“วาทตะวัน”ถล่มแหลก

[Mamhablue]

“เสธเอี้ย” กับ “เดียรถีย์” (ตาเถน รัก รักพงษ์)

วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

เมื่อวันเสาร์ (24 พ.ย.2555) ที่ผ่านมา ผมตื่นแต่เช้า ทำบุญใส่บาตรตามปกติ และได้ยืนสงบนิ่ง สำรวมจิตอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของ ท่าน พล.อ.อรุณ ทวาทศิน อดีต
ผู้บัญชาการ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ คุ้มครองให้เหล่าตำรวจทุกนาย
ซึ่งไปรักษาการณ์ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง
ที่ได้อธิษฐานจิตอย่างนั้น เพราะในวันดังกล่าว เป็นวันนัดหมายชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อ ว่า “องค์กรพิทักษ์สยาม” มีประธานองค์กร ชื่อ
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

นายคนนี้ อยู่ในขบวนการกบฏ มี พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ เป็นหัวหน้า ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนสั้น ยิง พล.อ.อรุณ ทวาทศิน ถึงแก่ความตาย
กบฏถูกปราบปรามลงในเวลารวดเร็ว พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ถูกยิงเป้า นายพลบุญเลิศต้องติดคุกอยู่นานกว่า 8 เดือน แต่ได้รับนิรโทษออกมา ได้รับราชการต่อ ซึ่งผมได้เล่าไว้ในคอลัมน์
ไปเถอะ พวกเรา ไป “ลุย” ไอ้พวกกบฏกัน!!!
(http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=398)

คอลัมน์ดังกล่าว ออนไลน์ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 24 พ.ย.2555
ซึ่งตรงกับวันที่มีการชุมนุมของกลุ่มจัดตั้ง ที่ใช้ชื่อว่า “องค์กรพิทักษ์สยาม” ก่อนกำหนดการชุมนุม เพียงไม่กี่ชั่วโมง

ได้เรียนกับท่านผู้อ่านว่า ผมถือฤกษ์ “กบฏพินาศ” หรือฤกษ์ “ถล่มกบฏ” ในการกำหนดวางแผงออนไลน์คอลัมน์ดังกล่าว เพราะมีความมั่นใจว่า
ฝ่ายตำรวจที่ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ได้ถูกส่งไปรักษาสถานการณ์ ความสงบเรียบร้อยผสมกับตำรวจกรุง นั้น
ต้อง “เอาอยู่” อย่างแน่นอน!

เหตุที่เขียนไปอย่างนั้น เพราะผมเชื่อมั่นในหลัก “กรรม” ของพระพุทธศาสนา อีกทั้งนายพลบุญเลิศ เป็นคน “ดวงแตก”
จะให้ก่อการใหญ่ ไม่มีวันสำเร็จ จะต้องพบกับความล้มเหลวทุกครั้งไป

อีกทั้งตัวเขาจะต้องราชทัณฑ์ แม้รอดโทษตายได้ แต่ต้องติดคุกอยู่ดี
ดังที่เราได้เห็นกันแล้ว ในความพยายามที่เขา ร่วมยึดอำนาจกับ พล.อ.ฉลาดฯ
จนทำให้ทุกวันนี้...
ตัวนายพลบุญเลิศฯเอง มีตรา “ไอ้กบฏ” สักอยู่ที่หน้าผาก!

ถึงวันนี้ “ไอ้กบฏ บุญเลิศ” ไม่ทิ้งสันดานกบฏ เขามีความพยายามใยการกระทำความผิดซ้ำซาก ด้วยการเรียกผู้คนให้ออกมาชุมนุม โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะ “โค่นล้ม ขับไล่” รัฐบาลของนายกปูฯ ให้ออกจากการบริหารบ้านเมืองไป และเมื่อเขากับพรรคพวกยึดอำนาจในบ้านเมืองได้
จะทำการ “แช่แข็ง” ประเทศไทยที่รักของเรา!

ข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ของแก๊งนายพลบุญเลิศฯกับพวก คือ
บังอาจไปฉกฉวย แอบอ้าง รหัสสัญญาณเรียกขาน “เบื้องสูง” มาเป็นฤกษ์ชุมนุมของตน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้คนไทยเข้าใจผิด ทำให้ผู้คนไม่พอใจ เพราะประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆท่าน ถือว่า
เป็นเรื่อง “อัปรีย์จังไร” หากใครขืนแอบอ้าง ไปกระทำการเช่นนั้น หรือแม้เพียงแต่จะคิด!

แม้ผู้คนจะเตือนแล้ว แต่ทั้ง “ไอ้กบฏ บุญเลิศ” กับพวก หาฟังไม่ จนเกิดเรื่องเข้าจนได้
นี่อาจเป็นคราวเคราะห์ของ “ไอ้กบฏ บุญเลิศ” ที่มีหมอดูประจำตัวและประจำองค์องค์กร ได้ให้เลขผานาทีในการเข้าตีฝ่ายรัฐบาล ในเวลา 901 น. นั้น เป็นรหัสหนึ่ง ในกลุ่มสัญญาณเรียกขานซึ่งผู้คนเข้าใจว่า มีความหมายอย่างไร?
เช้าวันชุมนุม “ไอ้กบฏ บุญเลิศ” ได้ทำการบูชาเทพยดาฟ้าดิน ขอให้ประชาชนมาชุมนุมกับพวกตนมากๆ โดยมีนายกรหริศฯ ไอ้โหนต่องแต่ง (ที่ผมเคยด่าเช็ดไปว่า มันทำนายทายทักอะไร ไม่เคยถูก เพราะผิดตลอด) ทำวางมาดเคร่งขรึม เหมือนกับเป็นโหราจารย์ใหญ่ เดินถือเครื่องบูชา มากลางลานพระรูป ทำพิธี
แต่...ผลกลับปรากฏออกมา ว่า

ก่อนหน้า
การบวงสรวงนั้น ราวเจ็ดโมงเศษของวันเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุม
นำขบวนโดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่บรรทุกเครื่องขยายเสียง
พยายามขอให้ตำรวจที่ปิดกั้นทางเดิน ตรงเข้าสู่ลานพระบรมรูป เปิดทางให้
แต่...
ตำรวจไม่ยอม เพราะเป็นพื้นที่หวงห้าม!

ผู้นำฝูงชนพยายามยั่วยุตำรวจ แต่ฝ่ายโปลิศอดทนได้อย่างแปลกใจ
ไม่โต้ตอบการยั่วยุ เพียงแต่ดันกันไปมา
ระหว่างกำลังของกลุ่มคนที่กระเหี้ยนกระหือรือที่จะบุก
ส่วนตำรวจฝ่ายตั้งรับกลับยันการบุกไว้ได้อย่างมั่นคง

และแล้ว...กลับเป็นฝ่ายผู้ชุมนุมเอง ที่ทนไม่ไหว
พวกเขาพยายามแหกหักด่านของตำรวจ จนเกิดการผลักดันกันขึ้นไปมา
ฝ่ายตำรวจซึ่งมาจากจังหวัดทางภาคอีสาน ไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านั้น
ทะลักแนวตั้งรับเข้ามา โดยเด็ดขาด...
แต่แล้ว...

จุด
ผกผันได้เกิดขึ้น เมื่อคนขับรถเครื่องเสียง ซึ่งนำหน้าผู้เข้าชุมนุม
กำแหงหนักข้อมากขึ้น ถึงกับขับรถพุ่งถลันเข้าชนแนวตั้งรับ
ทำให้ตำรวจหน้าแนวบาดเจ็บหลายนาย แต่โชคร้ายตกเป็นของฝ่ายผู้รุกราน
เพราะนาทีปะทะนั้น ผู้รู้บอกผมว่า
ดวงดาวโคจรอยู่ในมหาฤกษ์ “กำลังแผ่นดิน” ตามตำราบูรพาจารย์แต่โบราณ บันทึกเอาไว้ว่า...



ชัยชนะทั้งปวง จะต้องตกเป็นของผู้มี “ตราแผ่นดิน” ประดับที่หน้าหมวก เหนือศีรษะแห่งตน อันได้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้มารักษาการณ์นั่นเอง
มหาฤกษ์ “กำลังแผ่นดิน” รู้จักและเรียกขานกันในหมู่นักรบอีกนามหนึ่งว่า เป็นพระฤกษ์...
นเรศวร-ออกศึก!!!


พลันระเบิดขว้างแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ ได้ถูกขว้างออกไป
แผดเสียงคำรามกึกก้อง ติดต่อกันหลายลูก ทั้งเขย่าขวัญ
และสร้างความสับสนให้กับขบวนผู้ชุมนุม ที่ก่อนหน้าแสดงท่าฮึกเหิม
แต่ในที่สุดแล้ว ต้อง...
“หนีญญ่าย พ่ายจะแจ”
ในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ฝ่ายไอ้นายพลบุญเลิศกับพวกต้องประสพความแพ้พ่าย อีกทั้งพรรคพวกนับร้อย ต้องถูกจับกุมคุมขังอีกด้วย!

การยุติการชุมนุมของ “ไอ้กบฏ บุญเลิศ” หรือ “เสธอ้าย” (ที่ในตอนนี้ ผู้คนเปลี่ยนการเรียกขาน เป็น “เสธเอี้ย”)
กลางลานพระบรมรูปทรงม้านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
เพราะไอ้หมอนี่ ได้ทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคลแก่ตัวเอง ซึ่งในเป็นนายทหารเก่า
แต่กลับฝ่าฝืนคำที่ตัวเคยปฏิญาณว่า
“ข้าฯจะจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”
นายพลบุญเลิศฯนั้น เป็นกบฏต่อแผ่นดิน แต่ยังโชคดี ที่ได้รับการเว้นโทษตาย
ถึงกระนั้น ไม่ได้ทำให้ไอ้หอกนี่....มันหลาบจำเลย!

พฤติกรรมไม่จงรักภักดีต่อชาติ ของนายพลบุญเลิศฯ พวกเราเหล่าวิญญูชนทั้งหลาย ย่อมรับไม่ได้ เพราะเมื่อได้รับการ
นิรโทษกรรมแล้ว
กลับไม่สำนึก!
เมื่อเกษียณราชการไปแล้ว แทนที่ไอ้ “เสธเอี้ย”
มันจะวางตนให้เป็นที่เคารพ และใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบและมีเกียรติ
ทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อนักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายร้อย จปร.
รุ่นหลังๆ ในฐานะตัวเองได้รับความเชื่อถือ ถูกเลือกเป็น ประธานมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหาร แต่เสือก “คิดไม่เป็น” กลับมาสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองเสียเอง อย่างไร้เหตุผลจริงๆ

การกระทำของนายพลบุญเลิศ เริ่มตั้งแต่มาพูดจาวางก้าม ข่มขู่รัฐบาล ว่า
จะก่อการปฏิวัติ รัฐประหาร!

ผมเองทนไม่ได้ จึงนำพฤติกรรมของทหารนอกคอกคนนี้
มาเขียนเล่าให้ท่านผู้อ่านฟัง ตั้งแต่เมื่อ 17 ก.พ.2555
โดยให้ชื่อคอลัมน์ของตัวเอง แบบท้าทายไอ้กบฏบุญเลิศ ในสไตล์หวือหวาท้ารบ
ว่า
“ไอ้พวก ‘เงี่ยน’ ปฏิวัติ...พวกกู ไม่กลัว พวกมึง!!!”
(http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=349)

นอกจากไม่จงรักภักดีต่อชาติแล้ว ความน่าเกลียดน่าชังของ “เสธฯเอี้ย” ยังมีอีกเหตุผล ที่ผมทนไม่ได้อีก คือ
เขายังขาดความจงรักภักดีต่อพระพุทธศาสนา ที่ตนเองอ้างว่าเคารพนับถือ!
ดันไปยกย่องเชิดชู “ลัทธิเดียรถีย์” ของ ไอ้เถนรักษ์ รักพงษ์ ซึ่งลัทธิของมัน เป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนา ที่เจ้าเหนือหัวของคนไทย ทรงเคารพนับถือ และทรงเป็นองค์อุปถัมภกอยู่ในปัจจุบัน
ไอ้ “เสธฯเอี้ย” ดันไปเอาไอ้พวกลัทธิเดียรถีย์ ที่ผมขนานนามต่างไปจากเจ้าลัทธิว่าเป็น “กองทัพเถน” มาเป็นกองกำลังหลักในการชุมนุมของพวกตน ตั้งแต่ก่อนการชุมนุม ระหว่างการชุมนุม และภายหลังการชุมนุม
ดูมันทำ!

ที่ต้องพูดอย่างนั้น เพราะเจ้าลัทธิ “สันติกะโปก” คือ “เถนรัก ‘เดียรถีย์’ รักพงษ์” ได้ออกมาแสดงความกร่าง ด้วยการประกาศก้อง สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ “เสธเอี้ย” ตั้งแต่ระยะการจัดตั้งเกณฑ์คนเข้าร่วม ในการประชุมเปิดตัว “องค์กรพิทักษ์สยาม” ที่สนามม้านางเลิ้ง

ก่อนการชุมนุมใหญ่ ขององค์กรพิทักษ์สยาม “เถนรัก เดียรถีย์”
ยังใช้สื่อที่ตัวเอง มีไว้ในความครอบครอง ปลุกปั่นยุยงให้ประชาชน
เข้าร่วมการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ซึ่งมีทั้งสื่อวิทยุและโทรทัศน์
ในสังกัดของลัทธิสันติกระโปก เป็นการโหมกระหน่ำโฆษณาชัดชาวชาวบ้าน
อย่างถี่ยิบ...
แบบเอาเป็น...เอาตาย!

ระหว่างการชุมนุม ไอ้เจ้าเถนเฒ่าเดียรถีย์ มันยังนำเอาสาวกมาจับจองที่ ตั้งเวที ขนเต็นท์ทันสมัย ที่ “สแลน” สำหรับกรองแสง รูปหลังคาโค้ง เป็นแบบทันสมัยแข็งแรงกว่าที่ใช้กันในการชุมนุมทั่วๆไปๆ

นอกจากนั้น กองทัพซอมบี้ของไอ้เถนเฒ่า ยังตระเตรียมผักหญ้ามากมาย
เพื่อมาประกอบอาหารมังสวิรัติ เลี้ยงกันแบบไม่อั้น พร้อมกับคุยเขื่องว่า
แดกกันเท่าไหร่ ก็ไม่หมด!


บรรดาสาวกที่เลื่อมใสในลิทธิเดียรถีย์ และประชาชีที่มาร่วมชุมนุม
สามารถกินอยู่ นอนค้างอ้างแรม ที่ลานพระบรมรูปได้อย่างยาวนานนับเดือน
แต่...

ไม่น่าเชื่อว่า ไอ้เดียรถีย์ “เถนรักษ์”
โดนแค่แก๊สน้ำตาเข้าให้ตอนการปะทะยกสอง เป็นเหตุให้ไอ้เฒ่ากาลี ถึงกับถอดใจ
หากรอเวลาให้เจ้าหน้าที่เข้ามาถล่ม
ตัวเองอาจต้องลงไปพบเถนเทวทัตก่อนกำหนดก็เป็นได้ จึงเรียก “เสธเอี้ย”
มาสั่งการ ว่า
“อาตหมา ไม่ไหวแล้ว เลิกเหอะ...คุณเสธฯ!”
(...โถ!! โดนแค่นี้...จะเป็นจะตายเชียวนะมึง!!!)

นี่เองเป็นเหตุให้เสธฯเอี้ย (ซึ่งกำลังหา “ทางลง” อยู่แล้ว) ฉวยโอกาสขึ้นเวที ประกาศ “เลิกการชุมนุม” ทั้งๆที่เวลาผ่านไปยังไม่ถึง 10 ชั่วโมงด้วยซ้ำ!
หลังเลิกการชุมนุม ทางฝ่ายสาวกของลัทธิ “สันติกะโปก” ต้องเก็บข้าวของ ที่นำมาสุมกันในการชุมนุม กลับไปอาศรมคลองกุ่ม เพื่อเลียแผลต่อ
แต่...
ผมเชื่อว่า อีกไม่ช้าไม่นาน ไอ้ “พวกมิจฉาทิฐิ” อย่างไอ้เถนแห่ง “ลัทธิเดียรถีย์” อย่างสันติกะโปกนี้ คงจะต้องโผล่ออกมา สร้างความวุ่นวาย ให้กับบ้านเมืองของเรา ทันทีที่พวกมันมีโอกาส นั่นเอง

จึงขอประกาศ ยืนยันต่อพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนชาวไทยที่รักทั้งหลาย ว่า

ไอ้เถน “รัก รักพงษ์” เป็น “ตัวการ” ในการก่อการชุมนุมครั้งนี้!

พฤติกรรม
ของไอ้เถนกาลีรายนี้ ได้ก่อปัญหาให้กับประเทศเรามาอย่างยาวนาน
นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น และเป็นอันตราย
ต่อพระพุทธศาสนาและชาติบ้านเมือง อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา

จึงขอแนะนำว่า

เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องพิจารณา หากลไกและแนวทาง ที่เหมาะสม เข้าดำเนินการกับ “เถนรัก ‘เดียรถีย์’ รักพงษ์” ให้เด็ดขาดเสียที

พวกเราจะปล่อย ให้มัน “กร่าง” เพราะมีทั้งทุน กองกำลัง พรรคการเมือง และลัทธิกาลีผีบุญ...

เป็น “เสนียดแผ่นดิน” ต่อไปอีก ไม่ได้แล้ว!!!

..................

ท้ายบท มีผู้ถามว่า หลังมีความเห็นตุลาการเจ้าของสำนวน คดี สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ฟ้อง แนะนำให้ อ.ส.ม.ท. คืนเงินให้กับผู้จัดรายการยอดนิยม จำนวนเกือบ 50 ล้านบาท นั้น
ผมมีความเห็น อย่างไร?

ต้องขอกราบเรียนว่า
เรื่องนี้ยังต้องว่ากล่าว ด่าทอแบบแสบสันต์กันอีก
เพราะมีตัวละครเกี่ยวข้องหลายตัว ตั้งแต่พวกหารับประทานด้วยการทำสื่อ
สมาคมสื่อและองค์กรที่เกี่ยวกับสื่อกะโหลกกะลาทั้งหลาย ที่ตัดสินใจผิดพลาด
ออกไปกระดี๊กระด๊า รุมกระทืบสรยุทธกันอย่างเมามัน
พอความจริงปรากฏออกมา ใบ้แดกกันไปทุกแก๊ง มีแต่ “วาทตะวัน” นี่แหละครับ ที่ยืนหยัดชัดเจน มาตั้งแต่ต้น ว่า
สรยุทธ...ยังไม่ผิด!

ฉะนั้น ผมจะต้องวิพากษ์วิจารณ์ เชือดเฉือนไอ้พวกสันดานไม่ดีเหล่านี้ ให้สนุกสนุกสนานมันปาก อีกสักยกสองยก!!

เรื่องฉาวๆพรรค์นี้ จะให้เลิกกันง่ายๆ ไม่ได้หรอกครับ!!!

อนึ่ง สำหรับผู้ที่โพสต์แสดงความเห็น คอลัมน์ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ
ไปเถอะ พวกเรา ไป “ลุย” ไอ้พวกกบฏกัน!!!
(http://vattavan.com/detail.php?cont_id=398)
มีดังต่อไปนี้ครับ

ความคิดเห็นที่ 1
อ้าว พวกกบฏบุกก่อนแล้ว เอารถชนแนวกั้นตำรวจ โดนโต้ตอบด้วยขว้างแก๊สน้ำตา
โดยคุณ ทำไมไม่ลุยก่อน 555 180.180.159.XXX

ความคิดเห็นที่ 2
การ
กระทำของนายบุญเลิศ (สมควรถอดยศ) และตัวใหญ่ ๆ ผู้วางแผนอยู่เบื้องหลัง
แสดงให้เห็นถึงกิเลสหนาของคนที่ยากจะขุดจริง ๆ
กลุ่มคนพวกนี้ทุ่มทุกอย่างเพื่อรักษาสถานะของตนเองในการที่จะอยู่อย่างเอา
เปรียบสังคมต่อไป จึงต้องทำในสิ่งไร้สติเช่นนี้
ไม่ได้ดูเลยว่าสังคมรอบตัวและรอบโลกเขาเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
หรือรู้แต่ว่ากูจะเอาอย่างนี้ กูไม่เคารพกฎกติกาใด ๆ ใครจะทำไม ?
จึงรวมหัวกันต้านการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นขนาดใหญ่ซึ่งกำหนดโดย
ประชาชน
พวกเราทำอะไรไม่ได้ก็ขอให้ร่วมกันสาปแช่งให้พวกมันมีอันเป็นไปจนตกนรกหมก
ไหม้ในเร็ววัน ช่วยกันมาก ๆ คงจะมีพลังทำลายล้างได้ทันตาเห็น
ขณะเดียวกันก็ขอให้ช่วยอำนวยอวยชัยให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาช่วยขจัดเสี้ยน
หนามแผ่นดิน ขอจงมีพลังและปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
มีความเจริญและอยู่เย็นเป็นสุขกันทั้งครอบครัวตลอดไป
ทำภารกิจจนชนะหมู่มารที่มุ่งทำร้ายประเทศชาติและประชาชนจนหมดสิ้นได้ในเร็ว
วัน
โดยคุณ ได้เห็นสัจจธรรม 124.122.125.XXX

ความคิดเห็นที่ 3
พวกนี้มันจะทำทุกอย่างเพื่อไอ้มาร์คคนเดียวโดยไม่สนใจความเสียหายของประเทศชาติเลยหรือ เห็นแก่ตัวมาก
โดยคุณ chuang 119.46.70.XXX

ความคิดเห็นที่ 4
เหล้าสีขี้ในขวดเดิมของอีแอบ อัปรีย์ดีจริงๆ แม่มมันคงภูมิใจที่ได้ลูกๆ สันดานอย่างนี้ สมใจอยากละสิ อีอัปรีย์
โดยคุณ ???? 115.87.166.XXX

ความคิดเห็นที่ 5
อาจารย์
ครับ ผมอยากทราบว่า เจ้าเสธ
อดีตกบฏมันมีต้นทุนเท่าไรครับที่จะออกมารับผิดชอบในความเสียหายจากการกระทำ
ของพวกที่มาชุมนุมตามคำยุยงของมัน
ขนาดมันได้รับการนิรโทษกรรมมาแล้วครั้งหนึ่งมันยังไม่รู้สำนึกเลยครับ
โดยคุณ narong subsangar 125.24.11.XXX

ความคิดเห็นที่ 6
สะใจจริงๆ ที่นายบูญเลิศกับพวก ต้องพ่ายแพ้ครั้งนี้ แต่คงไม่นานนัก คงจะกลับมาทำร้ายบ้านเมืองกันอีก
โดยคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองคุณปูและรัฐบาล 125.25.146.XXX

(***คอลัมน์ ประจำสัปดาห์ “เสธเอี้ย” กับ “เดียรถีย์” (ตาเถน รัก รักพงษ์) ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 1 ธันวาคม 2555)