GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

“วาทตะวัน” แฉเกลี้ยง เบื้องหน้าเบื้องหลังสื่อที่รุมจวกทักษิณ

Go down

“วาทตะวัน” แฉเกลี้ยง เบื้องหน้าเบื้องหลังสื่อที่รุมจวกทักษิณ  Empty “วาทตะวัน” แฉเกลี้ยง เบื้องหน้าเบื้องหลังสื่อที่รุมจวกทักษิณ

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Sun Jul 24, 2011 7:00 am

“พวกกู...เชื่อนโยบาย ‘เพื่อไทย’ มากกว่าโว้ย!!!
ผู้เขียนบทความ : วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

เคยเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังว่า ในฐานะที่เป็นคอลัมน์นิสต์มายาวนาน และเป็นคนแรกๆที่เขียนทางเว็บไซด์แล้ว มีคนดูถึง 1 ล้านคน/คลิก นั้น สิ่งที่จำเป็นต่อผม คือ การหาความรู้จากทุกทิศทาง ที่สำคัญไม่แพ้หนังสือพิมพ์ ก็คือสื่อวิทยุ ทุกวันนี้ผมต้องฟังรายการที่น่าสนใจ จากวิทยุหลายๆคลื่น เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประกอบการเขียน
วิทยุคลื่น FM 101 MHz นั้น ผมฟังและเคยวิพากษ์วิจารณ์เอาหลายครั้ง ตั้งแต่เจ้าของคลื่นยังใช้ชื่อกองบัญชาการทหารสูงสุด แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น กองบัญชาการกองทัพ... ซึ่งทหารเขาไม่ได้ทำรายการเอง แต่เอาไปให้บริษัทสื่อเช่าเวลาและบริหารคลื่นเอง เช่นเดียวกับสถานีวิทยุของทหารหน่วยอื่นๆในประเทศนี้ โดยมีข้ออ้างที่สำคัญคือ รายได้จากการให้เช่าเวลา จะนำไปใช้บำรุงหน่วยทหาร


การดำเนินการหาราย แล้วนำเงินไปเพื่อการสวัสดิการ บำรุงขวัญกำลังใจของทหารผู้น้อย เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สถานีสื่อของทหารหลายแห่ง มักมีเรื่องการดำเนินการที่ “ไม่โปร่งใส” ถูกกล่าวหาว่า ทำมาหารับประทานกันจนถึงขนาดเจ้ากรมสื่อสารทหาร ยศพลเอกถึง 3 นาย ต้องถูก ป.ป.ช.ชี้มูลให้ดำเนินคดีในข้อหาทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้ามากทีเดียว นายทหารยศพลเอกที่ว่านั้น ตอนนี้ตายไปแล้ว 1 นาย เหลือที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีอีก 2 ราย!


เมื่อเดือนมิถุนายน 2554 นี้เอง ศาลอาญาเพิ่งตัดสินจำคุกนายทหารยศพันเอกนายหนึ่ง ซึ่งมีส่วนบริหารสถานีวิทยุทหาร ในข้อหาทุจริตต่อหน้าที่มีกำหนด 3 ปี แต่โทษจำคุกนั้น ศาลท่านกรุณาให้รอการลงโทษไว้ เพราะเคยมีความดีความชอบมาก่อน ส่วน พล.อ. อดีตเจ้ากรมให้ยกฟ้อง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า อัยการจะพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น หรือไม่อย่างไร?


นายพันเอกคนนี้โชคดีจริง ข้อหาทุจริตแท้ๆ และศาลก็ตัดสินว่าผิด ลงโทษจำคุกถึง 3 ปี แต่ศาลท่านบอกว่านายพันเอกจำเลยเคยมีความดีความชอบมาก่อน
จึงให้รอการลงโทษไว้! ทักษิณฯเป็นนายกฯ ทำความดีความชอบให้กับชาติบ้านเมืองก็ไม่น้อย เขาถูกโค่นล้มด้วยกำลังทหาร และถูกสอบสวนโดยกระบวนการที่ไม่ชอบ โดนศาลลงโทษจำคุกแค่ 2 ปี ในข้อหาที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องทุจริตด้วยซ้ำ แต่ไม่มีการรอการลงโทษ!! ผู้คนเลยเม้าท์กันว่า โทษ 3 ปี ได้รอ โทษ 2 ปี ไม่ได้รอ ต้องบอกว่า ทักษิณฯซวยจริงๆ!!!



คลื่นทหาร FM 101 MHz นี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเรื่องการโจมตีคุณทักษิณกับพรรคพวก กระทำต่อเนื่องมา ตั้งแต่นายพล บุญสร้าง เนียนประดิษฐ์ เป็น ผบ.สูงสุด
นายพลบุญสร้างฯ แกทำอะไรไม่ค่อยจะเนียนเหมือนนามสกุล แถมชอบพูดโอ่แบบพระเอก และมักให้สัมภาษณ์สวนทิศทางกับนายกฯสมัคร ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเหนือตนโดยชอบด้วยกฏหมายในขณะนั้นเป็นประจำ


ผมอดรนทนไม่ไหว จึงได้เขียนบทความ ลงหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ วิพากษ์วิจารณ์นายทหารผู้นี้ ในบทความชื่อ “บุญสร้าง...อย่าเป็นบุญเสี้ยม” สองวันติดต่อกัน (ตอนนั้นยังไม่ได้เปิดเว็บ http://www.vattavan.com) แต่เคยตัดตอนบทความดังกล่าวบางส่วน เพื่อใช้ประกอบบทความชื่อ เขมรจะจัดฉลอง “วันรบชนะไทย” (http://vattavan.com/detail.php?cont_id=280)


สถานีวิทยุแห่งนี้ นอกจากถล่มทักษิณฯกับพรรคพวกแล้ว ก็เชียร์พรรคดักดานอย่างสม่ำเสมอ เรียกว่าอะไรจะทิ่มตำฝ่ายทักษิณได้ ก็ฟาดกันเต็มพิกัด แต่บางทีกลับพลาด ดันเข้าตัวเองเต็มเปา ตัวอย่างเช่น พอฝรั่งเขียนบทความด่าทักษิณว่า เป็น 1 ใน 5 ผู้นำยอดแย่ของโลก ผู้ดำเนินรายการ “พูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง” คือ รัชชพร “ยัยเฒ่า” เหล่าวณิชย์ สบช่องด่าทักษิณ ก็เปิดสายให้ผู้ฟัง โทรโหวตว่า “ใครเป็น “ผู้นำ” ในดวงใจของคุณ?” และให้ผู้ฟังโฟนอิน ไม่น่าเชื่อ...ผลกลับเป็นว่า
คะแนนผลโหวตแบบฉับพลันทันที ผู้ชนะและเป็นนายกในดวงใจของคนไทย กลายเป็นคนที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งชนะนายมาร์ค มุกควาย ถึง 3 เท่าตัว เล่นเอา “ยัยเฒ่า” ผู้จัดรายการ ถึงกับซึมไป สุ้มเสียงสั่นเครือ และผมวิพากษ์วิจารณ์เอาไว้หนักหน่วง ในคอลัมน์ ชื่อ Bad Ex-Best Ex!!! (ทักษิณฯ ผู้นำยอดแย่ หรือ ยอดเยี่ยม?) http://vattavan.com/detail.php?cont_id=257
ลองไปอ่านกันดู!



การออกมา “รุมยำ” นโยบายของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล จากสื่อฝ่ายตรงข้าม หรือศัตรูของทักษิณ ไม่ผิดอะไรกับหนังม้วนเก่า ที่พวกเขาเคยทำกับทักษิณและพรรคไทยรักไทย ที่สื่อดังกล่าวต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย "คิดใหม่ ทำใหม่" ของทักษิณอย่างรุนแรงเมื่อปี พ.ศ.2544 ว่า
ทำไม่ได้แน่ ๆ หากขืนทำลงไป ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้ ต้องเกิดความ “ฉิบหาย” ให้แก่บ้านเมืองเป็นแน่แท้!
มันว่ากัน...ถึงขนาดนั้นเลยทีเดียว!!


ท่านผู้อ่าน ลองไปดูโครงการของทักษิณกันบ้าง อย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เคยพูดกันนักว่า จะทำให้ระบบแพทย์และการรักษาพยาบาลของประเทศ ได้รับความเสียหายหนักแน่ แต่มาถึงวันนี้ กลับพิสูจน์แล้วว่า ชาวบ้านได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และโครงการอย่างนี้ ขนาดชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา พากเพียรทำมาเป็นเวลานานแต่ก็ไม่สำเร็จ


วุฒิสมาชิกที่มีชื่อเสียงว่าเป็น “สิงโตแห่งสภาสูง” (Lion of the Senate) อย่าง เท็ด เคนเนดี (Ted Kennedy) ได้ต่อสู้เรื่องนี้มายาวนาน 50 ปี จนกระทั่งตัวตายไปแล้ว เพิ่งมาบรรลุผลยุคประธานาธิบดี บารัก โอบามา นี้เอง แต่ถึงกระนั้น สหรัฐอเมริกาเองยังประสบปัญหาอีกมากมาย และยังมีหนทางที่ต้องเดินอีกไกล กว่าอเมริกันชนที่ยากจน จะเข้าระบบการรักษาพยาบาล
ได้อย่างทั่วถึง...อย่างคนไทย!
ไม่น่าเชื่อว่า
อเมริกันใช้เวลายาวนานถึงครึ่งศตวรรษ แค่การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก คุณทักษิณฯก็ทำได้สำเร็จ ตามนโยบายที่ประกาศไว้
จะยกย่อง หรือขอบคุณกันสักนิด ได้บ้างไหมเนี่ยะ?

ดูโครงการอื่นต่อไปอีกก็ได้ อย่างกองทุนหมู่บ้าน ให้ทุนไปหมู่บ้านละ 1 ล้าน ชาวบ้านไปบริหารกันเอง ไอ้พวกนายทุนและผู้ดีตีนแดงตะแคงจิ๋มเดิน มันก็วิพากษ์วิจารณ์กันว่า
เป็นการเอาเงินหลวงไปทำ...ปู้ยี่ปู้ยำ!
แต่...เวลาที่ผ่านไปก็พิสูจน์แล้วโดย รศ.นที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (ผอ.กทบ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า
จากรายงานเมื่อปี 2551 พบว่าเงินกองทุน 8 หมื่นล้านบาทที่บริหารกันโดยชาวบ้าน มีดอกผลงอกเงยขึ้นมากว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินยอดนี้ถูกนำไปใส่เข้าสมทบกองทุน จำนวน 5,370 ล้านบาท เงินออม 15,766 ล้านบาท เงินหุ้น 1,876 ล้านบาท เงินฝาก 1,758 ล้านบาท เงินประกันความเสี่ยง 1,676 ล้านบาท เงินเฉลี่ยคืนผู้กู้ 1,597 ล้านบาท เงินบริหารจัดการ 2,441 ล้านบาท และเงินจัดสรรสวัสดิการ-สาธารณประโยชน์ 2,950 ล้านบาท
“เงินกองทุน 79,255 กอง ทุน ยังอยู่ในมือชาวบ้าน ไม่ได้หายไปไหน เพราะชาวบ้านมีวินัยทางการเงิน และมีความรับผิดชอบสูง โดยกองทุนทั้งหมดชาวบ้านบริหารกันเอง ด้วยฝีมือผู้บริหารที่ จบป.4 ป.6 และ สูงขึ้นมาหน่อยอาจจะจบ ชั้นมัธยม แต่สามารถ บริหารเงินกันได้ดี เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เบี้ยวหนี้ หรือติดค้างชำระ เนื่องจากเขามีความละอาย ใครเป็นหนี้ 2 หมื่นบาท รู้กันทั้งหมู่บ้าน ถ้าค้างชำระก็ติดชื่อไว้ที่ศาลาวัด หรือไม่ก็ให้ลูกหลานช่วยทวงถามให้”

ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ

ความจริงมันเป็นอย่างนี้ สื่อมวลชนที่เขามีจิตใจดี (ไม่ใช่สื่ออัปรีย์!) ที่เขาเห็นกับประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ก็รายงานตรงไปตรงมาว่า
“กองทุนหมู่บ้าน ตำนานทักษิณ กำไรกว่า 30,000 ล้านบาทแล้ว หนี้เสียเพียง 0.5%”

หมายความว่า เงินทุนที่รัฐบาลทักษิณให้แต่ละหมู่บ้านไปนั้น บัดนี้มีกำไรเพิ่มขึ้นครึ่งเท่าตัวแล้ว กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญ ในหมู่บ้านและชุมชน สำหรับประชาชนคนไทยไปแล้ว ซึ่งพี่น้องเราได้มีไว้เป็นที่พึ่งเมื่อถึงคราวจำเป็น โดยไม่ต้องไปพึ่งพาเงินนอกระบบ จากนายทุนหน้าเลือดคนไหน
ไม่เหมือนโครงการของ ไอ้พวกไร้ปัญญาประชาธิเปรต...เอาเงินไปแจกอย่างไม่มีหลักมีเกณฑ์ แจกไปแล้วหายจ้อย เรียกว่า
แจกหาย...แจกหาย!
นี่ไง! เหตุผลที่คนไทย ยังคิดถึงคนชื่อ...ทักษิณ!!

ผู้คนจำนวนมากยังไม่รู้ความจริงว่า กองทุนหมู่บ้านนี้ รัฐไม่ได้ควักเงินออกจากกระเป๋า แต่เป็นเงินของธนาคาร และรัฐแค่ “ค้ำประกัน” ให้เท่านั้น เป็นนโยบายที่ชาญฉลาด ราษฎรได้รับเงินจากธนาคาร ทำให้มีเงินไปทำทุน แบ๊งค์ที่ปล่อยเงินก็ได้ประโยชน์ เงินที่เหลือเป็นกำไร ก็สะสม...
เพื่อความมั่นคง ของชาวบ้านกันต่อไป!
ที่น่าอัศจรรย์มากคือ มีหนี้เสียแค่ 0.5 หรือครึ่งเปอร์เซ็นต์ ดีกว่าธนาคารดังๆตั้งแยะ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเก่าแก่อย่างไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกรุงเทพฯ กสิกรไทย และอีกหลายๆธนาคารด้วยซ้ำไป!
แค่นี้ก็รู้ว่า
คนอย่างทักษิณฯนั้นฉลาด หรือโง่เง่าเต่าตุ่น เหมือนหัวหน้าพรรคเก่าแก่ดักดาน!?

เอาอีกหน่อยก็ได้
โครงการอย่าง “โอทอป” ซึ่งทักษิณคิดและทำขึ้นมา ได้สร้างช่องทางให้ชาวบ้านทำมาหากิน จนกลายเป็น “เสาหลัก” ทางเศรษฐกิจอีกหนึ่งต้น ให้กับระบบเศรษฐกิจไทย แต่รัฐบาลของพรรคดักดาน ตั้งแต่รับตำแหน่ง ก็แสดงท่าทีอย่างเนือยๆ ต่อโครงการนี้ คงเพราะเป็น “โครงการของทักษิณ” นั่นเอง
พอเริ่มต้นรัฐบาลนายมาร์ค มุกควาย ก็เอางาน “โอทอป” ไปจัดที่สนามกีฬาปทุมวัน สถานที่ก็ไม่อำนวย อากาศก็ร้อนตับแทบแตก ผู้คนจึงไม่มีอารมณ์ไปเดินหาซื้อของกัน กลุ่มผู้ค้าโอทอปที่เอาของมาออกงาน
เจ๊งรูดไปเลย!
รัฐบาลเลยถูกชาวบ้านโอทอป ด่ากันระงม และยังมีการสำรวจตามออกมาอีกด้วยว่า ยุคนายมาร์ค มุกควาย นั้น กลุ่มโอทอปล้มตายสูญหายไปถึง 15 % โชคดีที่ไอ้รัฐบาลกาลี มันกำลังจะไปเสียได้ ไม่อย่างนั้น จะ ‘ฉิบหาย’ กันอีกเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้

โครงการอย่าง “โอทอป” นั้น นอกจากช่วยชาวไทยกลุ่มหนึ่ง และเศรษฐกิจของชาติแล้ว ความสำเร็จของโครงการนี้ ยังขจรขจายไปถึงต่างประเทศ เอาเป็นตัวอย่าง ไปสร้างความเจริญในบ้านเขา เช่น คุณกลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย อดีตประธานาธิบดีฟิลลิปปินส์ ระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง เห็นว่าโครงการของทักษิณดี มีประโยชน์ จึงส่งทีมมาศึกษาดูงาน แล้วเอาไปทำที่แดนตากาล๊อคบ้าง ซึ่งก็ประสพความสำเร็จ สร้างงานและรายได้ให้กับชาวฟิลลิปปินส์ อย่างเป็นกอบเป็นกำ
นี่เอง ที่ทำให้ “ทักษิณ” ได้รับการยกย่องจากมิตรประเทศเป็นอย่างมาก แต่ไอ้พรรคกาลีและสื่อดักดาน เห็นว่าน้องสาวทักษิณฯกำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรี จึงพากันวิพากษ์วิจารณ์และรุมด่านโยบายของพรรคเพื่อไทย อย่างสาดเสียเทเสีย
ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาล...ดูมันทำ!

มาถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยกำลังจะเป็นรัฐบาล ไม่ใช่สื่อฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่สภาอุตสาหกรรม กับสภาตะหวักตะบวยอีก 2-3 แห่ง พากันด่าหน้าออกมา รุมสับรุมด่าด่านโยบายของพรรคเพื่อไทยอย่างเมามันเช่นกัน ซึ่งคนเขาได้ฟังก็พูดว่า
สภาหอกหักพวกนี้ มันก็ไอ้แก๊งเก่า ที่ซื้อหน้าโฆษณาหนังสือพิมพ์ ออกแถลงการณ์ ไล่รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ตอนที่พันธมารกำลังอยู่ระยะขาขึ้นและทหาร กำลังรวมพลังเขย่ารัฐบาล สมัคร-สมชาย อย่างเต็มที่ ชนิดบ้านเมืองจะฉิบหายอย่างไร พวกมันไม่เคยแยแส
คราวนี้พรรคพวกทักษิณ กลับมาสู่อำนาจอีกครั้ง ไอ้สภาหอกพวกนี้ มันออกกลัวจะโดนเอาคืน หรืออย่างไรก็ยังไม่รู้ เลยออกอาการอย่างที่เห็น!

สื่อวิทยุคลื่นทหาร อย่าง FM 101 MHz ซึ่งเป็นปรปักษ์กับทักษิณมานาน ก็ออกมาห้ำหั่นพรรคเพื่อไทย เริ่มตั้งแต่เช้า โดยนายรัชชพล เหล่าวณิชย์ แฟนสาวดั้งใส สโรชา พรอุดมศักดิ์ (นางเอกดั้งเดิม ของเวทีพันธมิตร) จัดรายการถล่มอย่างต่อเนื่อง โดยมี มหาวันชัย สอนศิริ (เปรียญ 5) คอยแจมนิดแจมหน่อยด้วยมุกคาเฟ่ (น่าจะให้ฉายา “คุณมหาคาเฟ่” ) มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง จนกระทั่งพรรคที่พวกตัวเชียร์ แพ้แบบหมดประตูสู้ ก็ยังอัดพรรคเพื่อไทยต่อไปไม่มีหยุดยั้ง
จากนั้นก็ตามด้วยรายการถล่มต่อ ของ นางศลิลนา “โฆษกีเสียงแบน” ภู่เอี่ยม และทีมงานของ “โพสต์ทูเดย์” ที่นายทุนใหญ่ของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ใครก็รู้ว่าขัดเคืองรัฐบาลทักษิณ เรื่องสัญญาเช่าที่ดินศูนย์การค้า ที่โดนปรับไปกว่า 500 ล้านบาท เพราะพิษการสอบสวนของทีมรัฐบาลทักษิณ
นอกจากนั้น ผู้ดำเนินรายการสมทบ อย่างนาย บากบั่น บุญเลิศ คนนี้ก็เคยขึ้นไปแอ่นแอ๊น บนเวทีพันธมิตรมาก่อน พูดจาอย่างไรนั้น คลิปที่เป็นหลักเป็นฐาน ก็ยังมีอยู่
ส่วนนาย ภัทระ คำพิทักษ์ ที่มาร่วมออกรายการสายหน่อย คนนี้ตอน “ไอ้บัง กบฏ” ตั้งสภาอัปรีย์ขึ้นมา เอาไว้ออกกฎหมายกดกบาลประชาชน แกก็ได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นสมาชิกสภากะโหลกกะลากับเขาด้วย
เรียกว่า “ยืนอยู่คนละฝั่ง” กับทักษิณทั้งนั้น!

ยังไม่หมดครับ พอตกค่ำๆ นายสนธิญาณ ซ้ายเก่า ออกมาสวดสำเนียงทองแดง พึมพำเรื่อง “ล้มเจ้า” ซ้ำๆซากๆ ทุกวัน
ขานี้เคยอยู่ที่ไทยทีวี สถานีที่บริหารเละเทะจนเจ๊ง เลยโดนทักษิณฯซื้อกิจการไปราคาถูกๆ
‘ซ้ายเก่า’ เจ้านี้ ได้รับการอุดหนุนจุนเจือ ในด้านทุนรอนจาก นายจิรายุ ณ ทรัพย์สินฯ เลยมีเรี่ยวมีแรงดี ออกมาท่องคาถา “ล้มเจ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ” รกหูชาวบ้านอยู่ที่คลื่นนี้ทุกวัน และมาเร่งเครื่องต่อต้านทักษิณขนาดหนัก ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง
จนกระทั่งฝ่ายที่ตัวเชียร์ พ่ายแพ้อย่างราบคาบแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกรู้สา งมงายซอยเท้าพึมพำคาถาประจำตัว อยู่ที่จุดยืนเดิมอย่างนั้น ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ต้องไล่ให้ไปอ่านคอลัมน์ “ใครกันแน่ที่...ล้มเจ้า(มือ)!?” (http://vattavan.com/detail.php?cont_id=301) เผื่อหูตาแกจะได้สว่างขึ้นมาบ้าง

จึงพอจะสรุป ให้ท่านผู้อ่านฟังได้ว่า

สถานีวิทยุคลื่น FM 101 MHz ที่มีกองบัญชาการกองทัพ..เป็นเจ้าของแห่งนี้ ดำเนินรายการโดยฝ่ายตรงข้าม ที่มอง “ทักษิณฯ” และคนเชียร์พรรคเพื่อไทย เป็น “ศัตรู” จึงดำรงการต่อต้าน และโจมตีทักษิณฯกับพรรคพวกติดต่อกันมาเนิ่นนาน หลายปีดีดักแล้ว
ทำราวกับว่าเป็น “นโยบายสำคัญ” อย่างยิ่ง ของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่จะต้องถล่มทักษิณฯกับพรรคพวก อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีวันหยุด หรือยั้งมือเด็ดขาด!

ไม่ว่า “สื่อหรือศัตรูทักษิณ” จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ก็ตาม แต่ผลงานที่พรรคการเมือง ซึ่งมีทักษิณฯเป็นผู้นำ และได้ทำตามนโยบายไปแล้วนั้น คงจะเป็นบทพิสูจน์กันได้อย่างชัดเจน ถึงความสำเร็จ อย่างที่ผมได้เล่าให้ฟัง
นี่เองเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ เชื่อมั่นในนโยบายของพรรคเพื่อไทย มากกว่าพรรคดักดาน รวมทั้งพรรคการเมืองอื่นๆด้วย ว่า
จะส่งเสริมให้ชีวิตพี่น้องประชาชนคนไทย ดีขึ้นและก้าวหน้ากว่าเดิม พวกเขาจึงเทคะแนนเสียง ให้พรรคเพื่อไทยอย่างท่วมท้น

อย่างไรก็ตาม ผมว่าชาวบ้านที่สนับสนุนทักษิณ รวมทั้งคนที่รักพรรคเพื่อไทย และลงคะแนนให้พรรคที่พวกเขาเชียร์ ก็คงไม่ฟังคลื่นกองบัญชาการกองทัพไทยแน่ๆ เพราะพวกเขาคงมอง
สื่อศัตรู-ทักษิณ เป็น...ศัตรูของพวกเขาด้วย!
[img]“วาทตะวัน” แฉเกลี้ยง เบื้องหน้าเบื้องหลังสื่อที่รุมจวกทักษิณ  Domain-ce76f701b0[/img]

ที่ผมพูดอย่างนี้ ก็เพราะมีประสบการณ์ตรง ด้วยบังเอิญไปได้ยินคนที่ฟังคลื่น FM 101 MHz ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วย เธอคงจะรู้สึกขัดเคือง การทิ่มตำของผู้ดำเนินรายการ จนถึงขั้นร้องออกมา ให้ผู้คนที่นั่งฟังอย่างชัดเจนว่า

“พวกมึงพูดได้ พูดไป! เพราะถึงยังไงชาวบ้านอย่างพวกกู...ก็เชื่อนโยบายพรรค ‘เพื่อไทย’ มากกว่า โว้ยยยยยยย!!...

....................
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ