25-06-2013/10:56 น. ในหลวงมีพระราชสาส์นเสียพระราชหฤทัยน้ำท่วมใหญ่อินเดีย

[goosehhardcore]

25-06-2013/10:56 น.

 ในหลวงมีพระราชสาส์นเสียพระราชหฤทัยน้ำท่วมใหญ่อินเดีย 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินเดีย กรณีเกิดอุทกภัยทางภาคเหนือของสาธารณรัฐอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีใจความว่า

ข้าพเจ้าและพระราชินีเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ทราบข่าวอุทกภัยทางภาคเหนือในประเทศของท่าน ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก ทั้งต่อชีวิตประชาชน ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐาน ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริง มายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้
(http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=686513&lang=T&cat=&key=)

[goosehhardcore]

"ดร.สุเมธ" แนะ รบ.ทำเมกะโปรเจ็คต์ต้องทำประชาพิจารณ์ทุกครั้ง-ปัดวิจารณ์จำนำข้าว วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 22:53:28 น. ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวถึงกรณีโครงการบริหารจัดการน้ำ มูลค่า 3.4 แสนล้านบาท ว่า โครงการใหญ่ไม่ว่าจะกี่ร้อยล้านบาทจะต้องทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชน ขั้นตอนต่างๆ ไม่สามารถก้าวข้ามได้ เพราะจากประสบการณ์ที่รับราชการมาหากลืมขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งปัญหาจะสะสมในตอนท้าย              “ยกตัวอย่างการสร้างเขื่อนป่าสัก ต้องถกเถียงกันบนโต๊ะประชุมจนเวียนหัวปวดหัว ปีครึ่งถึงจะเคาะออกมาเป็นโครงการ แต่เวลานานขนาดนั้นก็ถือว่าคุ้ม ถ้าทุกฝ่ายเข้าใจเรียบร้อยและตรงกันดีแล้ว การสร้างก็ม้วนเดียวจบเลยคือถ้าเราเลี่ยงจุดนั้นแล้วตอนท้ายเกิดการสะสมมันจะสำเร็จหรือไม่ไม่มีใครทราบเพราะว่าคนตั้งอยู่บนฐานความไม่เข้าใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสว่า เข้าใจเข้าถึงพัฒนา ดังนั้นจึงต้องสร้างความรู้สร้างความเข้าใจทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรต่างๆ และประชาชน ต้องคิดว่าการดำเนินการต่างๆ จะต้องมีความสุขของราษฎรเป็นที่ตั้ง” ดร.สุเมธ กล่าว                  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ดร.สุเมธ กล่าวว่า ไม่รู้  แต่การทำอะไรทุกอย่างก็ต้องระมัดระวัง หากทำอะไรเลยเถิดหรือไม่มีเหตุผล ทำอะไรที่ไม่มีภูมิคุ้มกันข้างหน้าก็ต้องประสบปัญหาแน่นอนไม่ว่าเรื่องอะไร แม้กระทั่งตัวเราเอง ต้องทำอะไรอย่างประมานตน อย่าทำอะไรเกินเหตุ ควรทำอะไรด้วยเหตุด้วยผลเพราะหากไม่มีคนจะโจมตีได้ และอนาคตจะไม่มีภูมิคุ้มกัน เราจะล้มได้ ต้องมีการบริหารความเสี่ยงเพื่อให้เป็นภูมิคุ้มกัน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1372080607&grpid=00&catid=&subcatid=