GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Thu Mar 24, 2011 2:29 pm

เรื่อง "เปิดใจ เรียนรู้ รับฟัง ชั่งใจ.."
23 March at 19:29 น.

ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่มุ่งสร้างให้เกิดความสามัคคีของคนในชาติ ให้ทุกคนมีสิทธิคิดอ่านและกระทำการอย่างเสรี ตามสิทธิที่ตนมีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน โดยที่สิทธินั้นไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น วันนี้ผมกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจยิ่งนักและกังขาว่าคนไทยกำลังหลงทางอยู่หรือไม่

ทั้งที่ความหลากหลายทางความคิดคือ ความสวยงามของประชาธิปไตยแท้ๆ แต่คนไทยบางกลุ่มบางคนยังไม่เข้าใจ พอมีคนเห็นต่างกลับไม่เปิดใจรับฟังและแสดงอารมย์ขับไล่กล่าวหาว่าเป็นคนสีอื่นเช่นนี้ก็ต้องถามว่า การที่บังคับให้ทุกคนเห็นเหมือนกับที่เราคิดเสมอสิ่งนี้เรียกว่า ประชาธิปไตยหรือเผด็จการกันแน่

แน่นอนว่าประชาธิปไตยสอนให้เราเคารพเสียงส่วนใหญ่ไม่ดูถูกเสียงส่วนน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ให้สิทธิใครเหนือกว่าคนอื่นถึงขนาดชี้นกเป็นไม้ไม่ เพราะประชาธิปไตยสอนให้รู้จักเข้าใจ ยอมรับ และเคารพกติกาสังคม การใช้มวลชนไม่ว่าน้อยหรือมากเพื่อกดดันหรือเคลื่อนไหวจึงต้องชั่งใจว่า การใช้สิทธิเพื่อเรียกร้องนั้นไปละเมิดสิทธิอันชอบธรรมของผู้อื่นด้วยหรือไม่ นั่นคือเจตจำนงค์อีกประการของประชาธิปไตยที่พยายามสอนให้คนในสังคมเดียวกันรู้จักอาทรต่อกันไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่แล้วเรียกร้องให้คนอื่นเสียสละโดยไม่เคยถามว่า เขาต้องการเช่นนั้นไหม

ทุกวันนี้ประเทศไทยเข้าใกล้กับระบอบประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใดไม่ใช่ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ออกมาชุมนุม แต่ทว่ามันขึ้นอยู่กับการจัดระบบในการเคลื่อนไหวให้เป็นประชาธิปไตยตั้งแต่แรกต่างหาก สิ่งนี้จึงจะเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยแท้ เพราะหากจะพูดให้เข้าใจโดยง่ายเราไม่สามารถสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงจากการดำเนินการแบบเผด็จการชนิดยึดถือแกนนำเป็นแม่ทัพสั่งไปไหนคนต้องทำตาม หากคิดต่างจะกลายเป็นพวกนอกคอกอย่างนี้เห็นที่จะไม่ใช่

เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงพอเห็นภาพว่า ณ วันนี้ไม่ว่าคนเสื้อเหลืองหรือคนเสื้อแดง สิ่งที่กระทำต่อกันคือการสร้างความเกลียดชังตั้งแง่ การขับเคลื่อนของแกนนำปลุกเร้าให้ต่างฝ่ายต่างเห็นกลุ่มตนดีเห็นคนอื่นด้อย เมินคำติที่ค้านแนวคิดที่ถูกฝังหัวมาโดยไม่สนใจเจตนาและแปลความผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นศัตรู สิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายคำว่า ประชาธิปไตย ด้วยมือของตนเองโดยแท้

สุดท้ายเราก็ได้แต่ตีอกชกตัว พล่ำบ่นว่าด้อยกำลังต่ำต้อย และโดยโบ้ยความผิดที่ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไตยเต็มใบสาเหตุเพราะอำมาตย์ ข้าราชการ นักการเมืองชั่ว หรือคนกลุ่มอื่นๆ เป็นต้น แต่ไม่เคยมองในสิ่งที่ตนทำเลยว่า ที่แท้แล้วเราก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำร้ายประชาธิปไตยด้วยเช่นกัน

นี้อาจเป็นโจทย์ใหญ่ที่แกนนำทั้งหลายและเราท่านทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ต้องเร่งทำการแก้ไขเพื่อไม่ให้การขับเคลื่อนที่บริสุทธิ์ของประชาชนถูกมองไปว่าเป็นเพียงหมากเพื่อใช้กดดันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ เพราะหากเราไม่แก้ที่จิตสำนึกก่อนแล้วมามุ่งแก้แต่ระบบหรือกฎหมายหรือแม้แต่คาดหวังกับตัวบุคคลประเภทฮีโร่ผู้กอบกู้สถานการณ์แล้ว ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆได้

ตราบเท่าที่เรายังไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่เราเรียกร้องดีพอ บางทีตัวเราเองอาจเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายมันอยู่ก็เป็นได้...


ขอบคุณที่มาบทความ: นักวิชาการ ลูกพ่อฯ on FB
https://www.facebook.com/?page=1&sk=messages&tid=1683381325183


แก้ไขล่าสุดโดย goosehhardcore เมื่อ Sun Apr 24, 2011 5:04 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty Re: updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sat Mar 26, 2011 7:24 pm

รีดเลือดกับปู...

รัฐบายโดยการเสนอของรมตแรงงานประกาศกร้าวอ้างบอกจะช่วยประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำให้ได้รับสิทธิประกันสังคมที่มีคุณภาพ โดยผุด พ.ร.บ.ประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อให้ผู้มีอาชีพรับจ้างหาเช้ากินค่ำได้มีสิทธิโดยไม่บังคับที่จะเข้าร่วมรับประกันสังคมโดยการส่งเงินเข้ากองทุนเช่นกับมนุษย์เงินเดือน

เมื่อเราศึกษาข้อมูลจะพบว่า ประกันสังคมใช้งบประมาณจากเงินที่ได้จากเงินประกันสังคมที่เก็บจากทั้งผู้ประกอบการและพนักงานไปกับกองทุนสุขภาพฯ ทั้งที่คนไทยตั้งแต่เกิดก็ได้รับสิทธิจากโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรคเดิมอยู่แล้ว เหตุใดจึงต้องตั้งกองทุนซ้ำซ้อนและทุ่มงบประมาณส่วนใหญ่จากเงินที่เก็บได้จากประกันสังคม เพื่อใช้จ่ายในโครงการฯนั้นด้วย และยิ่งสภาพการรักษาหรือแม้แต่กระทั่งยาที่ได้รับจากการรักษากับแพทย์ในโครงการฯดูจะด้อยคุณภาพกว่าสปสช.เสียอีก

คำถามจึงเกิดขึ้นในใจผมว่า เหตุใดรัฐบายไม่โยกเงินก้อนใหญ่ที่ประกันสังคมอ้างว่าใช้ไปกับการรักษาที่เป็นโครงการซ้ำซ้อน และด้อยคุณภาพอย่างกองทุนสุขภาพของประกันสังคม แล้วนำเงินมหาศาลส่วนนั้นมาสมทบในส่วนอื่นเช่น เพิ่มสิทธิให้ผู้ที่ตกงานได้รับสิทธิตามวงเงินที่ควรจะได้รับ เช่น 50%ของเงินเดือนจริงไม่ใช่ 50% ของเงินเดือนแต่เพดานเงินเดือนต้องไม่เกิน 15,000 บาท หรือเพิ่มเงินบำนาญ เป็นต้น

วันนี้การใช้จ่ายกองทุนประกันสุขภาพถูกใช้ไปกับค่ายา ซึ่งข้อเท็จจริงพบว่าผลิตจากองค์กรเภสัชฯถึง 80% แต่ทว่าก็ยังต้องใช้จ่ายกันเป็นพันล้าน ตรงนี้ก็ต้องฉุกคิดให้ดีสำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมรับสิทธิในมาตรา 40 ที่ไม่ได้ถูกบังคับให้ต้องจ่ายเช่นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปว่า จะหลงกลเอาเงินที่ท่านต้องเสียเหงื่อแลกมาไปถวายกับเหลือบไรได้สวาปามกันจนพุงกางหรือไม่ เพราะแม้ไม่ได้เข้าร่วมฯก็ยังได้รับสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งก็มีคุณภาพในเกณฑ์ที่ดีอยู่แล้ว หรือแม้แต่เรื่องสิทธิอื่นๆก็ต้องชั่งใจว่าเงินที่ต้องจ่ายไปนั้นคุ้มค่าสมราคาคุยที่รัฐมนตรีxxxโอ้อวดไว้ไหม ..?

สำหรับผม พ.ร.บ.ประกันสังคม มาตรา 40 ไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและสวัสดิการสังคมที่ดีอย่างที่ท่านรัฐมนตรีโฆษณาไม่ ในทางกลับกันกลับเป็นเพียงการดึงเงินจากกระเป๋าผู้ใช้แรงงานที่มีน้อยอยู่แล้วมาเติมในโครงการที่ไร้คุณภาพ

พฤติการณ์ของรัฐบาลที่ทำนั้น เปรียบเหมือนพวกปลิงกระหายเลือดจนน่ามืดตามัวคิดแม้กระทั่งจะรีดเลือดกับปู ซึ่งผมเองทนสังเวชใจไม่ได้เลยต้องนำเรื่องมาชี้แจงเพื่อให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้ฉุกคิดและพิจารณากัน ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคลแล้วกันว่า จะเข้าร่วมสังฆกรรมแล้วตกเป็นเหยื่อโครงการฯที่มีการหมกเม็ดไร้ความจริงใจและไร้ประโยชน์เช่นนี้หรือไม่
https://www.facebook.com/?page=1&sk=messages&tid=10150218565407598
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty Re: updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Wed Mar 30, 2011 6:32 pm

พ่อแม่รังแกฉัน...

วันนี้รัฐบาลกำลังพยายามเสนอแนวคิดการเพิ่มรายได้ให้ทัดเทียมกับรายจ่าย ซึ่งแนวคิดเช่นนี้ จะใช้ได้ดีกับกลุ่มที่มีช่วงชั้นของรายได้ที่ทัดเทียมกัน ซึ่งก็มักจะเป็นผู้มีรายได้ประจำมั่นคงหรือชนชั้นกลางขึ้นไปเท่านั้น แต่ทว่ารัฐบาลกลับประกาศใช้กับสังคมในภาพรวม และพยายามใช้นโยบายนี้จูงใจชนชั้นล่าง ตรงนี้อาจกลายเป็นหลุมขวากที่จะดักให้ผู้ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวตกลงไปตายได้โดยง่าย

การเพิ่มเงินในกระเป๋าโดยหลักของรัฐบาล เป็นการนำเงินมาให้ประชาชนใช้โดยใช้ทุนจากงบประมาณรัฐ ทั้งการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การเพิ่มวงเงินการกู้ยืมต่างๆ การลดดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาระที่รัฐบาลต้องเข้าไปแบกรับไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้ก็จะกลายเป็นการใช้งบประมาณเพื่ออุ้มประชาชน(ประชานิยม) คงต้องคิดกันให้รอบคอบว่า เรามีเงินงบประมาณเหลือให้ถลุงมากมายขนาดนั้นหรือไม่

การดำเนินนโยบายครั้งนี้ หลายคนคงชอบใจเพราะเป็นการสร้างการช่อทางการเข้าถึงเงินทุนของประชาชนได้ง่ายมากขึ้น แต่ในทางกลับกันก็เป็นการทำลายวินัยทางการเงินของประชาชนไปด้วยในตัว การดำเนินนโยบายเช่นนี้จึงกลายเป็นลักษณะเหรียญสองด้านในทันที ด้านหนึ่งอาจทำให้ภาคประชาชนเกิดแรกกระตุกและเพิ่มการเจริญเติบโตในระระยะสั้นจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น แต่ทว่าอีกด้านภาครัฐก็จะต้องใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการนี้มากเช่นเดียวกัน

สิ่งที่เราจะได้รับหลังโครงการนี้สำเร็จคือ เราจะมีรัฐบาลผู้ใจบุญคอยเป็นซานตาครอสแจกเงินเมื่อประชาชนต้องการ และเราจะมีประชาชนในประเทศที่ไร้วินัยทางการเงินดูแลตัวเองไม่เป็นคอยแต่หวังพึ่งพิงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นนิจ ก็ต้องชั่งใจกันว่าอย่างใดคุ้มค่ากว่ากัน

หากวันนี้รัฐบาลบตั้งเป้าเอาไว้เพียงแค่เสียงในสภา การดำเนินนโยบายนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน แต่หากรัฐบาลคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วนและหวังดีกับประชาชนในประเทศอย่างจริงใจแล้ว ก็คงต้องชั่งใจกับการเลือกใช้ยุทธวิธีนี้ว่าเหมาะสมที่สุดไหม

เพราะจะกลายเป็นการสร้างลักษณะที่ถ่วงการพัฒนคุณภาพของประชาชน ที่จะละทิ้งการพึ่งพาตนเองตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไปเป็นการใช้เงินเกินตัวเพราะจะมีรัฐบาลคอยช่วยเหลืออุ้มชูอยู่เป็นนิจ จากที่คิดช่วยจะกลายเป็นการทำร้ายประชาชนทางอ้อมหรือเปล่าต้องชั่งใจกับสิ่งที่จะกระทำต่อไป อย่าให้กลายเป็นเรื่องพ่อแม่รังแกฉันก็แล้วกัน

ขอบคุณบทความจาก: นักวิชาการ ลูกพ่อฯ
30 03 2011

goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty Re: updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Mon Apr 18, 2011 7:03 pm

ภาพจำ..
18 April at 18:43

วันนี้ในวันรัฐบาลและนักวิชาการหัวเอียงทั้งหลายต่างออกมาบอกกล่าวอธิบายกับสังคมว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นเป็นการภายเรือในอ่าง ไม่มีอะไรใหม่ยิ่งทำยิ่งสร้างความแตกแยกให้สังคม และสมควรที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกันก้าวไปข้างหน้าเหมือนประหนึ่งให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาเพื่อวันข้างหน้าที่ดีขึ้น

แต่หากเราตั้งสติกับเรื่องนี้ดีๆเราอาจต้องผงะกับความคิดข้างต้นว่าช่างมืดบอดและโหดร้ายจริง เพราะอะไรหรือก็ด้วยเหตุที่ระบบยุติธรรมในระบอบประชาธิปไตยนั้นมีสมมุติฐานอยู่ที่มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน เมื่อมีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดคนผู้นั้นมีสิทธิที่จะแก้ต่าง ซึ่งเขาจะผิดจริงก้ต่อเมื่อมีการพิสูตรว่ากระทำผิดตามข้อกล่าวหาจริงๆ

จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่ผ่านมา ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้นออกมาบอกว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง ประหนึ่งว่าเขาเป็นผู้ที่สมควรตายตกไปตามโทษานุโทษก็ไม่ปาน คำถามจึงเกิดในใจผมว่า แล้วใครเป็นผู้ตัดสินว่าเขาเหล่านั้นผิดจริง ศาลใดพืจารณาโทษให้ประหารชีวิตคนเหล่านั้น ทั้งที่ยังไม่ได้มีการไต่สวน หรือแม้แต่เปิดโอกาสให้เขาได้แก้ต่างข้อกล่าวหา เชนนี้การที่ทหารใช้อาวุธยิงใส่ประชาชนนั้นถูกแล้วหรือ

อีกประการจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหากผู้นำเดหล่าทัพทำตัวนิ่งเฉยแบบตอนที่นายกสมชายสั่งให้สลายคนเสื้อเหลืองอยู่ในกรมกองถามว่าวันนี้จะมีคนตายหรือไม่ แล้วเหตุใดทำไมผู้นำเหล่าทัพกลับไม่ยอมนิ่งเฉยเหมือนก่อน ทำไมเลือกลงโทษคนให้ตายทั้งที่เป็นเพียงการตัดสินจากความรู้สึกที่ไร้ซึ่งข้อกฎหมายรองรับ

ถุกที่วันนี้ประเทศไทยต้องเดินไปข้างหน้าอย่างที่หลายึคนออกมาเรียกร้อง ทว่าเราจะเดินไปบนกอซากศพของเพื่อร่วมชาติที่ถูกละเมิดสิทธิบิดบือนระบบยุติธรรมตั้งศาลเตี้ยตัดสินคนแล้วซ้ำร้ายยังพยายามชี้ให้คนอื่นเห็นว่าสิ่งที่ทำสมควรแล้วด้วย

กับเมืองพุทธอย่างประเทศไทยภาพลักษณ์ขิองการเมตตาหายไปไหนจากใจคนพวกนี้ หากวันนี้ผู้ที่เสียชีวิตเป็นญาติพี่น้องเราจะยอมให้มันผ่านไปได้ไหม จะบอกว่าสมควรแล้สไหม ถ้าไม่ก้อย่าปล่อยใหเรื่องนี้กลายเป็นฝุ่นควันอีกเลย เราควรเดินหน้าแต่ก่อนจะเดินปต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับผิดกับสิ่งที่กระทำด้วย หากใครผิดก็ลงโทษนั่นจึงสมควรแก่กาล ไม่ใช่แค่ลืมๆมันไป
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty Re: updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Thu Apr 21, 2011 12:20 pm

ปิดทุกทาง...20 April at 17:20

ในช่วงที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังสนใจถึงวิธีการเดินหมากทางการเมืองของกลุ่มขั้วอำนาจอย่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ รวมถึงขั้วใหม่ที่ประกาศตัวเป็นทางเลือกใหม่ที่ยึดแนวทางของผู้ที่มีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะอย่างภูมิใจไทยและพวก ทว่าในอีกมุมของสังคมยังคงมีการเคลื่อนไหวที่น่าสังเกตุอยู่

หลังจากที่ผลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคการเมืองที่มีผลทางจิตวิทยาต่อการเลือกตั้งของประชาชนกลุ่มที่กำลังอยู่ในขั้นตัดสินใจ(หรือที่นักวิชาการรู้จักกันในนามกลุ่มตามกระแส) เมื่อผลการสำรวจปรากฎว่าเพื่อไทยได้คะแนนนิยมสูงกว่าคู่แข่งทั้งสองกลุ่ม และเป็นไปได้ว่าเมื่อมีการเลือกตั้งจะมีการพลิกขั้วจนทำให้เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล เช่นนั้นเรื่องราวที่เคยเงียบหาย อธิเช่น การสืบค้นความจริงกรณีคำสั่งเกินกว่าเหตุในการสั่งใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมมือเปล่าจนทำให้มีผู้เสียชีวิต การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยการล๊อคผลการตัดสินให้เอื้อประโยชน์แบบค้านสายตา ฯลฯ ใครสั่งการใครอยู่เบื้องหลังเราจะได้เห็นแอ๊คชั่นกันในไม่ช้า

ไม่ทันขาดคำ แม่ทัพใหญ่ประยุทธ์ก็รีบใช้อาวุธร้ายแรงงัดไม้ตายขั้นสุดยอดที่ได้รับตกทอดมารุ่นสู่รุ่นจากแม่ทัพนายกองยุคโบราณ เพื่อดึงกระแสความนิยมที่กำลังพุ่งของเพื่อไทย จากการบริหารประเทศแบบเด็กฝึกงานของประชาธิปัตย์ให้ตกลงมา ด้วยการกล่าวหาการปราศัยของแกนนำเสื้อแดงวันที่ 10 เมษายน 2554 ที่ผ่านมาเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยให้ทหารพระธรรมนูญเป็นผู้เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แปลกตรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจผุ้เป็นผู้ติดตามและถอดเทปการปราศัยกลับไม่ได้เป็นคนเกระทำการฟ้องร้องครั้งนี้

และยังมีการรับลูกด้วยการที่ให้โฆษกไก่อูแถลงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นสิ่งไม่บังควรพร้อมทั้งโยงใยว่าเรื่องนี้น่าจะมีใบสั่งให้แกนนำกระทำการ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการปราศัยนี้ เพราะมี ส.ส.ระบบรายชื่อของพรรคเข้าร่วมและปราศรัยด้วย จุดประสงค์โจ่งแจ้งที่ทำก็เพื่อดึงให้สังคมคล้อยตามว่าเพื่อไทยไม่จงรักภักดี ที่กระทำเพียงเพื่อจะช่วยนายเก่าเท่านั้น

ไม่เท่านั้นนายกรัฐมนตรีผู้นำฝ่ายบริหารก็ออกมารับเสริมจากทหาร รีบชี้ว่าไม่เป็นการบังควรหากพรรคการเมืองใดจะพูดจาหรือกล่าวอ้างสถาบันกดดันให้ ก.ก.ต.ที่เป็นลูกไล่ต้องประกาศออกระเบียบเลือกตั้งที่ห้ามกล่าวถึงสถาบันเพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันอันสูงสุดของประเทศ เรียกว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวสอยคู่แข่งทั้งเพื่อไทยที่จะถูกสังคมมองว่าไม่ภักดี และกันท่าภูมิใจไทยไม่ให้เอากระแสความภักดีซึ่งเป็นจุดแข็งมาหาเสียง

ท่วงทำนองการเคลื่อนไหวภายนอกทำให้กระแสสังคมสงสัยว่าการปราศัยนั้นจาบจ้วงและหมิ่นสถาบันจริงหรือไม่ แต่ด้วยกฎหมายที่ห้ามทำซ้ำหรือเผยแพร่ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถรับรู้ข้อทเจจริงได้ สุดท้ายก็หลงเชื่อกับคำกล่าวหาจนรู้สึกว่ามันคือเรื่องจริงโดยปริยาย

ยิ่งเสริมด้วยการระส่ำในพรรคเพื่อไทยที่ถูกโยกจากการลาออกของขุนศึกอย่างบิ๊กจิ๋ว และตามมาด้วยการแบะท่าจะหนีภัยจากการยุบพรรคของ ส.ส.กระต่ายตื่นตูมบางรายทำให้หลายคนคาดว่าคะแนนนิยมของเพื่อไทยหลังเหตุการณ์นี้อาจะตกลงมาจนสุดท้ายแพ้การเลือกตั้งได้ในที่สุด

แต่แม้ว่าผลการเลืกตั้งจะไม่ออกมาอย่างที่ผู้มีอำนาจฝ่ายทหารต้องการ ก็เชื่อได้เลยว่า ไม้ตายที่ทิ้งเชื้อไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ข้อกล่าวหาเรื่องการไม่ภักดีและคิดล้มล้างสถาบันจะถูปกนำมาอ้างเพื่อใช้เป็นเหตุผลสำคัญในการที่ทหารจะออกมาล้มกระดานอีกครั้ง เรียกว่าครั้งนี้ผู้มีอำนาจได้กันเอาไว้ทุกทางแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมในทุกวันนี้...
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42  Empty Re: updateบทความนักวิชาการ ลูกพ่อฯ : ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ 24 April at 16:42

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Sun Apr 24, 2011 5:03 pm

ดีระดับจังหวัด แต่เลวระดับประเทศ
24 April at 16:42

พูดถึงเรื่องการเลือกตั้ง ก็มีคำถามกับกรณีที่ว่าจะเลือก ส.ส.เขตกันอย่างไรดี จะเลือกที่ตัวบุคคลหรือจะเลือกที่พรรคที่ ส.ส.นั้นสังกัดดี จริงๆถ้าบ้านเมืองเราอยู่ในสถานการณ์ปรกติ จะเลือกแบบไหนก็ได้ตามสบาย ทว่าในสภาพที่ประเทศไทยดีแต่เปลือกนอกแต่เน่าในอย่างนี้ วันที่ประเทศต้องการผู้มาแก้ไขวิกฤตทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม ฯลฯ และยิ่งใกล้ช่วงเลือกตั้งเข้ามาทุกทีแล้ว ผมจึงต้องรีบหยิบยกเรื่องนี้มาเพื่อชี้แจงให้เข้าใจกันเพื่อเป้นแนวทางในการช่วยตัดสินใจ

หลักคิดว่า เราจะเลือกแบบไหนดีระหว่างตัวบุคคลกับพรรคนั้น เกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตยมาช้านานแล้ว หากเป็นคนดีอยู่พรรคดีทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าเป็นคนดีอยู่พรรคแย่หรือเป็นคนแย่อยู่พรรคดีเราควรเลือกใครดี แล้วคนไหนจะดีกว่ากันเป็นคำถามโลกแตกที่คงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเลือกแบบใดดีกว่า แต่น่าจะพอตัดสินใจได้ว่าอะไรเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองมากกว่ากัน

บางคนที่เจอสถานการณ์เช่นนี้คงเลือกที่จะโหวตโนทันที ทว่าหากการเลือกตั้งครั้งนี้ใครโหวดโนก็จะกลายเป็นฐานเสียงสมอ้างของกลุ่มพันธมิตรฯทันทีโดยไม่สนใจว่าจะโหวตโนด้วยจุดประสงค์ใด เรียกว่า เป็นการเลือกตั้งที่กำหนดให้ประชาชนเลือกเพียง 3 หนทางใหญ่ๆ คือ 1.นปช.และเพื่อไทย 2.ประชาธิปัตย์และกลุ่มชนผู้มีอันจะกินทั้งหลาย 3.พันธมิตรฯเท่านั้น

หลักคิดสำหรับกรณีเลือกผู้แทนในภาวะที่บ้านเมืองประสบวิกฤตรอบด้านอย่างที่ประเทศไทยเจออยู่ตอนนี้ ควรเลือกที่พรรคเป็นหลักมากกว่าเลือกที่บุคคล เหตุเพราะหากเป็นพรรคการเมืองที่ดีการขับเคลื่อนนโยบายก็จะมีพลังสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตได้ ที่สำคัญเมื่อคิดนโยบายที่ดีได้แล้วพรรคก็ต้องเลือกคนที่ดีพอด้วยเพื่อให้ได้ ส.ส.เขตเข้ามาเป็นฐานเสียงมากที่สุด และแม้ผู้สมัครจะไม่ได้เป็นคนดีที่สุดในพื้นที่ แต่อย่างน้อยก็จะไม่ต่างจากคู่แข่งมากนัก เพราะยิ่งการแข่งขันสูงมากเท่าใดคุณสมบัติเฉพาะตัวของ ส.ส.ก็จะใกล้เคียงกันมากเท่านั้น จึงแนะนำให้เลือกที่นโยบายพรรคหรือเลือกคนจากพรรคที่ตนต้องการให้เขามาดูและบริหารประเทศจะเหมาะสมที่สุด

วันนี้ถ้าเราเลือกคนดีในสายตาเราเข้าสภา แต่ทว่าคนดีนั้นอยู่ในพรรคที่ไม่ได้สนใจดูแลประชาชนอย่างแท้จริง หรือไร้ฝีมือในการบริหารประเทศแล้ว ผลลัพธ์จะต่างอะไรกับการเลือกคนที่ไม่ดีมาเป็นผู้แทน เพราะถ้ารัฐบาลซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศเป็นคนควบคุมภาพรวมของเศรษฐกิจมหภาค ไม่สามารถปฏิบัตินโยบายเพื่อช่วยคนทุกชนชั้นให้ได้รับผลจากนโยบายบริหารตามแผนบริหารรัฐกิจได้แล้ว เศรษฐกิจจุลภาคจะไม่กลายเป็นจุลหรือ แล้วถ้าเช่นนั้นเราจะหวังอะไรได้กับ ส.ส.เขตเพียงคนเดียว กลับกันหากแม้เรามี ส.ส.เขตที่ไม่ได้เรื่อง แต่อยู่กับพรรคการเมืองที่ดี ดูแลประเทศด้วยนโยบายที่จับต้องได้ช่วยเหลือประชาชนจริงๆแล้ว แม้เขาจะแย่แต่ก็ต้องสนองนโยบายของพรรคที่เขาสังกัด เพราะนั่นคือการรักษาฐานเสียงที่ ส.ส.ทุกคนต้องกระทำ

คงถึงเวลาที่เราทั้งหลายควรช่วยกันออกไปรณรงค์ให้พ่อ แม่ พี่ น้องเรา เข้าใจความจริงข้อนี้ อธิบายถึงความจำเป็นว่าเหตุใดจึงต้องให้น้ำหนักการตัดสินใจเลือก ส.ส.ที่นโยบายพรรคที่สังกัดมากกว่าตัวบุคคล เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ถือได้ว่า เป็นตัวชี้วัดว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ต้องการให้ใครแก้ปัญหาประเทศที่สั่งสมมานานนับปี

แม้การเลือกตั้งจะไม่ใช่สูตรสำเร็จในการแก้ปัญหาแต่ก็เป็นเครื่องมือที่อยู่ในกติกาที่ถูกต้องที่ทุกคนควรจะใช้มันให้เป็นประโยชน์ และไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไรใครจะเลือกพรรคหรือเลือกบุคคลสิ่งนั้นล้วนเป็นสิทธิที่แต่ละคนพึงมี ส่วนผมเพียงชี้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านว่าจะนำไปคิดต่อเช่นไร
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ