GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี

Go down

เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Empty เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Sun May 15, 2011 6:50 am

ผมแอบเข้าไปในดินแดนเขมร ไปดูมาด้วยตา
เพื่อจะรายงาน “ข้อเท็จจริง” จากสมรภูมิ !

[img]เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Domain-20222be6b5[/img]

ไทยกับเขมรรบกัน ยังไม่ใช่สงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความขัดแย้งปัญหาชายแดน แต่ด้วยเหตุว่ามีพวกพัธมิตร กองทัพธรรม สันติอโศก เข้าใจว่าได้รับการ “หนุน” จากพรรคประชาธิปัตย์ และมือที่มองไม่เห็น รวมหัวกันปลุกระดมด้วยอาการ “กระหายสงคราม” ไม่รู้จักเลิก อาจจะทำให้ฝ่ายทหารไทย “หลงเดินทางเข้าไปติดกับ” กลลวงของพันธมิตรจนได้ หากติดกลลวงลึกเข้าไปจนถอนตัวไม่ออกก็จะทำให้เกิดสงครามได้โดยไม่ยาก เพราะเชื้อไฟสงครามได้แก่ปราสาทพระวิหาร รอที่จะทำให้เกิดการสู้รบได้ตลอดเวลา
ขอกราบ เรียนต่อท่านผู้อ่านว่า ผมเดินทางไปที่อำเภอกาพเชิง จังหวัดสุรินทร์แล้วเลยเข้าไปในประเทศเขมร เพื่อจะหาข่าวเอามาเขียน รวมทั้งอยากทราบว่า “มูลเหตุอะไร” ที่เป็นประเด็นหลัก ที่สามารถทำให้ ๒ ประเทศ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่แสนดี กลายมาเป็นเพื่อนบ้านที่แสนชั่วไปได้?
ทั้งนี้ได้อาศัยพระอธิการ จารุวัฒน์ จารุวังโส (พระปริญญาโท มศว.) นำพาเข้าไปในดินแดนเขมรเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ได้ความรู้ที่ถูกต้องเอามารายงานให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ
ด่านช่องจอม เป็นด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านติดจังหวัดสุรินทร์ (ฝั่งไทย)และติดจังหวัอุดรมี
ชัย (ฝั่งกัมพูชา) อันเป็นด่านมิตรภาพของ ๒ ประเทศที่เชื่อมสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ ทำให้พี่น้องของ ๒ ประเทศ ได้ทำมาหากิน อย่างเป็นล่ำเป็นสัน มีความก้าวหน้ากันทั้งภาคประชาชนและรัฐบาล
ทาง ฝั่งไทย ห่างจากชายแดนประมาณ ๓ กิโลเมตร เป็นสถานที่ตั้งของทหารพรานหน่วยที่ ๒๖๐๙ ส่วนทางด้านเขมรนั้น มีอาคารตระหง่านอยู่ ๑ หลัง เป็นสถานที่ตั้งของบ่อนกาสิโนกับรีสอร์ทเพื่อจะใช้เป็นที่พักในกรณีค้างแรม ชื่อ “โอเสม็ด รีสอร์ท” เลยจากเขตนี้ไป เป็นพื้นที่อันตราย ไม่ปลอดภัยที่จะก้าวย่างไปไหนโดยไม่มีการนำพา
เพื่อ ให้เรื่องราวกระชับเข้า ขอเรียนให้ทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากเขมรรุกรานไทย แต่ปัญหาเกิดจากไทย ๒ เรื่อง ดังนี้ (๑) ประเทศไทยต้องการปราสาทพระวิหารคืน จึงตั้งม็อบทวงคืนประสาทพระวิหารและยุให้ทหารทำการรบ ฝ่ายทหารหลงเชื่อม็อบ เอาทหารไปแหย่ตามชายแดนจนเกิดเรื่อง และ (๒) ประเทศไทยดำเนินการผิดพลาดด้านการเมืองอย่างหนัก มีเสื้อแดงทรงพลังเกิดขึ้น ทั่วประเทศ จึงต้องการ “ก่อสงคราม” เพื่อจะเปลี่ยนหัวใจของประชาชนให้หันเหจากเสื้อสีแดง มาต่อสู้เพื่อการรักษาดินแดน-อ้างว่าเพื่อรักษาสถาบัน ?!
คน กำพูชาระดับมีการศึกษาให้เล่าเรื่องการเอาประสาทพระวิหารคืนจากเขมร ว่า ประเทศไทยเสียปราสาทพระวิหารโดยการตัดสินของศาลโลกเมื่อปี ๒๕๐๕ แล้วจะมาเอาคืนโดยการใช้กำลังทหารรบเพื่อจะชิงเอาดื้อๆมันจะเป็นไปได้ อย่างไร ถ้าทหารไทยคิดทำแบบนี้ ทหารไทยโง่ตายห่า แล้วมีคำถามว่า ทำไมไม่ทำตั้งแต่สมัย แรกๆ ปล่อยให้มันค้างเติ่งอยู่ทำไมเกือบครึ่งร้อยปี คนกัมพูชาท่านนั้นบอกต่อไป ว่าถ้าฝ่ายไทยอยากได้คืนก็ต้องไปยื่นฟ้องเอากับศาลโลกซีว้อย ถ้าศาลโลก พิพากษาให้เป็นของไทยได้อีกครั้งประเทศไทยก็จะได้คืน สะบายเฉิบไปเลย
วิธี การมันน่าจะเป็นแบบนี้ อย่ามาใช้วิธีการแบบข่มขู่คุกคามแบบนักเลงไม่มี วัฒนธรรม เห็นประเทศเขมรเป็นเบี้ยรองบ่อนหรือไง จึงพากันทำแบบนี้ การทำแบบนี้ไม่มีทางที่ประเทศเขมรจะยอมแพ้ได้เลย ขืนยอม แพ้ สมเด็จฮุนเซ็นก๊เสียคนเป็นแมวไปเลยนะซี
แล้ว ก็...พวกอำมาตย์พากันสร้างปัญหาให้การเมืองไทยแตกปริขึ้นมาเอง จนเกิดเสื้อ แดงเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วคิดจะทำสงครามเอามาเปลี่ยนกระแส มันไม่สำเร็จดอกคุณ เพราะ ว่าสงครามเป็นเรื่องของทหารกับทหาร ไม่ใช่เป็นเรื่องของประชาชนกับประชาชน ทางเขมรอ่านปัญหาของประเทศไทยออกละเอียดยิบนะจะบอกให้ เช่น...การเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ปีนี้ ถึงยังไงก็ไม่อาจทำให้คนเสื้อแดงสงบขึ้นมาได้ เพราะจะมีการโกงการ เลือกตั้งสะบั้นหั่นแหลก จะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศ ไทย ถ้าสมมติว่าพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้ง อย่าคิดว่าเรื่องจะเงียบ เพราะ คนไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ที่แท้จริง ก็จะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก หรือว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะลอยลำ นึกหรือว่าจะได้รับความสะดวก เนื่องจากตัวเองมอมแมมไปจนหมด ดีแต่พูด หนี้สินพะรุงพะรัง แถมพวกอำมาตย์ไม่รู้ตัวเองว่าบ้านเมืองมีปัญหา ก็จะพากัน “หาเรื่อง” ตามสันดานยังไงล่ะ
ผมถามว่า ทางประเทศเขมรรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน ?? ช่วยตอบด้วย ??!
คนกัมพูชาตอบว่า ประเทศไทยเอาคนบ้ามาเป็นตัวก่อกวน กวนอยู่ได้ตลอด ๓ ปี ๔ ปี โดยเรียกตัวเองว่าพันธมิตร สันติอโศก กองทัพธรรม พระบ้าที่ไหนกระหายสงครามยิ่งกว่านโปเลียน พูดไปแล้วไม่อยากเชื่อประเทศไทยยอมให้ “มหาโจรโพธิรักษ์อ้างพระศาสนา” เอามาเล่นละครการเมือง ปั้นพลตรีจำลอง ศรีเมืองขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ร่วมมือกับ “สนธิ ลิ้มทองกุล” จอมกะล่อน เจ้าของสื่อ ทั้งวิทยุ ทีวี และหนังสือพิมพ์ และร่วมกับอดีตนายพลเอกในกองทัพไทยหลายคน กล่าวหา “สมเด็จฮุนเซ็น” แบบสุนัขไม่รับประทาน ด่าเช้าด่าเย็น ด่าด้วยคำหยาบหาที่เปรียบมิได้ ด่แบบสาดเสียเทเสีย ยังกะโกรธแค้นกันมาร้อยชาติพันบาท โดยเฉพาะพลเอก ปรีชา ประกาศจะเหยียบกรุงพนมเปญภยใน ๓ วัน แล้วจะตัดหัวฮุนเซ็น เอาเลือดมาล้างตีน นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายก ษิต ภิรมย์ เสริมความหยาบช้าระดับชาติเข้าไปอีก มันยิ่งเป็นการ “เหยียบหยาม” คนสำคัญของประเทศเขมรแบบไม่มีวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่เลย การกระทำแบบนี้ มันหมายถึงของ ๒ สิ่งกำลังเกิดขึ้นกับคนเขมร

[img]เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Domain-f4eb7fe33c[/img]

(๑) ถ้าเขมรยังไม่รู้จักเจ็บ...เขมรก็จะเป็นเสมือนหมาข้างถนน
(๒) ถ้าเขมรยังเป็นคน ...มันต้องมีการรักษาศักดิ์ศรีให้สมกับได้เกิดเป็นคน
ดัง นั้น เมื่อพูดถึงสงคราม เขมรพร้อมแล้วที่จะรบ จะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยเอาฝ่าเท้าเหยียปากแล้วเอาอุจจาระอุดจมูกจนหายใจไม่ ออก จึงขอบอก “คุณสอาด” ผ่านไปยังพันธมิตรและสันติอโศกว่าอย่าเหยียบหยามคนเขมรแบบป่าเถื่อนไร้ เหตุผล พวกพันธมิตรกับสันติอโศกทำแบบนี้ มันอันธพาลหมาบ้าดีๆนี้เอง ถ้าไม่เชื่อไปเปิดทีวี เอเอสทีวีดู ไปอ่านหนังสือพิมพ์ของพวกมันดู มันทำกับเราจนจำเป็นจะต้องลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรี
ผมถามต่อไปว่า “อ้าว...พูดแบบนี้ หมายถึงจะเกิดสงครามใช่ไหม ??!”
“คนเขมรเตรียมตัวเข้าสู่สมรภูมิแล้ว” เขาตอบโดยไม่อ้อมค้อม “ถ้าจะมีสงคราม ก็ต้องมีการประกาศโดยรัฐบาล” ส่วนทางพวกเราได้ระดมหนุ่มสาวเตรียมฝึกอาวุธรอ ประกาศเมื่อไหร่ รบเมื่อนั้น ว่าแล้วก็แสดงอาการเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
ผมถามต่ออีกประโยค...”ไทยใหญ่ เขมรเล็ก...ยังกล้าคิดสู้อยู่หรือ ?
เขาหัวเราะหึ..หึ...? ไม่ตอบคำถามทำให้ผมไม่อยากถามต่อ เพราะตระหนักอยู่แก่ใจกับคำว่า “ศักดิศรี” มัน มีความหมายถึงขั้นต้องยิงปืนใหญ่ บีเอ็ม ๒๑ จากกปืนใหญ่แคนของรัสเซีย ตกใส่หลังคาบ้านผู้ใหญ่พรชัย จงกฏ พังไปทั้งหลัง ซึ่งกำลังจะเขียนในโอกาสต่อไปพร้อมกับมีภาพประกอบ
หมายเหตุ ผมมีภาพถ่ายหลายภาพ จะเอามาแสดงให้ดู รอให้ผมกลับจากช่องจอมก่อน กลับถึงกรุงเทพเมื่อไหร่ จะรีบเขียนทันที
“สอาด จันทร์ดี”
E-mail:saard.chandee@yahoo.com


lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Empty ไทยเป็นตัวปัญหาในอาเซียน

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Sun May 15, 2011 7:01 am

ไทยเป็นตัวปัญหาในอาเซียน

[img]เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Domain-5f7634b8b4[/img]

ไม่มีใครจะปฏิเสธได้ว่า ท่าทีของรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับ กัมพูชาทำให้ประเทศไทยถูกมองไปในทางลบในสายตาของสมาชิกอาเซียนและประชาคมโลก ในขณะที่กัมพูชาสามารถสร้างภาพให้ต่างประเทศเห็นว่าเป็นฝ่ายที่รักสันติและ ปฏิบัติตามพันธกรณีและกฏหมายระหว่างประเทศ ความล้มเหลวของการทูตไทยดังกล่าวนี้ นับได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่ชอบวางตัวเป็นศัตรูกับทุกประเทศ
นับตั้งแต่สหประชาชาติได้มอบหมายให้อินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเพื่อให้บรรลุถึงการ คลี่คลายปัญหาการขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ประเทศไทยได้แสดงท่าทีที่บ่าย เบี่ยงอย่างเห็นได้ชัด ในลักษณะทีเล่นทีจริง หรือไม่ยอมให้ความร่วมมือกับอินโดนีเซียอย่างดื้อ ๆ อีกทั้งไม่ยอมให้ผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาทำหน้าที่ในพื้นที่ของไทย ตามแนวชายแดนฯ โดยตั้งแง่นานาประการเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงฯ ในทางตรงกันข้าม ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงท่าทีผ่อนปรนและยินยอมให้ความร่วมมือกับอินโดนีเซียในการ ไกล่เกลี่ยกรณีข้อพิพาทฯ โดยอ้างว่าตนต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทฯ อย่างสันติบนพื้นฐานของกฏหมายระหว่างประเทศและตามเจตนารมย์ของกฏบัตรอาเซียน รวมถึงสนธิสัญญาและความตกลงที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ไทยยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับการยอมรับการไกล่เกลี่ยของ อินโดนีเซีย กัมพูชาได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการยอมให้ความร่วมมือแก่อินโดนีเซียที่จะส่ง ผู้สังเกตการณ์เข้ามาในบริเวณปราสาทพระวิหารตามมติของสหประชาชาติ เมื่อ อินโดนีเซียได้จัดทำข้อตกลงเพื่อกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้สังเกตการณ์หรือ TOR เสร็จ แล้ว กัมพูชาได้ทำหนังสือยินยอมเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคมเพื่อให้ข้อตกลงฯ มีผลใช้บังคับ ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่ยอมรับข้อตกลงฯ และยังตั้งเงื่อนไขอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาชิกของอาเซียนและประชาคมโลกรู้สึก เบื่อหน่ายและมองไปว่าประเทศไทยไม่มีเจตนาที่จะแก้ปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับ กัมพูชาอย่างจริงจังตามกระบวนการของอาเซียนและข้อมติของสหประชาชาติ แม้ กระทั่งรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของมาเลเซียก็หมดความอดทนต่อไทยและได้ออก มากล่าวหาว่าไทยว่าละเมิดข้อตกลงเรื่องการส่งผู้สังเกตการณ์ไปยังพื้นที่ข้อ พิพาทฯ

[img]เจาะข่าวลึก!!ในเขมร โดย อ. สอาด จันทร์ดี Domain-5841e5097d[/img]

การเจรจาในระดับทวิภาคีน่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาระหว่างประเทศที่ได้ผลที่ สุด แต่จนถึงปัจจุบัน การเจรจาแบบทวิภาคียังไม่มีผลคืบหน้าแต่ประการใด ในขณะที่ทหารไทยและคนไทยต้องสังเวยชีวิตจากการปะทะกับกองกำลังฝ่ายเขมรตาม แนวชายแดนฯ นอกจากนี้ รายงานการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาทั้ง ๓ ฉบับก็ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายไทยเนื่องจากปัญหาภายในของไทยเองและ ข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญของปี ๒๕๕๐ ซึ่งระบุว่ารัฐสภาต้องให้ความเห็นชอบในหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ เมื่อการเจรจาในระดับทิวภาคีไม่ได้ผลหรือไม่คืบหน้า ไทยก็ควรจะใช้ช่องทางอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการไกล่เกลี่ยโดยประเทศที่สามหรือการเจรจาในระดับพหุภาคีในขอบ เขตที่จำกัด เพื่อมิให้ข้อพิพาทปานปลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศจนศาลโลกต้องเข้ามาเกี่ยว ข้อง อาเซียนเองก็มีกลไกสำหรับการแก้ไขข้อพิพาทในระดับภูมิภาค เช่น สนธิสัญญา Amity and Cooperation, ASEAN Regional Forum, สถาบัน เพื่อสันติและความสมานฉันท์ และการประชุมสุดยอดของอาเซียน ซึ่งประเทศไทยอาจจะใช้ให้เป็นประโยชน์ได้เพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

โดย ดร.พิทยา พุกกะมาน
อดีตเอกอัครราชทูต

lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ