GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

Go down

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  Empty "อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Mon Jan 31, 2011 7:51 pm



นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของนปช. เปิดเผยผ่านวีดีโอลิงค์จากประเทศญี่ปุ่น ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา สำนัำกงานทนายความของเขาได้ยื่นเอกสารฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว โดยเขาใช้ประเด็นที่นายอภิสิทธิ... ถือสัญชาติอังกฤษ เพราะเกิดที่ประเทศอังกฤษในปี 2507 มาใช้ในการยื่นฟ้อง

เนื่องจากอังกฤษ เป็นประเทศที่ให้สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุงโรม ของศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว ซึ่งตามกฎหมายสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่มีสัญชาติของประเทศที่ให้สัตยาบัน ได้ทันที

ส่วนเนื้อหาในคำร้องนั้นมี 250หน้า และนายโร เบิร์ต เปรียบเทียบการสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.คล้ายกับเหตุการณ์รุนแรงที่ประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน จากการฆาตกรรม การจับกุมผู้คน และความพยายามในการแทรกแซงพยานหลักฐาน เพื่อใส่ความทางอาญาผู้ชุมนุม

คำแถลงของ นายโรเบิร์ต ยังอ้างคำให้การของพยาน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ นายโจ เรย์ วิตตี้ อดีตจ่ากองทัพบก ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมฝูงชน สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ สวาท ของสำนักงานตำรวจแห่งนครลอสแอลเจิลลีส ซึ่งระบุว่า การปฏิบัติการของกองทัพบกไทย เมื่อวันที่ 19พฤษภาคม 2553เป็นการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์เพื่อจะได้ปราบปรามผู้ ชุมนุมกลุ่ม นปช.

ส่วนกรณีระเบิดสังหารทหารกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 10เมษายน ปีเดียวกัน นั้น อาจเป็นเรื่องที่ฝ่ายทหารก่อขึ้นเอง เพื่อเป็นข้ออ้างในการยิงปืนเข้าใส่กลุ่มประชาชนโดยฝ่าฝืนกฎการใช้กำลังของ กองทัพ นายโรเบิร์ต ยังกล่าวด้วยว่า การยื่นคำร้องครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่มีความพยายามรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนและเป็นระบบมาก ที่สุด เพื่อชี้ให้เห็นว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยความจงใจก่อให้เกิดความรุนแรงจนเกินกว่าที่จะรับ ได้ จึงต้องการคำตอบและต้องมีผู้รับผิดชอบก่อนหน้านี้

ขณะที่นายจตุพร กล่าวถึงข่าวการรัฐประหารในประเทศ โดยอ้างว่า ข้อมูลว่า มีอดีตนายทหาร ยศ นาวาอากาศตรี ไปร่วมวันทหารม้า ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงสงสัยว่าเป็นการซ่องสุมเพื่อการก่อการปฏิวัติหรือไม่
http://news.voicetv.co.th/thailand/3149-%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%8A.%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81.html


Ref: บทความของฟ้าอัสดง ฯ on FB
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  Empty Re: "อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Wed Feb 02, 2011 12:07 am

คดีถึงศาลอาญาโลกปิดล้อมสังหารหมู่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

“โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” แถลงข่าวจากญี่ปุ่นยื่นคำร้องศาลอาญาระหว่างประเทศสอบสวนการสังหารหมู่ใน ประเทศไทยแล้ว ชี้มีการวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อใช้กำลังกับผู้ชุมนุม แปลกใจที่คนตายและบาดเจ็บมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยแต่รัฐบาลยังอยู่ บริหารประเทศได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบ ประสานนักกฎหมาย 8 ประเทศที่มีคนมาเจ็บและตายในไทยยื่นฟ้องอีกหลายศาล ต้องประจานให้คนทั่วโลกได้รับรู้ ย้ำมีสิทธิฟ้องได้เพราะนายกฯไทยถือสัญชาติอังกฤษโดยการเกิด “อภิสิทธิ์” โต้ทำตามเงินว่าจ้าง ยันถือสัญชาติไทยอย่างเดียว ไม่ได้ถือสัญชาติมอนเตเนโกรเหมือน “ทักษิณ” ด้าน “เทพไท” หยันหวังชิงพื้นที่ข่าวมากกว่าหวังผลทางคดี

วันที่ 31 ม.ค. 2554 ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว เวลาประมาณ 11.00 น. นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. พร้อมด้วย รศ.จารุพรรณ กุลดิลก และ ศ.สุดา รังกุพันธุ์ ทีมนักวิชาการคนเสื้อแดง เปิดแถลงข่าวการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศเพื่อให้สอบสวนการสลายการ ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย. และ พ.ค. 2553 ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยมีการวิดีโอลิ้งค์แถลงข่าวของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม จากสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ มาจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ด้วย

สำหรับรายละเอียดคำร้องที่ยื่นต่อศาล ผู้สนใจติดตามอ่านได้ทางเว็บไซต์ www.robertamsterdam.om.thai ส่วนรายละเอียดคำให้การของประจักษ์พยานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีเผยแพร่ทางเว็บไซต์ www.thaiaccountability.org

สำหรับเหตุผลที่ยื่นต่อศาลอาญาระหว่างประเทศสรุปได้เป็นข้อๆดังนี้

กองทัพจงใจเข่นฆ่าผู้ชุมนุม

1.กองทัพจงใจสลายการชุมนุมด้วยการเข่นฆ่าประชาชน โดยเฉพาะแกนนำ เมื่อวันที่ 10 ม.ย. 2553

2.กองทัพจงใจสลายโดยเข้าสลายจากทุกจุดพร้อมกัน จงใจปิดล้อม จงใจฆ่าหมู่ ไม่มีช่องทางให้หนีออกไปได้

ตั้งทีมสไนเปอร์ยิงระยะไกล


3.เมื่อไม่สำเร็จก็ใช้สไนเปอร์ยิงจากระยะไกล มีการใช้สไนเปอร์อย่างเป็นทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคำสั่งให้ใช้สไนเปอร์เป็นทีมตั้งแต่วันที่ 10-19 พ.ค.

4.การใช้อาวุธต่างๆมีหลักฐานวิดีโอทั้งหมด ซึ่งเป็นวิดีโอจากกองทัพ

5.กรณีชายชุดดำ รัฐพยายามบอกว่าชายชุดดำคือคนเสื้อแดง แต่ไม่เคยจับชายชุดดำได้เลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่มีภาพข่าวและหลักฐานทางโทรทัศน์มากมาย

6.มีหลักฐานและพยานมากมายว่าผุ้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ

เร่งทำลายหลักฐานในวัดปทุมฯ

7.การทำลายล้างโดยทหารและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เกิดขึ้นจริง และมีการทำลายหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมดโดยรัฐ เช่น ที่วัดปทุมวนาราม ที่ทุบพื้น เทปูรอบโบสถ์ลบรอยกระสุนทิ้งทั้งหมด

8.มีหลักฐานในมือแล้วว่าคนเผาตึกเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่คนเสื้อแดง เป็นชายชุดดำที่เตรียมการทั้งชุดและอุปกรณ์อย่างดี โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือ

การพิจารณาคดีในไทยนานเกินไป

9.การพิจารณาคดีในประเทศไทยนั้นยาวนานเกินไป และหยุดนิ่งมานานเกินควรแล้ว

10.ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 เกิดสังหารหมู่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แต่ก็ไม่มีใครออกมาร้องขอความยุติธรรมให้กับคนกลุ่มนี้ คนกรุงเทพฯนิ่ง ปิดปากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเป็นหน้าที่ที่คนเสื้อแดงต้องลุกขึ้นนำคดีขึ้นสู่ศาลทุกศาลในโลกนี้

11.เหตุการณ์ปี 2516, 2519, 2535 ในประเทศไทยเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ เมื่อมีการสอบสวนสักพักก็หายเงียบไป

รัฐบาลมั่นใจมีอำนาจพิเศษปกป้อง

12.รัฐบาลไทยยังคงอยู่ได้ ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ และรู้สึกมั่นใจอย่างสูงในอำนาจพิเศษที่ปกป้องตน

13.ผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นที่โดนฆ่าตายโดยไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนใดๆก็ เป็นหลักฐานหนึ่งที่รัฐพยายามจะถ่วงเวลา ปิดกั้นและทำลายหลักฐานทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลักฐานต่างๆมากมายตรงหน้ายืนยันว่าการฆ่าคนเสื้อแดง เป็นการฆาตกรรมหมู่ จึงอดรนทนไม่ได้ที่จะไม่นำคดีขึ้นฟ้อง และไม่สามารถทนได้ที่จะนิ่งเฉย ปล่อยกระบวนการยุติธรรมของไทยดำเนินไปอย่างล่าช้า

แฉผู้มีบารมีชี้นำสลายการชุมนุม

14.หลังรัฐประหารมีผู้มีบารมีออกมาใช้กำลังทางการทหาร ตลอดจนการสลายการชุมนุมก็มีการชี้นำจากผู้มีบารมี มีคำสั่งให้ใช้ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารยิงสไนเปอร์ในลักษณะมือที่สามเพื่อโยน ความผิดให้ฝั่งคนเสื้อแดง (อ่านรายละเอียดต่อที่ http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=9555)
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  Empty Re: "อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Wed Feb 02, 2011 12:11 am

เปิดข้อกล่าวหา‘อภิสิทธิ์’สังหารหมู่เสื้อแดง



เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 54 นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทีมกฎหมาย ได้เปิดแถลงข่าวการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คดีสั่งสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง จนมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งคำร้องดังกล่าวเผยแพร่ในเว็บไซต์ www.robertamsterdam.om.thai ส่วนรายละเอียดคำให้การของประจักษ์พยานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในเว็บไซต์ www.thaiaccountability.org โดยคำร้องสรุปดังนี้

เมื่อคืนวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย คณะทนายความสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ได้ยื่นคำร้องความยาวกว่า 100 หน้ากระดาษ ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก เพื่อขอให้อัยการประจำศาลอาญาระหว่างประเทศรับพิจารณา และดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีการสลายการชุมนุมในประเทศไทยระหว่างเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2553 การปราบปรามการชุมนุมทหารได้ใช้กระสุนจริง ซึ่งทราบขนาดชัดเจนว่าเป็นชนิดใด รวมทั้งอุปกรณ์สงครามที่ใช้ในการรบ ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้กองทัพจงใจสลายการชุมนุมและเข่นฆ่าแกนนำคนเสื้อแดงโดยไม่เปิด ทางหนี จึงมองว่าเป็นการวางแผนอย่างชัดเจน แต่เมื่อแผนการล้มเหลว มีการใช้ทีมสไนเปอร์ยิงผู้ชุมนุมด้วย ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไทยไม่สามารถพิสูจน์หลักฐานได้เช่นเดียวกับการระเบิดที่ สี่แยกคอกวัวว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของกองทัพที่ฝึกฝนมาอย่างดีในการใช้สไนเปอร์ และการใช้ระเบิดสังหารกลับถูกถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐานว่าอยู่ร่วมใน เหตุการณ์

ส่วนกรณีคนชุดดำรัฐบาลพยายามจะบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง แต่ไม่เคยจับคนชุดดำได้ ทั้งไม่มีการนำเสนอข้อมูลชายชุดดำเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงอย่างไร นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่มีหลักฐานว่ามีอาวุธเกิดจากผู้ชุมนุม ทั้งมีผู้เห็นเหตุการณ์ว่าผู้ชุมนุมไม่ได้มีอาวุธ การสังหารหมู่เหล่านี้เกิดขึ้นจริงจากการทำลายล้างของรัฐบาล แต่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้รับคำสั่งให้ปราบปรามที่บริเวณราชประสงค์ หลักฐานทางกายภาพเองถูกทำลายโดยรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีเซ็นทรัลเวิลด์ ทุกคนมองว่าคนเสื้อแดงเป็นคนเผา แต่มีพยานบุคคลชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่คนเสื้อแดง

นายอัมสเตอร์ดัมระบุว่า ขณะนี้ทหารถูกสอบสวนโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว แต่อธิบดีดีเอสไอเองเป็นกรรมการคนหนึ่งใน ศอฉ. ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็จะเป็นไปตามทิศทางที่ ศอฉ. ให้เป็น ทั้งอธิบดีดีเอสไอบอกให้ทีมสอบสวนสรุปว่า ถ้าไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นคนยิงให้ทีมสอบสวนสรุปไปว่าเป็นฝีมือคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นการกล่าวหาผู้ต้องหาให้เป็นผู้ก่อการร้าย ขัดต่อการปรองดอง

ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมเป็นการสังหารหมู่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติ ศาสตร์ไทย แต่ข้อเท็จจริงต่างๆไม่ถูกค้นพบ กระบวนการยุติธรรมในประเทศยังไม่ปรากฏ การสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ตั้งแต่ พ.ศ. 2516, 2519, 2535 แต่รัฐบาลยังลอยนวลอยู่ และพอใจกับการสังหารผู้ชุมนุม เวลานี้ประเทศไทยควรเผชิญกับสิ่งที่ตรวจสอบได้ สิ่งที่สำคัญต้องเปิดเผยกระบวนการต่างๆที่ทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

ต่อมานายอัมสเตอร์ดัมได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวซักถามผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ถาม : ทราบอย่างไรว่าศาลอาญาระหว่างประเทศจะรับคำฟ้อง

ตอบ : ขณะนี้ได้ยื่นต่อศาลไปแล้ว ซึ่งจะต้องมีกระบวนการรตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดก่อน ประเด็นที่หยิบยกขึ้นฟ้องด้วยคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังมีสัญชาติเป็นอังกฤษ เพราะเกิดในประเทศอังกฤษ ภายใต้กฎบัญญัติของศาลสามารถดำเนินคดีได้ทันทีกับผู้ที่ถือสัญชาติของประเทศ ที่ลงสัตยาบัน

ถาม : รู้ได้อย่างไรนายอภิสิทธิ์ยังใช้สัญชาติอังกฤษ

ตอบ : เราไม่มีเหตุผลเดียวในการให้ไอซีซีรับคดีไว้พิจารณา แต่กฎหมายอังกฤษให้ถือว่าผู้เกิดในประเทศอังกฤษได้สัญชาติอังกฤษ แม้ขอไม่ใช้สัญชาติอังกฤษก็ต้องดูวัน ได้ขอถอนสัญชาติอังกฤษหลังเกิดเหตุฆ่าประชาชนหรือไม่ ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินได้ว่ารับไม่รับจนกว่าจะได้อ่านเอกสารก่อน และเชื่อว่าไม่มีใครที่รู้สึกยินดีหากคดีในประเทศของตนไม่ได้รับการรับฟ้อง จากศาล ผมจะแสวงหาความเป็นธรรมให้กับคนไทย เพราะรัฐบาลในหลายประเทศเองต้องการรู้ความจริง ไม่ว่าจะเป็นคนอิตาลีและญี่ปุ่น เพราะคนในประเทศเขาเสียชีวิตด้วย ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ควรมีศักดิ์ศรีพอจะลาออกเมื่อบริหารผิดพลาด

ถาม : มีแผนสำรองไว้กรณีศาลไม่รับหรือไม่

ตอบ : มีแผนตั้งแต่เอถึงแซด ไม่มีเหตุผลเดียวที่จะทำให้ศาลรับฟ้องคดีนี้ มีหลักฐานมากมายจำนวนกว่า 200 หน้ากระดาษ จะอธิบายเหตุผลทั้งหมดว่า การใช้อาวุธของทหารไม่มีความสมเหตุสมผล ซึ่งการฟ้องครั้งนี้เป็นไปตามมาตราที่ 17 วงเล็บ 2 เอ และซี ของกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ และนอกจากการยื่นฟ้องต่อไอซีซี ผมยังได้ปรึกษากับผู้พิพากษา ทนายจำนวน 8 ประเทศ ที่มีคนในชาติของเขาได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในประเทศไทย เพื่อหาทางยื่นฟ้องคดีด้วย

“การเสียชีวิตหมู่ประเทศไทยไม่อนุญาตแม้แต่จะให้มีการสืบสวนสอบสวนในชั้น ศาล แม้ไทยได้ชื่อเมืองล้านรอยยิ้ม แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ อาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชนจะถูกบอกให้โลกรับรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง หลังจากนี้ผมจะโน้มน้าวให้อัยการไอซีซีเห็นว่ามีเหตุผลที่ศาลจะรับฟ้อง เพราะมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจริง ซึ่งผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนคือรัฐบาล โดยผู้บริหารหรือนายกรัฐมนตรีไทยถือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ยื่นฟ้องได้ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้เป็นศัตรูของทหาร เพราะทหารชั้นผู้น้อยไม่ใช่ศัตรูของคดีนี้ แต่เป็นการดำเนินคดีกับผู้บังคับบัญชาของพวกท่าน ดังนั้น จึงขอให้ทหารชั้นผู้น้อยออกมาให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเฉพาะทหารรักษาพระองค์”

นายอัมสเตอร์ดัมกล่าวในตอนท้ายว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้เป็นตัวแทนคนเสื้อแดงแสวงหาความยุติธรรม การต่อสู้ที่ไม่ใช้ความรุนแรงที่จะนำประชาธิปไตยกลับมา และการถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้ายทารุณจากทหารและรัฐบาล ขอยืนยันว่าทั่วโลกได้มีหัวใจดวงเดียวกันที่จะสนับสนุนให้คนเสื้อแดงได้ ต่อสู้ต่อไป คนเสื้อแดง 19 คนถูกลักพาโดยรัฐบาลไทย นั่นคือถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ

ขณะนี้ทั่วโลกรับรู้ถึงการกระทำของฝ่ายรัฐบาลแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคดีที่ยื่นฟ้องไป แต่เราก็ได้แสดงให้ทั่วโลกรับรู้ว่ารัฐบาลคือคนร้ายที่เข่นฆ่าประชาชน


ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 12 ฉบับที่ 2982 ประจำวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 คอลัมน์ รายงานพิเศษ โดย ทีมข่าวการเมือง
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=48714
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  Empty Re: "อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Wed Feb 02, 2011 12:13 am

วางแผน 4 ปีปราบคนเสื้อแดง



ในการยื่นฟ้องนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความเจ้าของสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ในคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บต่อ ศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น ทางสำนักงานทนายความของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้จัดทำรายงานการปราบปรามคนเสื้อแดงของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ออกเผยแพร่ มีสาระสรุปได้ดังนี้

แผนการกวาดล้างคนเสื้อแดงเมื่อฤดูร้อนปีก่อนถูกวางแผนไว้ล่วงหน้านาน เกือบ 4 ปี โดยยึดแบบอย่างจากการปราบปรามเหตุการณ์จลาจลที่จัตุรัสเทียนอันเหมินของจีน เมื่อปี 1989 โดยกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีส่วนอนุมัติให้ฝ่ายทหารใช้กำลังปราบปรามพลเรือนที่ไม่มีอาวุธได้

นอกจากนี้ยังพบว่ามีโรงพยาบาลอย่างน้อย 2 แห่งร่วมมือกับรัฐบาลไทยด้วยการเผาศพพลเรือนที่เสียชีวิตจากการปะทะกัน เพื่อทำลายหลักฐานที่อาจนำไปสู่คดีอาชญากรรม

ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตราว 91 คน และบาดเจ็บเกือบ 2,000 คน ในการปะทะกันระหว่างกองกำลังของรัฐบาลกับผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้นาย อภิสิทธิ์ยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่

นายอภิสิทธิ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ในกองทัพ อาจเริ่มวางแผนกดดันกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลังจากมีการก่อรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ไม่นาน

แผนการดังกล่าวรวมถึงการปิดล้อมบริเวณถนนราชดำเนิน ที่บางครั้งถูกเรียกว่า “ฌอง เซลิเซ่ ของกรุงเทพฯ” ซึ่งมีผู้ประท้วงถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 แผนการดังกล่าวถูกจำลองแบบขึ้นที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งรวมถึงการตั้ง “คิลลิ่ง โซน” หรือ “เขตสังหาร” โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงพลยิงสไนเปอร์เข้าร่วมฝึกซ้อมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550

หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ไม่นาน ผู้นำในขณะนั้นเห็นพ้องกันว่าในที่สุดคนเสื้อแดงจะลุกฮือขึ้นประท้วง พวกเขาจึงเริ่มวางแผนด้วยการใช้มาตรการทางทหารเพื่อตอบโต้ ทั้งนี้ รายงานได้ระบุชื่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโส รวมถึงนายตำรวจและนายทหารระดับสูงรวม 15 คน

กองทัพดำเนินการกวาดล้างโดยใช้นโยบายของรัฐที่ผ่านการหารือและอนุมัติจาก ผู้นำพลเรือนและผู้นำทหารอาวุโส ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกโค่นอำนาจจากการรัฐประหารครั้งนั้นเป็นผู้ให้ความร่วมมือในการดำเนิน การทางกฎหมายต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

รายงานได้อ้างถึงคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรของพยาน 88 คนที่อ้างว่าเห็นทหารยิงพลเรือนที่ไร้อาวุธ รวมถึงพยาบาล 3 คน ที่วัดแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และคำให้การของพยานอีก 255 คนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายนปีเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีคำให้การของนายทหารหลายคนในกองทัพที่ต้องปกปิดชื่อ เนื่องจากหากเปิดเผยจะเป็นอันตรายใหญ่หลวง แม้ทนายความระบุว่าจะเปิดเผยชื่อจริงของทหารเหล่านี้ต่ออัยการ

คำให้การของทหารหลายคนเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจ หลังจากนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ฉบับเดือนที่แล้วรายงานว่ามีนายทหารและนายตำรวจหลายคนให้การสนับสนุนอย่าง ลับๆแก่ผู้ประท้วง และว่าการที่รัฐบาลปราบปรามผู้ประท้วงเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม

ทั้งนี้ ทหารบางคนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในท้องถนนช่วงกลางวัน แต่พอตกกลางคืนเปลี่ยนมาสวมเสื้อแดงและเข้าร่วมประท้วงกับคนเสื้อแดง โดยทหารเหล่านี้ถูกเรียกว่า “แตงโม”

อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งของคนเสื้อแดงในการยื่นฟ้องรัฐบาลก็คือ กระบวนการยุติธรรมของศาลไทย เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญากรุงโรมที่เรียกว่า Rome Statute ซึ่งนำไปสู่การตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซีในปี 2002 ดังนั้น ไอซีซีจึงไม่มีอำนาจไต่สวนเพื่อดำเนินคดีรัฐบาลไทย

แต่ยังเชื่อว่าไอซีซีมีอำนาจไต่สวนเพื่อดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ในข้อหาก่อ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เนื่องจากเขาเป็นคนสัญชาติอังกฤษ โดยเกิดที่อังกฤษเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ปี 1964 เพราะไอซีซีมีอำนาจสอบสวนคดีและดำเนินคดีบุคคลที่เป็นพลเมืองของประเทศที่ เป็นสมาชิก ซึ่งก็คืออังกฤษ

แม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิกศาลไอซีซี แต่ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ ดังนั้น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสามารถร้องขอให้ศาลสอบสวนพฤติกรรมของ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ต่อเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเมื่อปีที่แล้วว่าเป็นการก่อ อาชญากรรมหรือไม่


ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 12 ฉบับที่ 2982 ประจำวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 คอลัมน์ รายงานพิเศษ โดย ทีมข่าวการเมือง
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=48712
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  Empty Re: "อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตั้งหัวข้อ  goosehhardcore Wed Feb 02, 2011 12:33 am

"อัมสเตอร์ดัม" ชูประเด็น "อภิสิทธิ์" มีสัญชาติอังกฤษ ฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ  234620110201toon2
goosehhardcore
goosehhardcore
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 6012
Join date : 12/06/2010
ที่อยู่ : Bangkok Thailand

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics
» เขมร แถลงโต้ไทย ปัดส่งสายลับเข้าไทย ฉะ อภิสิทธิ์ สร้างเรื่องโกหก วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2554 เขมร แถลงโต้ไทย ปัดส่งสายลับเข้าไทย ฉะ อภิสิทธิ์ สร้างเรื่องโกหก
» "อัมสเตอร์ดัม"รอคำตอบศาลอาญาระหว่างประเทศ ลั่นนำตัวฆาตกรมารับผิดชอบ
» แดงพรึ่บอนุสาวรีย์ปชต. โฟนอิน"อัมสเตอร์ดัม"19.00น.-ทักษิณ 20.30น
» ส.ส.ปชป.แจ้งจับ"แม้ว-อัมสเตอร์ดัม-บก.ฟ้าเดียวกัน"
» โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เตือน มาร์ค

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ