรียงกันไปจนถึงอาทิตย์หน้า
ฉะนั้ันหากพี่น้องท่านใด อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการสั่งลา ก็ทำได้ด้วยการรวมตัวกันประมาณ100คนขึ้นไป นัดหมายกันไปซื้อตั๋วดูรอบเดียวกัน โรงภาพยนตร์ก็จะเปิดรอบนั้นฉายให้เป็นกรณีพิเศษเป็นรอบๆไป ซึ่งพี่น้องสามารถเลือกโรงที่สะดวก เดินทางง่าย โรงใดก็ได้ แต่ต้องแจ้งมาที่ผมก่อน หรือจะผ่านทางASTVมายังผมก็น่าจะได้
ผมจะได้ติดต่อเหมาโรงล่วงหน้าให้ในทันที
คิดเล่นๆอีกสักครั้ง ฝันเล่นๆอีกสักครา หากพี่น้องพธม. พร้อมใจ รวมตัวกันมา เหมาโรงเหมารอบดูกันเอง ไม่ต้องทั้งหมดของพธม.หรอกครับ เอาแค่ซักครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกเราที่มี วิกฤตของผมครั้งนี้ ก็จะพลิกฟื้น ต่อชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
อนิจจา..." ปาฎิหารย์คงไม่มีจริง เพราะทุกสรรพสิ่งล้วนมีผลมาจากเหตุ และ ปัจจัย "
กราบคารวะน้ำใจของพี่น้องทุกท่านอีกสักครั้ง บนบทความว่าด้วยเรื่อง คนโขน ชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ เพราะรู้ว่า อ้อมแขนอันโอบอุ่นของพี่น้อง ยังคงประคองผมอยู่
จะมากจะน้อยแค่ไหน หากไม่ตาย ผมคงได้ทดแทนคุณครับผม
ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
๑๓ กันยายน ๒๕๕๔
มันเป็นสัจธรรม กรรมเกิดจากการกระทำของตนเอง
......................
อืม..ก็ช่วยประคองกันไปอะนะ พี่น้องพันธมิตร
manok- Gen.seh member
- จำนวนข้อความ : 33
Join date : 29/08/2011
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ