GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

2 posters

Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 8:53 am

ป้าลัค...>>>ป้าโก้สทำการบ้านเสร็จแล้วเด้อ! ส่งการบ้านเสร็จป้าโก้สขอไปออกกำลังกายก่อนจ้าาา555

วันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 10:30:59 น. มติชนออนไลน์
ส่งเทปเซ็กส์ลับในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา โยงคดีสินบนผู้พิพากษาอุทธรณ์ เผยเสียงหญิงบอก"ผัวขาใจเย็นๆ"

กรณีมีการทำหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.)กล่าว โทษผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายหนึ่งว่า มีพฤติการณ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงที่มีสามีและยังอาศัยหญิงรายดังกล่าว(คน สนิท)เป็นตัวแทน (นอมินี) ในการเรียกรับสินบนในการตัดสินพิพากษาคดีต่างๆหลายคดีเป็นเงินรวมแล้วกว่า 70 ล้านบาทจน ก.ต.ได้มีคำสั่งพักราชการตามที่"มติชนออนไลน์"รายงานข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุผลที่ ก.ต.มีคำสั่งพักราชการผู้พิพากษาเนื่องจากเห็นว่า ผู้ร้องมีตัวตนและมีพยานหลักฐานจำนวนมากในจำนวนนี้มีหลักฐาน แผ่น DVD บันทึกภาพและหลักฐานเทปบันทึกเสียงที่แสดงออกถึงพฤติกรรมด้านชู้สาวของ ผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนสนิทซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเข้าไปใน โรงแรม เหตุการณ์ระหว่างอยู่โรงแรม และเหตุการณ์อยู่ในรถยนต์หลังออกจากโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาช่วงหนึ่งอ้างว่าเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งในลักษณะกำลังมีความต้องการทางเพศ ในขณะที่ฝ่ายหญิงบอก "ผัวขาใจเย็นๆ" ส่วนเหตุการณ์หลังจากออกจากโรงแรม เป็นเสียงของฝ่ายหนึ่งสั่งให้ฝ่ายหนึ่งเปิดซีดีธรรมมะฟังขณะอยู่ในรถยนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากหลักฐานดังกล่าว ในหนังสือร้องเรียนที่ผู้ร้องทำถึงประธานศาลฎีกา บรรยยายว่า นาง น. ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นผู้หญิงคนสนิทผู้พิพากษา มีพฤติกรรมออกไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้พิพากษาศาลอุทธณ์ผู้ถูกล่าวหาเป็นประจำ โดยนาง น.โดยให้ให้ผู้ร้องซื้อถุงยางอนามัยที่ร้านขายยาที่ห้างแห่งหนึ่งในย่านถนน ราชพฤกษ์ และบอกให้ซื้อขนาดใหญ่พิเศษ

ญาติผู้ร้องคนหนึ่งเปิดเผยว่า ความเป็นจริงเรื่องนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องในการร้องเรียนล้วนแต่เป็นเครือ ญาติกัน และผู้ร้องเคยเป็นเลขาส่วนตัวของ นาง น.ซึ่งเป็นภรรยาของ นายพ. เจ้าของธุรกิจอู่ติดตั้งแก๊สในรถยนต์ ด้วยความรักภรรยา สามีจึงเปิดอู่ให้เป็นรายได้ภรรยา มอบทุกอย่างให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการดูแลทรัพย์สินที่ได้มา แม้แต่จะให้เงินบิดาตัวเองก็ให้ภรรยาเป็นผู้ให้ เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้เลขาส่วนตัวของ นาง น.ซึ่งเป็นผู้ร้องและเป็นญาติกันทนรับพฤติกรรมของเจ้านายตัวเองไม่ได้ พยายามบอกให้เลิกแต่กลับถูกต่อว่าอย่างเสียหาย

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1283778422&grpid=10&catid=17

No No No Embarassed Embarassed Embarassed pale pale pale scratch scratch scratch


แก้ไขล่าสุดโดย goosehhardcore เมื่อ Sat Jan 08, 2011 12:56 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty เบื้องหลังคดีสินบนผู้พิพากษาอุทธรณ์

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 8:57 am

วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21:40:14 น. มติชนออนไลน์

เบื้องหลังคดีสินบนผู้พิพากษาอุทธรณ์ โดย ประสงค์ วิสุทธิ์

ติดตามข่าว"ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์"รายหนึ่งเรียกสิบบนในการพิจารณาพิพากษาคดีต่างๆหลายคดีใน"มติชนออนไลน์"ที่ นำเสนอย่างต่อเนื่องมาเกือบ10 ตอนแล้ว เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การกระทำผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรมของผู้พิพากษารายหนึ่ง ธรรมดาเท่านั้น

แต่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และมีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวพันในขบวนการนี้มากพอสมควร

จากการร้องเรียนต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.)และแต่งตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงจนกระทั่งนำไปสู่การแต่งตั้งคณะกรรมการ สอบสวนทางวินัยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายนี้พบว่า มีพฤติการณ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงที่มีสามีแล้ว และยังอาศัยหญิงรายนี้เป็นตัวกลางในการเรียกร้องสินบนใในคดีต่างๆหลายคดี เป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท อาทิ

1. มีการเรียกสินบนเป็นเงิน 70 ล้านบาทใน การพิจารณาคดีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งที่กลุ่มผู้บริหาร บริษัท ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในการยักยอกทรัพย์หรือไซ่ฟ่อนเงินของ บริษัทและเกี่ยวพันกับตระกูลอดีตรัฐมนตรี ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งยกฟ้อง

ในคดีนี้ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายดังกล่าวให้ใช้หญิงคนสนิทไปติดต่อเรียกรับเงินสิบบน 70 ล้านบาทจากคนในตระกูลอดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัท เพื่อจะได้ตัดสินให้ยกฟ้องคดีนี้ ตามศาลชั้นต้น

ในเบื้องต้นมีการจ่ายเงินสด 20 ล้านบาท ที่เหลือโอนหุ้นบริษัทผลิตอาหารกระป๋องให้มีมูลค่าอีก 50 ล้านบาท

2.คดีการประกันตัว เจ้าของบริษัทที่เปิดขึ้นบังหน้าเป็นจำเลยในคดี"แชร์ข้าวสาร"ซึ่ง เป็นความตาม พ.ร.บ. การกู้เงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน มีการเรียกเงินสินบน 2 ล้านบาท หลังจากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจำเลยได้ซื้อรถยนต์ Benz รุ่น S 280 ปี 2002 ในราคา2.1 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1.5 ล้านบาทบาท จัดไฟแนนซ์ให้อีกด้วย

3.เรียกสินบน 3.5 ล้านบาทในการสั่งอนุญาตการปล่อยชั่วคราวชาวต่างประเทศรายหนึ่ง โดย ทนายความหญิงของจำเลยได้ยื่นคำร้องประกอบการขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลอาญาและ ศาลอุทธรณ์มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้รับการอนุญาต ทนายความจึงติดต่อผ่านหญิงคนสนิท ตกลงเรื่องเงินสินบน 3.5 ล้านบาท

มีการทำเป็นสัญญาว่าจ้างว่าจะดำเนินการให้มีการประกันตัวระหว่างญาติ ของหญิงคนสนิทกับทนายความของจำเลยชาวต่างประเทศ โดยทนายความหญิงกับญาติของหญิงคนสนิทของผู้พิพากษา นำเงินตามข้อตกลงดังกล่าวไปเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกัน หมายเลขบัญชี 157-217895-3 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2552 เป็นเงินจำนวน 3.5 ล้านบาท

ต่อมายังทำสัญญาว่าในการในการจัดหาทนายเป็นเงิน 9.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 และชำระเงินให้หญิงคนสนิท ไปแล้ว 4 ล้านบาท คงเหลืออีก 5.2 ล้านบาท

4. เรียกรับเงินวิ่งเต้นให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 7 ล้านบาท โดยใช้หลักฐานใบรับรองแพทย์ปลอมจากโรงพยาบาลราชฑัณฑ์ว่าผู้ต้องหามีอาการ ป่วยหนักจนถึงขั้นจะต้องได้รับการรักษาผ่าตัดดวงตา นำไปอ้างต่อชั้นศาลฎีกาจนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

จากคำร้องเรียนยังมีอีกหลายคดีที่มีการวิ่งเต้นจนได้รับการประกันตัว รวมถึงมีการใช้อิทธิพลจนผู้พิพากษารายหนึ่งในศาลจังหวัดตลิ่งชันพลิกคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราวชั่วข้ามคืน

จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ก.ต.จึงไม่ควรแค่สอบวินัยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายนี้เท่านั้น แต่ ควรดำเนินคดีอาญาควบคู่กันไปด้วย(อาจส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปรราบปราม การทุจริตแห่งชาติหรือตำรวจแล้วแต่กรณี)เพราะจากหลักฐานเบื้องต้นแล้ว บางคดีมีมูลเพียงพออยู่แล้ว เช่น คดีการให้ประกันตัวชาวต่างประเทศมีการทำสัญญาประหลาดๆและบัญชีธนาคารซึ่ง เป็นหลักฐานอย่างดี รวมทั้งการปลอมแปลงใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ที่ยื่นต่อศาลฎีกา อันเป็นความผิดหลายกระทง

นอกจากนั้นแล้ว ทาาง ก.ต.ควรตรวจสอบย้อนหลังว่า มีคดีใดบ้างที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายนี้เป็นผู้ตัดสินหรือมีคำสั่ง เพื่อดูว่า การพิจารณาคดีเป็นไปโดยชอบหรือไม่ ตั้งแต่กระบวนการจ่ายคดีให้พิจารณา กระบวนการพิจารณา จนกระทั่งคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นไปตามตัวบทกฎหมายหรือดุลพินิจโดยชอบหรือ ไม่

การตรวจสอบคดีย้อนหลังมีวัตถุประสงค์2 ประการสำคัญคือ

หนึ่ง เพื่อดูว่า มีคนในกระบวนการยุติธรรมรายใด มีส่วนพัวพันในการกระทำผิดหรือไม่

สอง เพื่อเยียวยาผู้ที่อาจได้รับความเสียหายจากการตัดสินคดีที่ไม่เป็นไปโดยชอบและไม่เป็นธรรม


ที่สำคัญคือ หลังจากกระบวนการสอบสวนเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ต้องเปิดเผยผลสอบสวนดังกล่าวเหมือนการเปิดเผยคำพิพากษาเพื่อให้สาธารณะเห็น ว่า การสอบสวนเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาซึ่งเป็นการดำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของ ระบบศาลยุติธรรม silent silent silent scratch scratch scratch


แก้ไขล่าสุดโดย goosehhardcore เมื่อ Sat Sep 11, 2010 9:13 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 9:01 am

วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 12:41:20 น. มติชนออนไลน์

คดีสินบนผู้พิพากษาเอกสารสัญญามัด"หญิงคนสนิท"กับพวกวิ่งล้ม3คดี "ฝรั่งอัดถั่วดำเด็ก"เรียก12.7ล้าน

"มติชนออนไลน์" เปิด เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีสินบนผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์อีกชิ้นซึ่งผู้ร้องยื่น เรื่องถึงประธานศาลฎีกากล่าวหาผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายหนึ่งและผู้หญิงคน สนิท ร่วมกันเรียกรับสินบนจากการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาชาวต่างประเทศรายหนึ่งใน คดีอนาจารเด็กชายชาวไทย จำนวน 3 คดี

โดยที่ผู้ต้องหาชาวต่างประเทศรายดังกล่าวยื่นประกันตัวหลายครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาต นางสาว จ.ทนายความของผู้ต้องหา ได้ติดต่อกับ นางสาว น. ผู้หญิงคนสนิทผู้พิพากษา เพื่อวิ่งเต้นประกันตัว ในวงเงิน 3,500,000 บาท โดยให้ นาย น.ญาติสนิทของ นางสาว น. ทำสัญญากับนางสาว จ. ทนายความ ร่วมกันเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกัน หมายเลขบัญชี 157-217895-3 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2552 เป็นเงินจำนวน 3,500,000 บาท

ต่อมาปลายเดือน 30 กันยายน 2552 ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยชาวต่างประเทศตามข้อตกลง

วันที่ 3 ตุลาคม 2552 หญิงคนสนิทของผู้พิพากษาศาลได้สั่งให้ นางสาว จ. และ นาย น. ญาติของตนเอง ไปเบิกเงินจากบัญชีดังกล่าวจำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) เพื่อเป็นรางวัล ค่าตอบแทนให้นาย น.เนื่องในวันเกิด

หลังจากช่วยให้ประกันตัวสำเร็จ จำเลยชาวต่างประเทศเกิดความเชื่อถือหญิงคนสนิทของผู้พิพากษาว่า จะสามารถช่วยให้ชนะคดีได้ จึงตกลงทำสัญญาว่าจ้างให้หญิงคนสนิท ช่วยเป็นเงิน 9,200,000 บาท เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 และได้ชำระเงินให้หญิงคนสนิท ไปแล้ว 4,000,000 บาท คงเหลืออีก 5,200,000 บาท

เอกสารบันทึกข้อตกลงระหว่างทั้งสองมีเนื้อหาดังนี้

(มีต่อ)
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 9:03 am

เอกสารฉบับแรก

บันทึกข้อตกลงทำที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว วันที่ 14 เดือนกันยายน 2552

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง นางสาว จ. อายุ 32 ปี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 3-3114-00031-....อยู่บ้านเลขที่ 20/.... หมู่ที่ 10 ถนนพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต่อไปนี้ในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้เรียกว่า"ผู้ให้สัญญา"ฝ่ายหนึ่ง กับ นาย น. อายุ 28 ปี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 3-4210-00259 .... อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 9 ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย โทรศัพท์ 02 44850.. ,082 34156.. ต่อไปในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้เรียกว่า "ผู้รับสัญญา"อีกฝ่ายหนึ่ง

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำบันทึกข้อตกลงกัน ดังมีข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1.) คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายรับว่า เงินจำนวน 3,500,000 บาท (สามล้านห้าแสนบาทถ้วน) เป็นของ MR.K... สัญชาติสวีเดน ซึ่งโอนมาให้กับผู้ให้สัญญานำมาเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการยื่นเรื่องประกันตัว MR.K...ซึ่ง เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.2563/2552 , อ.2668/2552 และ อ.2669/2552 ศาลอาญาจำนวน 3 คดี โดยในวันที่ ทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ ผู้ ให้สัญญาได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาเปิดบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 157-217895-3 และให้ใส่ชื่อของผู้รับสัญญาเป็นเจ้าของบัญชีร่วมกันกับผู้ให้สัญญา โดยให้มีเงื่อนไขให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีอำนาจร่วมกันในการเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าว

ข้อ 2.) หากผู้รับสัญญาสามารถดำเนินการยื่นเรื่องประกันตัว MR.K... ได้สำเร็จทั้ง 3 คดี โดยศาลได้โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว MR.K... ผู้ให้สัญญาตกลงยินยอมจะไปดำเนินการร่วมลงลายมือชื่อเบิกถอนเงินจำนวน 3,500,000 บาท (สามล้านห้าแสนบาทถ้วน) ให้แก่ผู้รับสัญญาในทันที หลังจากที่ทราบคำสั่งศาลแล้ว และมีหมายปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น

ข้อ 3.) หากผู้รับสัญญาได้ดำเนินการยื่นเรื่องประกันตัว MR.K... แล้วแต่ไม่สำเร็จ ทั้ง 3 คดีโดยศาลได้โปรดมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว MR.K... ผู้รับสัญญาตกลงยินยอมจะไปดำเนินการร่วมลงลายมือชื่อเบิกถอนเงินจำนวน 3,500,000 บาท (สามล้านห้าแสนบาทถ้วน) คืนให้แก่ผู้ให้สัญญาในทันที หลังจากที่ทราบคำสั่งศาลแล้ว

ข้อ 4.) คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมตามข้อ 1.) ถึง ข้อ 3.) ไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดต่อกันอีก และหากคู่สัญญาฝ่ายใดปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นเหตุให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ทันที สามารถคิดดอกเบี้ยในกรณีที่ผิดนัดไม่ยอมมาเบิกถอนได้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง และหากมีค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง คู่สัญญาฝ่ายที่ประพฤติปฏิบัติผิดสัญญาต้องรับผิดชอบด้วย

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านแล้วเห้นว่าถูกต้องตรงตามเจตนา จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเพื่อเป็นหลักฐานและต่าง ยึดไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ นางสาว จ. ผู้ให้สัญญา

ลงชื่อ นาย น. ผู้รับสัญญา

ลงชื่อ นาย ว. พยาน

ลงชื่อ นาย ธ.พยาน

(มีต่อ)
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 9:03 am

เอกสารฉบับที่สอง

บันทึกข้อตกลง ทำที่ 65/48 หมู่ 4 ต.ฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่ง ชัน กรุงเทพฯ 10170

วันที่ 16 เดือนตุลาคม 2552

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง นางสาว น. อายุ 39 ปี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 3-4210-00257-.... อยู่บ้านเลขที่ 77/...หมู่ที่ 1 ต.ท่ามะกา อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งต่อไปในบันทึกข้อตกลงฉบับนนี้เรียกว่า "ผู้รับจ้าง" ฝ่ายหนึ่ง กับ MR.K... อายุ 60 ปี ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 52840530 สัญชาติสวีดิช อยู่บ้านเลขที่ 404/118 หมู่ที่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งต่อไปในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้เรียกว่า "ผู้ว่าจ้าง" อีกฝ่ายหนึ่ง

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำบันทึกข้อตกลงกัน ดังมีข้อความต่อไปนี้

ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงว่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างจัดหาทนายความเพื่อเป็นทนาย ความว่าความต่อสู้คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2563-2552 , อ. 2668/2552 และ อ. 2669/2552 ของศาลอาญา จำนวน 3 คดี เฉพาะในสาสลชั้นต้น โดยให้มีอำนาจตามใบแต่งทนายความทุกประการ โดยผู้รับจ้างสัญญาว่าคดีความทั้งสามคดี จะต้องให้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยผู้ว่าจ้างต้องชนะคดีเท่าานั้น ผู้ว่าจ้างจึงจะตกลงชำระเงิน ค่าว่าจ้างตามเขื่อนไข ตามข้อ 2. และ ข้อ 3.

ข้อ 2. คู่สัญญาทั้สองฝ่ายตกลงค่าจ้างว่าความกัน เป็่นเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,200,000 บาท ( เก้าล่านสองแสนบาทถ้วน) โดยในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้ว่าจ้างได้ชำระเงินในงวดแรกเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) โดยจ่ายเป็นดร๊าฟของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาเมืองพัทยา ดร๊าฟเลขที่ 0012095 ระบุชื่อ นางสาว น. เป็นผู้รับเงิน จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ซึ่งผู้รับจ้างได้รับดร๊าฟดังกล่าวไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว

ข้อ 3. ส่วนค่าว่าจ้างส่วนที่เหลืออยู่อีก จำนวน 8,200,000 บาท (แปดล้านสองแสนบาทถ้วน) คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงผ่อนชำระตามเงื่อนไขต่อไปนี้

3.1 ชำระภายในวันที่ 31 เดือน ตุลาคม 2552 จำนวน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน) ชำระภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2552 จำนวน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาทถ้วน)

3.3 ชำระเมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำ พิพากษาครบทั้งสามคดี โดยมีคำพิพากษาย่ำคฟ้องทุกข้อกล่าวหา และให้ผู้ว่าจ้างเป็นฝ่ายชนะคดีทั้งสามคดี ผู้ว่าจ้างตกลงยินยอมจะชำระเงินให้อีกจำนวน 5,200,000 บาท (ห้าล้านสองแสนบาทถ้วน) โดยเงินจำนวนดังกล่าว ผู้ว่าจ้างตกลงนำไปเปิดบัญชีร่วมกันกับผู้รับจ้างไว้ที่ ธนาคารไทย พาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นบัญชีออมทรัพย์เลขที่ ภายในวันที่ เดือน พ.ศ. โดยให้มีเงื่อนไขว่าใหคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีอำนาจร่วมกันในการเบิกถอนเงิน จำนวนดังกล่าวได้

ข้อ 4. หากผู้รับจ้างสามารถว่าความ และดำเนินการให้ผู้ว่าจ้างชนะคดีทั้งสามคดีได้ โดยศาลมีคำสั่งยกคำฟ้องทุกข้อหาทั้งสามคดี ผู้ว่าจ้างตกลงยินยอมจะไปดำเนินการร่วมลงลายมือชื่อเบิกถอนเงินในข้อ 3.3 ให้แก่ผู้รับจ้างในทันที หลังจากที่ผู้ว่าจ้างได้ทราบคำพิพากษาทั้งสามคดีแล้ว และภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายไม่มีการอุทธรณ์คดีทั้ง 3 คดี

ข้อ 5. หากผู้รับจ้างไม่สามารถว่าความ หรือดำเนินการให้ผู้ว่าจ้างชนะคดีทั้งสามคดีได้ ผู้รับจ้างตกลงยินยอมจะไปดำเนินการร่วมลงลายมือชื่อเบิกถอนเงินในข้อ 3.3 คืนให้แก่ผู้ให้สัญญาในทันที หลังจากที่ทราบคำพิพากษาศาลแล้ว

และผู้รับจ้างตกลงยินยอมคืนเงิน จำนวน 4,000,000 บาท (สี่ล้านบาทถ้วน) ที่ผู้ว่าจ้างได้ชำระให้แก่ผู้รับจ้างใน ข้อ 2. และ ข้อ 3.1 คืนให้แก่ผู้ว่าจ้าง หรือผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าจ้างในทันที

ข้อ 6. คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอม ข้อ 1. ถึง ข้อ 5. ไม่ติดใจเรียกร้องสิ่งใดต่อกันอีก และหากคู่สัญญาฝ่ายใดไม่ปฎิบัติตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นเหตุให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับความเสียหายสามารถฟ้องร้องดำเนินตดีได้ทันที และสามารถคิดดอกเบี้ยในกรณีที่ผิดนัดไม่ยอมมาเบิกถอนเงินได้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา และหากมีค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้อง คู่สัญญาฝ่ายที่ประพฤติปฎิบัติผิดสัญญาจะต้องรับผิดชอบด้วย

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความต้องตรงกัน คู่สัญยาทั้งสองฝ่ายได้อ่านแล้วเห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนา จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเพื่อเป็นหลักฐาน และต่างยึดไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ นางสาว น. ผู้ให้สัญญา

ลงชื่อ MR.K.. ผู้รับสัญญา

ลงชื่อ นางสาว จ.พยาน

ทั้งนี้เมื่อช่วงคำวันที่ "มติชนออนไลน์"ได้ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของ นาย น.ญาติสนิทของนางสาว น. ตามที่ระบุในบันทึกข้อตกลงฉบับแรก แต่ไม่สามารถติดต่อได้
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 9:09 am

วันที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 18:00:57 น. มติชนออนไลน์

เอกสารลับถึงประธานศาลฎีกา ผู้ร้องคดีสินบนผู้พิพากษาผวาตาย เล่าเบื้องหลังละเอียดยิบถูกข่มขู่หนัก

หนังสือร้องเรียนที่ผู้ร้องเรียนส่งถึงประธานศาลฎีกาและอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 1 มิใช่ร้องเรียนพฤติกรรมการเรียกรับสินบนของผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายหนึ่ง คนใกล้ชิด และบริวารเท่านั้น หากยังระบุว่าถูกข่มขู่คุกคามจากผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รายนี้และผู้หญิงคน ใกล้ชิดอีกด้วย
"มติชนออนไลน์"เรียบเรียงมานำเสนอดังนี้

หนังสือร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า หลังจากผู้ร้อง และ นาย พ. สามีของนางสาว น. ได้ติดตามพฤติกรรมของ นางสาว น. จนทราบว่า ภรรยาเป็นชู้กับผู้พิพากษาจริง ซึ่งนางสาว น.ภรรยาก็ยอมรับ และยังร่วมกันเรียกและรับสินบน คนทั้งสองได้ร่วมกันข่มขู่ว่าจะเอาชีวิต ผู้ร้อง นาย พ. และ ลูกน้องที่ทราบเรื่อง เป้าหมายเพื่อต้องการที่ให้ นาย พ.ซึ่งเป็นเจ้าของอู่รถยนต์ หย่าขาดจากภรรยา รวมทั้งไม่ให้ผู้ร้องเป็นพยานให้ นาย พ.สามี และไม่กล้าร้องเรียน เอาผิดกับผู้พิพากษาจน เป็นเหตุให้ นาย พ.เจ้าของอู่และลูกน้องต้องหลบหนี ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ต่อมา นางสาว น.ทราบว่าผู้ร้องมีเอกสารการเรียกและรับสินบนในคดีต่างๆ ของนางสาว น.และผู้พิพากษา ทำให้ผู้พิพากษารายนี้และนางสาว น.โกรธแค้นอย่างหนัก ได้แสดงอิทธิพลข่มขู่จะเอาชีวิต นาย พ. และผู้ร้อง และข่มขู่ผ่านแม่ของลูกน้อง จน เป็นเหตุบีบคั้นให้เกิดการตัดสินใจร้องเรียนต่อประธานศาลฎีกา จนทำให้ ผู้พิพากษารายนี้ใช้วิธีข่มขู่บีบคั้นด้วยวิธีต่างๆ เมื่อไม่ได้ผลก็ใช้วิธีประกาศปิดกิจการอู่รถยนต์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของผู้ร้อง และ นาย พ.และนาย ธ.ซึ่ง เป็นหุ้นส่วนกับนาย พ.เพื่อบีบให้นาย พ.ออกมาเจรจา ทำให้นาย พ.และผู้ร้องได้ยื่นฟ้อง นางสาว น. กับพวก รวม 9 คน ซึ่งเป็นคดีแพ่งของศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉิน

และศาลจังหวัดตลิ่งชันได้ไต่สวนแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่ เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลนำหมายคุ้มครองชั่วคราวไปส่ง นางสาว น.หญิงคนสนิทผู้พิพากษา ปรากฎว่านางสาว น. ไม่ยอมให้ผู้ร้อง และนาย ธ.เข้าไปในร้าน และอาละวาด เจ้าหน้าที่ศาลพยายามบอกว่าเป็นคำสั่งศาลแต่ นางสาว น.ไม่ยอมฟัง ผู้ร้องได้โทรศัพท์ไปหาผู้พิพากษารายนี้ แต่ผู้พิพากษารายนี้กลับบอกว่า นางสาว น.ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล เพราะวันจันทร์ศาลก็จะเพิกถอนคำสั่ง และขอให้ นายพ.รีบมาเจรจากับผู้พิพากษารายนี้และให้ไปถอนคำร้องเรียนโดยเร็ว

หนังสือร้องเรียนระบุด้วยว่า ผู้ร้องเชื่อว่าแม้ผู้พิพากษารายนี้มีอิทธิพลมากเพียงใด แต่กำลังถูกตั้งกรรมการสอบในเรื่องความประพฤติ ไม่น่าจะติดต่อผู้พิพากษาคนใดได้ แต่ปรากฎว่าวัน จันทร์ที่ 5 เมษายน 2553 นางสาว น. ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อเวลา 14.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์พิจารณาเวลา 15.30 น. ผู้ร้องนำคำร้องขอเลื่อนคดีเพื่อใช้สิทธิคัดค้านไปยื่นในห้องพิจารณาเวลา 15.45 น. ศาลบอกว่ามีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้ว หลังจากนั้นจึงลงเวลาในคำร้องดังกล่าวว่า 16.15 น.

หนังสือร้องเรียนระบุว่า ผู้ร้องไม่รู้กฎหมาย ได้แต่ไตร่ตรองและสอบถามทนายความหลายคน ได้รับคำตอบว่ากระบวนการเรื่้องเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวครั้งนี้ผิด ปกติ?

หนังสือร้องเรียนได้ระบุในตอนท้ายว่า

1.ได้ยื่นคำฟ้องพร้อมคำร้องตั้งแต่เช้า ผู้ พิพากษาเรียกเข้าห้องพิจารณารายละเอียดประมาณเที่ยงวันและไต่สวนพยานตอนบ่าย แล้วนัดคำสั่งวันรุ่งขึ้นเวลา 10.00 น.โดยบอกว่ามีเอกสารจำนวนมากจำเป็นต้องพิจารณาโดยละเอียด แต่การที่ศาลจะสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลได้มีคำสั่งไว้แล้ว น่าจะพิจารณาโดยทั้งเอกสารของผู้ร้องและผู้ถูก

ร้องเช่นกันใช่หรือไม่ และเหตุใดจึงใช้เวลาพิจารณาไม่ถึง 20 นาที

2. การที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายคัดค้านและยังไม่ ให้พยานเบิกความ หรือแสดงพยานหลักฐาน เพื่อจะได้มีความรับผิดในทางอาญา เพียงแต่สอบถามให้จำเลยที่ 1 ยืนยันตามคำร้องเท่านั้น ไม่สอบถามด้วยว่า จำเลยที่ 1 ได้รู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นั้น ถูกร้องเรียนเรื่องชู้สาวกับจำเลยที่ 1 เกี่ยวกับ

การเรียกรับสินบนเพื่อประกันตัวผู้ต้องหาชาวต่างประเทศ ตามโจทก์ที่ 2 เบิกความจริงหรือไม่ โดยไม่ให้พยานเบิกความ เป็นกระบวนการพิจารณาที่ศาลทั่วไปกระทำโดยปกติ หรือไม่

3. การที่ศาลไม่เรียกเจ้าหน้าที่ผู้ส่งหมาย ห้ามชั่วคราวให้จำเลยทั้ง 9 มาสอบถาม ซึ่งจะทำให้ทราบว่า จำเลยทั้งเก้าไม่ย่อมปฎิบัติตามหมายศาลเลย จึงไม่มีเหตุที่จำเลยทั้งเก้าจะเสียหายจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว จนศาลต้องรีบมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยด่วน เป็นกระบวนพิจารณาที่ศาลทั่วไปกระทำโดยปกติ หรือไม่
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Sat Sep 11, 2010 11:56 am

โอ้โฮ.. ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณป้าขา(ทั้งสองข้าง)ข่าวแบบลับล้วงพรางแบบนี้ป้าลัคช๊อบชอบ แต่..ขอโทษน่ะค่ะที่ไม่หาข่าวเอง เพราะไม่รู้ว่า จะไปเจาะเอาตรงไหน และอีกอย่าง ไม่ได้สนใจข่าวจากหลายสำนักนานแล้ว ก็เลยตกข่าวไป เดี๋ยวขอเรียบเรียงข่าวก่อนน่ะค่ะ คงจะต้องเอาตั้งแต่ต้นเลยนั่นแหละ ขอบคุณค่ะ (ใจเย็นๆป้าขา)ฮะฮะฮะ
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Sep 11, 2010 9:43 pm

ป้าลัคชอบก็ดีใจนะ แต่ว่าใจเย็นๆ..คำนี้คุ้นๆนะ 555สยองกิ้วเลย ไม่ต้องใช้ก็ด้ายจ้ะ ป้าโก้สยินดีรับใช้ซำเหมอ I love you cheers cherry santa rendeer cat
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...  Empty Re: ส่งเทป...ในโรงแรมให้ปธ.ศาลฎีกา ...

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Mon Sep 13, 2010 11:54 am

ชอบซิค่ะคุณป้าโกสท์ แหมหรือว่าป้าโกสท์ไม่ชอบล่ะ ถ้าไม่ชอบก็ส่งการ์ตูนปังย่ามาคืนให้หมดซ่ะดีๆฮะฮะ Laughing Laughing เดี๋ยววันหลังถ้าป้าลัคตีการบ้านไม่แตกป้าลัคจะส่งการบ้านให้คุณป้าทำอีกน่ะค่ะ Laughing Laughing ติดใจในผลงานค่ะ
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ