GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

2 posters

Go down

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Empty ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Fri Jul 15, 2011 9:22 pm

อยู่กระทู้เดิมนู๊นนน ค่ะ
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Empty Re: ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Fri Jul 15, 2011 10:29 pm

เปลี่ยนตอนให้แล้ว.. >> http://goosehhardcore.forums2u.com/t732p30-topic
อยากบอกปูเป้กับแมวจังเลย
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Empty Re: ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Sat Jul 16, 2011 7:25 pm

ขอบคุณค่ะ แล้วลบกระทู้ละ ทำไงอะป้า ลบให้หน่อยซิค่ะ

-----------------------

ไม่ต้องลบหรอก ยังงี้ดีแล้ว.. เลยทำเป็นกระทู้ลิเก(ภาค 4) ต่อจากอันเดิม(ภาค 1-3)ที่Hi s
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Empty Re: ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Jul 16, 2011 7:48 pm

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4)

คาดว่าข่าวตอนนี้ ที่กำลังดังอยู่ทั่วโลก ยกเว้นตอแหลแลนด์ (เพราะสื่อไหนกล้าลงข่าวนี้ในตอแหลแลนด์ก็เตรียมตัวไปทัวร์ ค้างคืน รวมที่พักและอาหาร 15 ปี กับอีก 14 ปี 364 คืน ที่ฮ่องกรง หรือ คุกกี้ กันยกโรงพิมพ์ได้เลย) คือข่าวว่าทางการเยอรมันนีสิขา ได้สั่งยึดเครื่องบินประจำตัว ของ เอดส์ หลังจาก เอดส์ ใช้เครื่องบินลำนี้ ลงจอดที่สนามบินที่เยอรมนีสิขา เพื่อเข้ารับการถ่ายเลือดลม ที่เอดส์วิลล่า ณ มิวปิกนิก (รายละเอียดเชิญอ่าน ลิเก สตอรี่ ตอน 3)

การยึดเครื่องบินลำนี้ จะทำให้เอดส์โกรธขนาดไหน อันนี้ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ถ้าอีก 2-3 เดือน มีคำสั่งปลดใครในกองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ก็น่าจะ ซ.ต.พ. กันได้นะว่าคำสั่งใคร แต่เราอย่าไปสนใจแค่อารมณ์แปรปรวนของคนโรคจิตติดเอดส์คนเดียวเลย เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

เมื่อ 20 กว่าปีก่อน รัฐบาลตอแหลแลนด์ เปิดประมูลสร้างทางด่วนมาก ดอนไม่เมืองโทลล์เวย์ เพื่อใช้สำหรับเดินทางไปยัง สนามบินดอนไม่เมือง ท่าอากาศยานประจำเมืองกรุงลิเก เมืองหลวงแห่ง ราชลิเกอาณาจักรตอแหลแลนด์ (Li-Kay King State of Torlaeland) ก็ได้เรียกบริษัท Dywidag มาสร้างทางด่วนให้ แต่ว่าก็จ่ายเงินให้ไม่ครบ ขาดไป เทียบเป็นเงินมูลค่า 30 ล้าน ยูโรทู ทวงเท่าไหร่ก็ไม่จ่าย จะไม่จ่ายด้วยเหตุผลอะไร ก็ไม่มีใครรู้ได้

บริษัท Dywidag ก็พยายามทวงหนี้อยู่เรื่อยๆ แต่รัฐบาลตอแหลแลนด์คณะใหม่มา ก็คงเห็นว่า เรื่องอะไรตูจะต้องไปใช้หนี้ที่พวกตูไม่ได้ก่อ ก็เลยทำไม่รู้ไม่ชี้ตลอดมา จนถึงปี 2001 บริษัท Dywidag ก็ขายธุรกิจให้บริษัท Walter Bau ซึ่งไม่นานมานี้ บริษัท Walter Bau ก็เจ๊งบ๊ง ขนาดเอาเจ้าของบริษัทไปขายให้บาร์เกย์ เพื่อขายถั่วดำใช้หนี้แล้ว ก็ยังมีหนี้อีกมากมาย ไม่พอจะไปจ่ายให้เจ้าหนี้

ฉนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (liquidator) จึงมาดูในบัญชีว่าบริษัทนี้มีลูกหนี้ที่ยังค้างเงินไม่จ่ายอยู่รึเปล่า เผื่อจะได้ตามไปทวง จะได้มีเงินจ่ายเจ้าหนี้ ก็เลยเจอว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังติดเงินบริษัท Dywidag (ซึ่งภายหลัง Walter Bau ซื้อกิจการไป ฉนั้นหนี้ของ Dywidag ก็น่าจะกลายเป็นของ Walter Bau ถ้าตอนขายกิจการมีการตกลงเรื่องนี้เอาไว้) อยู่ 30 ล้านยูโรทู จึงทวงรัฐบาลตอแหลแลนด์ให้จ่ายคืนมา ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลตอแหลแลนด์ ย่อมต้องหน้าด้านไม่ยอมจ่ายคืน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะว่าสิ่งที่หน้าด้านกว่านี้ พวกอำมาตย์ตอแหลแลนด์ยังเคยทำมาแล้ว ฉนั้น กะอีแค่เบี้ยวหนี้ฝรั่ง ทำไมจะไม่กล้าทำ

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของเยอรมนีสิขา จึงนำเรื่องขึ้นศาน ขออนุญาติศาน เพื่อยึดทรัพย์สินของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ที่ตนเองสามารถยึดได้ เพื่อมาใช้หนี้จำนวนนี้ ซึ่งในเมื่อหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลตอแหลแลนด์ ยังไม่ได้จ่ายหนี้ ศาลก็ย่อมอนุญาติ แต่ว่าปัญหาคือจะยึดอะไรได้ล่ะ? เครื่องบินของการบินตาย งั้นเหรอ? ก็ยึดไม่ได้ เพราะว่าการบินตาย นั้น ถึงแม้รัฐบาลตอแหลแลนด์ จะถือหุ้นส่วนใหญ่อยู่ แต่ก็มีการขายหุ้นให้เอกชนถือหุ้นได้นิดๆ หน่อยๆ แต่มันก็ทำให้ การบินตาย กลายเป็น บริษัท ของ มหาชน ไม่ใช่ของรัฐบาล ฉนั้น จะไปยึดเครื่องบินการบินตาย เวลาบินลง ก็ทำไม่ได้

ธรรมดา เอดส์ เวลามาเยอรมนีสิขา ก็นั่งเฟิร์สคลาส การบินตาย มานะ ซึ่งเวลาพี่แกบินไปบินกลับทีนึง จะเอาของไปๆ มาๆ เป็นตันๆ เลย แน่นอนพี่แกไม่เคยควักกระเป๋าจ่ายค่าปรับที่น้ำหนักเกิน แถม ในเคบิน เฟิร์สคลาส ห้ามมีผู้โดยสารอื่นๆ ที่พี่แกไม่ต้องการ ถ้าพี่แกไม่อยากให้ใครขึ้นเครื่องร่วมเคบินกับพี่แก ผู้โดยสารคนนั้นก็ไปนอนแอร์พอร์ตโฮเต็ล แล้วเดินทางวันรุ่งขึ้นเอาละกัน (แน่นอนการบินตายต้องจ่ายค่าห้องให้ผู้โดยสารพวกนั้น) แถม อำมาตย์ 3 ราย คือขันทีเฒ่ากาลี อ่านั้น ปันปันยายาชุนชุน และ หมดสิทธิ์ เศวกวตกะลา ก็เคยบอกทูตอเมริโกย ว่าส่งใครไปเป็นทูตประจำที่เยอรมนีสิขา ทีไรมีปัญหาทุกที ต้องขอย้ายประเทศกันแทบไม่ทันอยู่บ่อยๆ เพราะว่าถ้าเอดส์ จะเดินทางมาเยอรมนีสิขาเมื่อไหร่ ทูตจะต้องเสียเวลาทำงาน เดินทางจาก เบอร์ลินนน ไป มิวนิกกก เพื่อไปต้อนรับเอดส์ ทำให้งานไม่เดิน

แต่เราพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนละกัน เอาเป็นว่า ก็แค่รู้ว่า ธรรมดา เอดส์จะนั่งการบินตาย ไปกลับเยอรมนีสิขา แต่คราวนี้ไม่รู้คิดยังไง นั่งเครื่องบินประจำตัว ที่ตั้งชื่อตามไข่ตัวเองว่า “ขนมปังปอนด์” ไปเยอรมนีสิขา ทีนี้ เครื่องบินลำนี้นี่ เจ้าของคือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ซึ่ง เป็นหน่วยงานราชการของรัฐบาลตอแหลแลนด์ ฉนั้น เจ้าของเครื่องบินลำนี้ตามกฏหมาย ก็คือ รัฐบาลตอแหลแลนด์ นั่นเอง

ฉนั้น เมื่อมีกำหนดการว่า เครื่อง “ขนมปังปอนด์” จะลงที่เยอรมนีสิขา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ลิงโลด ม๊ากเค่อะ เพราะว่าโอกาสจะยึดสมบัติรัฐบาลตอแหลแลนด์ มาถึงแล้ว จึงทำยื่นเรื่องต่อศาลขออนุญาติยึดเครื่องบินลำนี้ทันที แน่นอนว่า ศาลอนุญาติ ฉนั้น เมื่อเครื่องบินของเอดส์ ลงถึงเยอรมนีสิขา ก็โดนเจ้าหนี้ยึดไปขายเลหลัง เอาเงินโลดดดด เอดส์ จะอยู่บนเครื่อง ตอนโดนยึดรึเปล่า ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ได้ แต่ถ้าอยู่ด้วยก็คงยิ่งมันส์ เพราะพี่แกจะต้องแค้นสุดๆ กลับตอแหลแลนด์ เมื่อไหร่ นายก หมี โดนเอดส์ลากคอมาจับตบกะโหลกคว่ำคาตีน อย่างแน่นอน

ทางการตอแหลแลนด์ รู้ข่าว ก็ต้องเต้นเป็นธรรมดา เพราะว่ายึดอะไรไม่ยึด มายึดเครื่องบินประจำตัวของเอดส์ เดี๋ยวเอดส์โมโหขึ้นมา ก็เจอคำสั่งโดนแปรสภาพ กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ (หรือกลายเป็น ศพ น่ะแหละ) กันไปตามๆ กัน ทางการ จึงส่ง กุ๊ย รัฐมนตรีกระทรวงต่างดาว ประเทศตอแหลแลนด์ หนึ่งในคณะผู้ก่อการร้าย ในคณะ พันธมวยเพื่ออำมาตยาธิปตาย ในพระบรมยาราชินีโรงลิเกอุปถัมภ์ ผู้รับคำสั่งจาก อาวาฬ ในการ ยึดสนามบิน ในนรกภูมิ เมื่อ 3 ปีก่อน ไปเจรจาให้คืนเครื่องบินมาให้เอดส์ เพื่อไม่ให้พวกของตัวเอง โดนเอดส์ สั่งลูกน้องมายำตีน กัน-ยก-กรม

ผลสำเร็จของการเจรจา ถ้าพูดเรื่อง ในแง่เหตุผล ทฤษฏี แล้ว กุ๊ย แพ้ลุ่ยแน่ๆ เพราะว่า กุ๊ย ให้ข่าวรอยไถเตอร์ ไปว่า เครื่องบินลำนี้ ไม่ใช่เครื่องบิน ของรัฐบาลตอแหลแลนด์ มันเป็นเครื่องบินของเอดส์ เพราะรัฐบาล โอนให้เอดส์ แล้ว และศาลเยอรมนีสิขา ก็หูเบา เชื่อหลักฐาน ปลอม ของโจทก์ เลยตัดสินคดีออกมาผิดๆ แต่ตามหลักฐานใน airfleets.com เว็ปไซท์ที่มีการบันทึกเอาไว้หมดว่า เครื่องบินในโลกนี้ ใครเป็นเจ้าของบ้าง บันทึกเอาไว้ชัดเจน ว่า เจ้าของ เครื่อง “ขนมปังปอนด์” คือ กองทัพอากาศตอแหลแลนด์ ไม่เคยมีหลักฐานว่าเคยมีการโอนเครื่องลำนี้ ให้เอดส์ แต่อย่างใด

แต่จริงๆ แล้ว หากจะมีการโอนให้เอดส์แล้ว ทางการเยอรมนีสิขา ก็มีสิทธิ์ยึดเครื่องบินลำนี้อยู่ดี เพราะว่า ตามกฏหมาย เจ้าหนี้ มีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์สิน ที่ลูกหนี้ มอบให้ผู้อื่นฟรีๆ หรือไม่ก็ขายให้ผู้อื่นในราคาที่ถูกกว่าราคาจริงของสินค้ามากๆ มาเป็นของตัวเอง เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้ว พวกลูกหนี้ที่ทำแบบนี้ เป็นพวกที่อยากเบี้ยวหนี้ แต่ว่ากลัวโดนยึดทรัพย์ ถ้าเบี้ยว เลยแกล้งทำเป็นทำเรื่องยกทรัพย์สินของตัวเองให้คนอื่นไปฟรีๆ เพื่อว่า เจ้าหนี้ จะได้มายึดทรัพย์สินชิ้นนั้น ไม่ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ เมืองฝรั่ง เขาตัดสินกันในศาล มาเป็นร้อยๆ ปี แล้วว่า การโอนทรัพย์สินย่อมต้องเป็นโมฆะ เพราะก่อนที่คุณ จะสามารถให้อะไรใครได้ คุณต้องเป็นเจ้าของ ของสิ่งนั้นซะก่อน ถ้าคุณยังเป็นหนี้เขาอยู่ ของชิ้นนั้น ก็ไม่ใช่ของคุณ คุณต้องใช้หนี้ให้หมดก่อน คุณถึงจะให้ของชิ้นนั้นกับคนอื่นได้

ฉนั้น การที่ กุ๊ย พูดอะไรโง่ๆ ออกมาแบบนั้น ก็มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือ กุ๊ย จงใจจะตอแหลหน้าด้านๆ เพื่อรักษาหน้าประเทศตอแหลแลนด์ แต่ถ้าทำแบบนั้น กุ๊ย มีสิทธิ์หน้าแตกได้ เพราะว่าเยอรมนีสิขา ไม่ใช่ตอแหลแลนด์ หากว่าไปตอแหลหน้าด้านๆ แล้วเขาพิสูจน์ได้ว่าตอแหล คราวนี้ กุ๊ย จะโดนโจทก์ ฟ้องกลับ ว่าหมิ่นประมาทเขา ไปหาว่าเขาใช้หลักฐานปลอม ทำให้เขาเสียชื่อเสียง และแน่นอนว่า ศาลเยอรมนีสิขานั้น อำมาตย์ตอแหลแลนด์สั่งไม่ได้ ไม่มีทางตัดสินให้ กุ๊ย ไม่แพ้ได้ ถ้ากุ๊ย ตอแหลออกมาจริงๆ

ความเป็นไปได้ ที่ 2 ก็คือ กุ๊ย โง่ซะจนไม่รู้ว่า การยกของอะไรให้คนอื่นฟรีๆ โดยที่ยังไม่ได้ใช้หนี้เจ้าหนี้นั้น การโอนครั้งนั้นจะเป็นโมฆะทันที สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าคิดว่า กุ๊ย นั่น คงจะตอแหลหน้าด้านๆ มากกว่า เพราะ กุ๊ย เอง ก็ตอแหลตอหลดอยู่ทุกวี่วันในตอแหลแลนด์ แต่ว่าที่ยังไม่เคยเป็นอะไรเพราะศาลตอแหลแลนด์นั้น ผู้พิพากสาริกา แต่ละตัวก็สุนัขรับใช้ของ อาวาฬ ทั้งนั้น ฉนั้น เมื่อกุ๊ย ก็เป็นสุนัขรับใช้ของ อาวาฬ เช่นกัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าขึ้นศาลในตอแหลแลนด์ แล้วจะแพ้ กุ๊ย เลยลืมไป เอานิสัยตอแหลหน้าด้านไปใช้ที่เมืองนอก

ซึ่งคราวนี้ ไปกล่าวหาเขาว่าตอแหล เรามาคอยดูกันดีกว่า ว่า เขาจะฟ้องร้อง กุ๊ย หรือไม่ ถ้าฟ้อง อย่าหวังว่า อาวาฬ จะสั่งศาลเยอรมนีสิขาได้ หากเขาเรียกร้องค่าเสียหายมากๆ กุ๊ย ไม่มีจ่าย เรามาดูกันดีกว่า ว่าศานจะสั่งให้ กุ๊ย ไปหาเงินมาจ่ายอย่างไร สำหรับข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าว่า สั่งให้มันไปทำงานในสำนักนางโลม ขายตูดใช้หนี้ท่าจะดี และถ้าจะให้ดีกว่านั้น สำนักนั้นควรมีแมงดาโหดๆ คุมอยู่ด้วย ถ้า กุ๊ย งอแง ไม่ยอมขายตูด ก็จะโดนพวกแมงดาโหด รุมจับมัดแล้วดีดหำให้หน้าเขียวชักตาตั้งไปเลย คงจะมันส์น่าดู

ติดตามชม ลิเก สตอรี่ Episode 5 เร็วๆ นี้ นะฮ่ะ
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Empty Re: ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม)

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Jul 16, 2011 8:17 pm

ลิเก สตอรี่ ตอนที่ 4 (Li-Kay Story Episode 4) : Hi s 190 มาแล้วเด้อค่ะ(อยู่กระทู้เดิม) Kasit


เปิดคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ กรณี คดีบริษัทวาลเทอร์ เบา เยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย
วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19:02:32 น.

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เว๊บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ ข่าว คดีบริษัทวาลเทอร์ เบา ของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทยมีใจความว่า วันที่ 14 กรกฎาคม 2554 นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับคดีบริษัทวาลเทอร์ เบา (Walter Bau) ของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้


1. คดีดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา ของเยอรมนีกับรัฐบาลไทย โดยบริษัทฯ เป็นโจทก์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย กรณีผิดสัญญาโครงการทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ตั้งแต่ปี 2548 ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับเยอรมนีเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนต่างตอบแทน ค.ศ. 2002 ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 ให้รัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทฯ เป็นเงินประมาณ 30 ล้านยูโร บวกดอกเบี้ยและค่าดำเนินการของคณะอนุญาโตตุลาการอีกเกือบ 2 ล้านยูโร


2. โดยที่สหรัฐฯ เป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการยอมรับนับถือและการใช้บังคับคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ ค.ศ. 1958 (Convention on the Recognition and Enforcement of Foreign Arbitral Awards) บริษัทฯ จึงได้นำคดีฟ้องต่อศาลนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553 เพื่อขอให้บังคับคดีตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งต่อมาศาลนครนิวยอร์กได้ตัดสินให้ไทยปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโต ตุลาการ รัฐบาลไทยโดยสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำตัดสินของศาล นิวยอร์ก


3 . ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเยอรมนีอีกทางหนึ่งเพื่อให้มีการบังคับคดี ซึ่งศาลเยอรมนีได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2554 ให้ยึดทรัพย์สินรัฐบาลไทยโดยมิได้มีการสอบถามหรือไต่สวนฝ่ายไทย ซึ่งนำไปสู่การอายัดเครื่องบินพระที่นั่งของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฏราชกุมาร ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนครมิวนิก เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2554 โดยเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินของรัฐบาลไทย


4 . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของฝ่ายเยอรมันเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงอันเกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ มิใช่ทรัพย์สินของรัฐบาลไทย ฝ่ายไทยได้ดำเนินการติดต่อทางการเยอรมันทันทีที่ได้รับทราบเรื่องในทุกช่องทางเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและหลักฐานยืนยันว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์


โดยในการดำเนินการของฝ่ายไทยนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ให้ข้อมูลข้างต้นแก่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี และรัฐมนตรีว่าการฯ ได้มีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีแสดงความกังวลอย่างยิ่งของฝ่ายไทยและขอให้ฝ่ายเยอรมันถอนการอายัดเครื่องบินลำดังกล่าวในทันที และได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปลัดกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กระทรวงฯ ได้เชิญอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย มารับทราบข้อเท็จจริง และคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย นำโดยอัยการสูงสุดและรองอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ได้เดินทางไปถึงนครมิวนิคแล้ว

ขณะที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้ติดต่อทนายความเยอรมันเป็นที่ปรึกษาประเด็นด้านกฎหมาย นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการฯ จะเดินทางไปกรุงเบอร์ลินในคืนวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 เพื่อพบกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีในบ่ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2554 เพื่อให้มีการถอนอายัดเครื่องบินลำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด


5 . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา กับรัฐบาลไทย รัฐบาลไทยเคารพและไม่มีความตั้งใจที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของเยอรมนี ตลอดจนเข้าใจว่าการดำเนินการเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยหวังว่า กรณีที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด


6 . สำหรับคดีฟ้องร้องระหว่างบริษัทวาลเทอร์ เบา กับรัฐบาลไทย สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลไทยให้เป็นผู้รับผิดชอบในคดีดังกล่าว กำลังอุทธรณ์คำตัดสินของศาลนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินต่อไป
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1310731448&grpid=01&catid=02&subcatid=0202
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ