Re: Update:คลิปข่าว ซีวิค ชนรถตู้ตกทางด่วน- แถลงการณ์ ครอบครัวสาวซีัวิค อ้่างไม่ได้เฉี่ยวรถตู้

[lucky m.]

[lucky m.]

[lucky m.]

[lucky m.]

[lucky m.]

อย่ามาตอแหลนะว่า เพิ่งขับวันแรก
ก่อนหน้าพ่xxกะแม่xxไปมุดรูตูxxอยู่ที่ไหน
ถึงไม่รู้เรื่องไม่ห้ามปราม
อาจจะลูกเกxxx เกินจะห้าม
หรือไม่ก็พ่อxกะแม่งไม่ได้สั่งสอน
เด็กอายุ xx กะการขับรถบนถนน
ในเสี้ยววินาทีที่คับขัน
การตัดสินใจพลาดครั้งเดียว ไม่ได้หมายถึงคนอื่นจะไม่ตายด้วย
และทำไมถึงกล้าขับออกมา ทั้งที่ไไม่มีใบขับขี่
ไอ้ตำรxxx เมิงอย่ามาตอแหxxนะว่าพวกเมิxxกล้าจับและยึดรถไว้
แค่พวกเมิxxเห็นนามxxสxx ณ.อยู่ข้างหลัง
พวกเมิxxอาจจะฉี่ราดกางเกง ก้มลงกราxxที่ตีนมันแล้ว
คนตายไปแล้ว มีอะไรมาชดใช้ชีวิตผู้สูญเสียได้บ้าง
นี่กูได้ข่าว ไอ้โสxx ส้งตีน เตรียมจัดระเบียบรถxx
นั่นแหละเป็นช่องทำมาหาแดxxกให้หัวคิว เจ้าพ่อ รอบใหม่
ถ้าพวกเมิxxใช้กฏหมายอย่างมีมาตรฐานมาแต่แรกนะ
ปัญหาพวกนี้ก็จะลดน้อยลง เพราะไม่กล้าขัดขืน
เมื่อไรจะเลิกหยุดระบบเลียอภิสิxxชนเสียที
กูอยากแช่งให้พวกโคxxเหง้าของพวกเมิxxโดนซะบ้าง

[goosehhardcore]

ตายอีก 1 เป็น 9 ศพแล้ว สงสารคนตาย+ญาติพี่น้องจังเลย

[lucky m.]

[lucky m.]

คำถามที่จะต้องตอบว่าอย่างไร ต้องตอบหรือไม่ อยู่อเมริกาขับรถเอง? คำพูดนี้จะให้ตีความอย่างไร
1.ลูกผมไม่ใช่มือใหม่หัดขับ
2.อเมริxxxxยังอนุญาตใหัลูกผมขับได้เลย แล้วประเทศxxxไหงว่าคุณสมบัติไม่พอจะให้ขับรถได้
3.ลูกผมเรียนหนังสือเมืองนอก พวกคุณเรียนหนังสือที่ไหนกัน

ตอบข้อ 3 เรียนที่โรงเรียน

[goosehhardcore]

"มือขับซีวิค" เปิดใจยอมรับผิดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัดเล่นบีบี-อัพทวิตเตอร์ หลังเกิดเหตุ

ช่วงเช้าวันที่ 31 ธันวาคม น.ส.เอ สาววัย 16 ที่ขับรถเก๋งซีวิคชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการเช้าข่าวข้นคนข่าวเช้า ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยยืนยันว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทางครอบครัวก็ยังไม่ให้รับสื่อเพราะจะกลัวกระทบจิตใจ ทราบดีว่าเรื่องขับรถ เป็นฝ่ายผิด รู้ดีว่าผิด แต่ยังไม่ขอพูดอะไรก่อน ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น


นอก จากนี้ ยังยืนยันว่า ไม่มีทวิตเตอร์ ไม่มี hi5 มีแต่เฟซบุ๊ก แต่ก็ปิดไปหลังเกิดเหตุ 1 วัน ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุนั้น ยืนยันว่าไม่มีการอัพเดตสถานะทางบีบี และ facebook ใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้อายุ 17 ปี แล้ว


ขอบคุณเนื้อหาจาก: http://tnews.teenee.com/crime/60728.html

[goosehhardcore]

สาวซีวิคเสียใจชนตู้9ศพปัดBBหลังเกิดเหตุ

ความคืบหน้า กรณีอุบัติเหตุรถตู้มรณะ 9 ศพ ล่าสุด คนขับรถซีวิคอายุ 16 ปี กล่าวเปิดใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองก็เสียใจเช่นกัน และหลังเกิดเหตุทางครอบครัว ยังไม่ให้รับการสื่อสาร เนื่องจากเกรงว่าจะกลัวได้รับผลกระทบจิตใจ
และทราบดีว่า เรื่องขับรถตนเองผิด แต่ยังไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ และขณะนี้สภาพจิตใจ ก็ดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ ยังกล่าวถึง กรณีหลังเกิดอุบัติเหตุแล้วตนมีการโพสต์ข้อความลงในระบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ต่าง ๆ ขอยืนยันว่าไม่มี twitter และ hi5 มีแต่ facebook แต่ก็ปิดไป หลังเกิดเหตุ 1 วัน ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการอัพเดตสถานะทาง BB และ facebook ใด ๆ ทั้งสิ้น และขณะนี้ตนเอง อายุ 17 ปีแล้ว ไม่ได้อายุ 16 ปี ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอ

อย่างไรก็ตาม ต้องเฝ้าจับตามองคดีดังกล่าว ในวันที่ 5 ม.ค.54 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นัดเข้ารับทราบข้อหา และการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ท่ามกลาง การวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม


สาว17ขับซีวิคชนตู้เยี่ยม7เหยื่อเจ็บรพ.

เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ร.พ.วิภาวดี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาวแพร (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี สาวซิ่งเก๋ง ซีวิค ชนท้ายรถตู้ จนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ พร้อมบิดาและมารดา ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวโรงพยาบาล โดยได้นำกล่องคล้ายกล่องของขวัญ มามอบให้ผู้บาดเจ็บทั้งหมด และสอบถามอาการบาดเจ็บ แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน จากนั้น นางสาวแพร
พร้อมครอบครัว ก็เดินทางกลับทันที ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ นางสาวแพร มีสีหน้าที่เคร่งเครียด ขณะที่ในวันนี้ ผู้บาดเจ็บ 1 ราย แพทย์ได้อนุญาตให้เดินทางกลับบ้านแล้ว คือ นายวรัญญู เกตุชู จึงเหลือผู้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล จำนวน 6 ราย

อย่างไรก็ตาม การเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บของนาสาวแพร ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก หลังจาก เกิดอุบัติเหตุท่ามกลางกระแสสังคม ที่จับตาการกระทำของ นางสาวแพร ว่าจะรู้สึกสำนึกกับการกระทำหรือไม่ และเข้าใจถึงการสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิต

ที่มา: Sanook.com

[goosehhardcore]

"ไอ้ฟัก" เป็นตัวละครใน "คำพิพากษา" นวนิยายของ "ชาติ กอบจิตติ"

จากคนดีประจำชุมชน ชะตาชีวิตของมันพลันพลิกผัน เมื่อเกิดข่าวลือว่าไอ้ฟักเล่นชู้กับอีสมทรง เมียสาวสติไม่เต็มของพ่อผู้เพิ่งเสียชีวิต ความจริงในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ไอ้ฟักก็ถูกคนทั้งชุมชนพิพากษาไปแล้วว่า "มันเป็นชู้กับเมียพ่อ"

ชีวิตไอ้ฟักจึงพังทลายลง



"เมธาวี" เป็นตัวละครในละครสั้นชุด "บันทึกกรรม" เรื่อง "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคนเกลียดเมธาวี" ของ "นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์" เธอคือดาวประจำโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกพูดถึง (หรือพิมพ์ถึงในเฟซบุ๊ก) อย่างกว้างขวาง โดยบรรดาพี่-เพื่อน-น้องร่วมโรงเรียน บ้าง ก็ซุบซิบนินทาว่าเธอหยิ่ง, เจ้าชู้, เป็นเลสเบี้ยน, มักได้รับสิทธิพิเศษ และ ไม่ช่วยงานโรงเรียนแต่ดันสมัครชิงตำแหน่งประธานนักเรียน

บ้างก็ชมว่าเมธาวีช่างดีสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดแทบไม่เคยรู้จักตัวตนจริงๆ ของเธอ หรือ ถึงบางคนจะรู้ พวกเขาก็แสดงอคติบางอย่างออกมา กระทั่งน่าเชื่อว่าข้อเท็จจริงในชีวิตของดาวโรงเรียนรายนี้ได้ถูกบิดผันไป เรียบร้อยแล้ว

ละครเรื่องนี้จบลงพร้อมคำถามว่า แม้แต่ตัวเมธาวีเองก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่?




"แพรวา" เป็นเด็กสาววัย 16 ที่ขับรถยนต์ไปเฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางด่วน ส่งผลให้นักวิชาการและนักศึกษาอนาคตไกลหลายคนต้องจบชีวิตลง เหมือนที่เคยมีผู้ตั้งคำถามว่า ถ้าไอ้ฟักเป็นคนดีจริง แล้วทำไมมันถึงแก้ปัญหาชีวิตด้วยเหล้า คล้ายกับเมธาวี ที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างในชีวิต

แพรวาก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบในทางกฎหมายและมโนธรรม เพราะเธอมีส่วนทำให้เพื่อนมนุษย์กลุ่มหนึ่งเสียชีวิต แต่ปฏิกิริยาต่อต้านแพรวาใน "เฟซบุ๊ก" ก็น่าห่วงใยและน่าตั้งคำถามอยู่ไม่น้อย

ข่าวอุบัติเหตุที่แพร่ออกไป ได้นำไปสู่การกำเนิดขึ้นของเว็บเพจ "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคนไม่พอใจแพรวา" (มีผู้คลิก "ชอบ" เว็บเพจนี้เกิน 1 แสนคนแล้ว)

เป้าหมายหลักที่ทำให้หญิงสาวถูกประณามในเว็บเพจดังกล่าว ก็คือ ภาพถ่ายขณะที่แพรวากำลังยืนกดโทรศัพท์มือถือ "บีบี" ภายหลังอุบัติเหตุเศร้าสลดเพิ่งผ่านพ้น มีการขุดคุ้ยประวัติครอบครัวของแพรวามาเปิดโปง และมีการนำ "เรื่องเล่า" เกี่ยวกับข้อความในบีบีของเธอมาเผยแพร่

ผู้คลิก "ชอบ" เว็บเพจนี้หลายคน ต่างแสดงความเห็นอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

ซึ่งสามารถแปรผันกลายเป็น "ความเกลียดชังเกินขอบเขต" และการตั้งศาลเตี้ยเพื่อลงทัณฑ์ทางสังคมต่อแพรวาได้ทุกเมื่อ โดยมิต้องตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างรอบด้าน ยิ่งกว่านั้น เรื่องของแพรวายังเชื่อมโยงกับประเด็น "ชนชั้น" และ "2 มาตรฐาน"

เพราะ คนชั้นกลางในเฟซบุ๊กจำนวนมากวิตกว่านามสกุลเก่าแก่และครอบครัวทรงอำนาจของ เธอ (ผู้มีบีบีใช้) อาจเป็นปัจจัยสำคัญทำให้กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถดำเนินไปได้ตามครรลองที่ ควรเป็น

คำถามก็คือ จะทำอย่างไรให้ความห่วงใยในประเด็น "ชนชั้น" และ "2 มาตรฐาน" ของสมาชิกเฟซบุ๊กเหล่านี้ แพร่ขยายไปสู่ประเด็นเดียวกันในกรณีอื่นๆ

จะ ทำอย่างไรให้สมาชิกเฟซบุ๊กตระหนักถึงการเสียชีวิตของชาวบ้านจำนวนมากผู้ไม่ ได้รับโอกาสทางการศึกษาซึ่งถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เหมือนที่พวกเขามีอารมณ์ร่วมกับการเสียชีวิตของปัญญาชนชั้นกลางในอุบัติเหตุ ครั้งนี้

ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ไม่ได้

สังคมไทยก็คงไปไหนไม่ไกลเกินกว่าเรื่องเล่าของไอ้ฟัก, เมธาวี และแพรวา


ที่มา: มติชนออนไลน์
บทความโดย ปราปต์ บุนปาน (จากคอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2553)

[lucky m.]

ขอได้โปรดให้ความเป็นธรรมด้วย
9 ศพ บนทางด่วน กับ 91 ศพ ที่ราชประสงค์
9 ศพบนทางด่วน
* เป็นอุบัติเหตุ
* ผู้เป็นต้นเหตุเป็นเด็กอายุ 16 ปี ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเพียงคนเดียว
* เครื่องมือในการก่อเหตุ รถยนต์ 1 คัน
* ผลลัพธ์ มีคนตาย 9 ศพ
* สื่อออกข่าวต่อเนื่องทุกวัน
* สังคมพิพากษา วิจารณ์ ต่อว่าเด็ก ต่าง ๆ นานา รวมถึงให้ครอบครัวออกมารับผิดชอบ

91ศพที่ราชประสงค์และราชดำเนิน
* เป็นความตั้งใจ
* ผู้เป็นต้นเหตุเป็นผู้ใหญ่อายุเกิน 40 ปี แน่นอนบรรลุนิติภาวะแล้ว มีทั้งผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติมากกว่า 10,000 ตน
* เครื่องมือในการก่อเหตุ รถบันทุก รถโดยสาร รถถัง รถติดอาวุธ ปืนหลากหลายชนิด
* ผลลัพธ์ มีคนตาย 91 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน
* สื่อไม่ออกข่าว
* สังคมไม่มีการวิจารณ์ ไม่เรียกร้องให้ผู้สั่งการออกมารับผิดชอบ

จากข้อเปรียบเทียบข้างบน ถ้าสังคมนี้ยังมีสติ และมีคุณธรรมหลงเหลืออยู่ ขอเรียกร้องให้ผู้ที่ออกมาวิจารณ์ และเรียกร้องความรับผิดชอบในกรณี 9 ศพ ...และผู้ที่เป็นกลาง..ไม่เหลือง ไม่แดง....ออกมาวิจารณ์ และเรียกร้องความรับผิดชอบในกรณี 91 ศพ และบาดเจ็บมากกว่า 2,000 คนด้วยครับ
.........................
เห็นด้วยกับกระทู้นี้ค่ะ แต่สำหรับ 91 ศพ ก็มีแต่คนเสื้อแดงเท่านั้น ที่พากันออกมาร้องเรียกความเป็นธรรม สีอื่นเค้าไม่สนหรอก จริงมั๊ย

[lucky m.]

[lucky m.]

[lucky m.]

สำหรับข่าวในกระทู้นี้ ป้าลัคก็แค่อยากให้ทุกท่านได้อ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท และขอให้มีน้ำใจต่อกัน อย่าเห็นแก่ตัว คิดว่าต่างคนก็ต่างรีบร้อนกันทั้งนั้น แต่ก็ขอให้ อภัยแก่กัน ก่อนที่เหตุการณ์ร้ายๆจะเกิดขึ้น อย่าให้เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นก่อนแล้ว มาขออภัยกัน มันทำใจลำบากน่ะ กับผู้ที่สูญเสีย ป้าเองก็ฝากชีวิตอยู่บนถนนบ่อยเหมือนกัน เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ไม่รู้ จึงไม่ขอ คอมเม้นท์อะไรมาก เห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่จะเห็นใจผู้ที่สูญเสียมากกว่า สำหรับน้องคนนั้น ก็ถือเสียว่า สิ่งใดที่เค้าได้ทำไว้ ก็ต้องได้รับสิ่งนั้นตอบกลับไป ไม่มีใครหนีเวรหนีกรรมพ้นหรอก

[goosehhardcore]

เด็กแว๊นซ์ ถ้าถูกจับ บางทีไม่ให้ประกันตัว
ชั้นศาลก็ริบรถ แถมส่งตัวเข้าสถานพินิจอีกคนละอย่างต่ำก็สองปี

นั่นแค่ซิ่งรถ แต่ยังไม่ก่อความเสียหายให้กับใคร นอกจากความรำคาญเลยนะ แต่นี่ก็ซิ่งรถเหมือนกัน ความเสียหายก็เกิดขึ้นแล้วด้วย คนตายไป 9 เจ็บอีก 6
ก็ลองดูละกันว่าคำพิพากษาของศาลจะออกมาอีท่าไหน

และที่เคยเจอเคสนึง นักเรียนหญิงอายุประมาณ 14-15 นี่แหละจำไม่ได้ เลิกเรียน กลับบ้าน ขับมอไซค์ก็พาเพื่อนซ้อนท้ายกลับด้วยอีกสองคน ขับแมงกะไซค์ตัดหน้าปิคอัพ เพื่อนตายคนนึง อีกคนขาขาด ตัวเองก็เจ็บหนัก พอหายดีแล้วก็ต้องมาขึ้นศาลข้อหากระทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยประมาท

เด็กคนนี้ผลการศึกษาก็ไม่ค่อยจะดี แถมทางบ้านจน พ่อแม่เลยไม่ได้ช่วยเหลือ อะไรทางครอบครัวของเพื่อนที่ตายไป ศาลก็เลยส่งเข้าสถานพินิจไปสองปี

มาตรฐานสังคมไทยอยู่ที่ไหน ฟันธงว่า แพรวาไม่ติดคุก แม้ในชั้นศาลจะยอมรับสารภาพด้วย ก็ตามทีว่าตนเองประมาท

กฎหมายที่เพิ่งแก้ไขใหม่มาหมาดๆ ถ้าอายุไม่เกิน 18 ก็จะเข้าตามมาตรา 90 นี้

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวพ. ศ. ๒๕๕๓

มาตรา ๙๐ เมื่อมีการฟ้องคดีต่อศาลว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกินยี่สิบปี ไม่ว่าจะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม

ถ้าปรากฏว่าเด็กหรือเยาวชนไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกมาก่อน เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ก่อนมีคำพิพากษา

หากเด็กหรือเยาวชนสำนึกในการกระทำและผู้เสียหายยินยอมและโจทก์ไม่คัดค้าน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าพฤติการณ์แห่งคดีไม่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมเกินสมควร และศาลเห็นว่าเด็กหรือเยาวชนอาจกลับตนเป็นคนดีได้ และผู้เสียหายอาจได้รับการชดเชยเยียวยาตามสมควรหากนำวิธีจัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟู ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็กหรือเยาวชนและต่อผู้เสียหายมากกว่าการพิจารณาพิพากษา

ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้อำนวยการสถานพินิจหรือบุคคลที่ศาลเห็นสมควรจัดให้มีการดำเนินการเพื่อจัดทำแผนดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขให้เด็กหรือเยาวชน บิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วยปฏิบัติ แล้วเสนอต่อศาลเพื่อพิจารณาภายในสามสิบวันนับแต่ที่ศาลมีคำสั่ง หากศาลเห็นชอบด้วยกับแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูให้ดำเนินการตามนั้นและให้ มีคำสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว

หากศาลไม่เห็นชอบ ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๙๑ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท


ที่มา: From the album: Wall Photos by Phoenix Griffins

[goosehhardcore]

แม่สาว16ปี ซิ่งเก๋งชนรถตู้บนโทลล์เวย์ รุดขอโทษแม่ ดร.ศาสตรา พร้อมเตรียมเดินสายขอโทษเหยื่อทั้งหมด


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 ม.ค. ที่วัดเกาะนัมทาฯ เขตเทศบาลเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งศพของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง อายุ 33 ปี นักวิจัยสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ ( สวทช. ) ได้มีนางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แม่ของสาวอายุ 16 ปี ที่ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดร.ศาสตรา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน ได้เดินทางมาขอขมาศพของดอกเตอร์ศาสตรา แทนลูกสาวที่ยังนอนป่วยอยู่


โดยนางลัดดาวัลย์ ได้พบกับนางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของ ดร.ศาสตรา จากนั้นได้คุกเข่าลงกราบเท้านางถวิล 3 ครั้ง พร้อมกล่าวขอโทษด้วยน้ำตานองหน้า ท่ามกลางญาติพี่น้องของ ดร.ศาสตรา เกือบ 10 คน พร้อมกับกล่าวว่า มาขอโทษแทนลูกสาว ซึ่งจริงๆ แล้วลูกสาวอยากมาด้วยตัวเอง แต่ขณะนี้ยังได้รับบาดเจ็บนอนพักรักษาตัวอยู่ ตนเองจึงได้มาแทน และตัวลูกสาวเองก็อยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ เพราะโดนสังคมประณามมาก จึงอยากให้คุณแม่ถวิลอภัยให้ลูกสาวด้วย


ด้านนางถวิล กล่าวว่า คนเราทุกคนไม่ได้แกล้ง ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เมื่อมาเองก็ให้อภัยกัน แต่ที่เสียใจเพราะลูกฉันเป็นคนดี ฉันไม่ได้แกล้งว่า แต่คนรอบข้างชมเขาทุกคนว่าเขาเป็นคนดีมาก คุณยังมีลูกที่คอยกินข้าวด้วยกัน แต่ฉันไม่มีแล้ว


จากนั้นนางลัดดาวัลย์ แม่ของสาวอายุ 16 ปี ได้มอบเงินสดจำนวน 30,000 บาท ในครั้งแรกให้กับนางถวิล เพื่อใช้ในการบำเพ็ญกุศลศพของดร.ศาสตรา ก่อนจะไปจุดธูปขอขมาหน้าหีบศพพร้อมกับกล่าวว่า ได้เดินสายขอโทษผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลไปแล้ว และขอโทษญาติศพผู้เสียชีวิต 6 แห่ง เหลือเพียง 3 แห่งขณะนี้กำลังติดต่อกับญาติอยู่ คือที่ ตลิ่งชัน ส่วนที่ชัยนาทได้ติดต่อไปแล้ว แต่ทางเจ้าภาพขอให้เป็นหลังจัดพิธีงานศพเสร็จก่อน และที่จังหวัดอุบลก็ประสานไปแล้ว แต่เนื่องจากระยะใกล้มาก จึงขอให้เป็นรายสุดท้าย


ส่วนญาติผู้เสียชีวิตที่ยังติดต่อไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง ใครรู้ช่วยแจ้งที่หมายเลขโทรศัพท์ 081 – 6464736 ได้ ส่วนครอบครัวนั้นได้มีเจตนารมณ์ที่จะก่อตั้งกองทุน เด็กเรียนดี แต่ยากจน ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ขอเป็นหลังจากที่ไปบวชชีพร้อมลูกสาวเพื่อถ่ายบาปสักระยะหนึ่ง


ขอบคุณที่มา: http://bit.ly/hhWdDo

[goosehhardcore]

ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาได้นั้นเกิดเหตุการณ์ที่เราคนไทยเองไม่สา มารถปฎิเสธได้เลยว่าความรุนแรงที่เกิดภายในสังคมยังคงมีอยู่ซึ่งจะเห็นได้ ชัดเจนผ่านข่าวการฆาตกรรมต่างๆ รวมไปถึงการฆ่าตัวตายในหลากหลายรูปแบบ และยิ่งไปกว่านั้นในปี2553 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ได้เกิดอุบัติเหตุอันแสนสุดสะเทือนใจที่ไม่ใครคาดคิดว่าจะเกิดโศกนาฏกรรม เหล่านี้ขึ้น



อันดับ10 เมียทิ้ง ประชดจับลูกกรอกยาพิษตายด้วยกัน

พ่อ ผสมยาพิษกับน้ำอัดลมให้ลูกสาววัย 7ขวบ ดื่ม จากนั้นก็กินยาพิษตามแล้วนอนกอดลูกเสียชีวิตไปด้วยกัน ทั้งนี้ผู้ตายได้เขียนจดหมายถึงคนชื่อ "หวาน" ซึ่งเป็นภรรยาที่หนีไปอยู่กับญาติเนื่องจากได้ทะเลาะกันรุนแรง จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยระบุว่าเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะรักและหวงหวานจนเกินไป ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ลูกกินยาตายด้วย เพราะเป็นห่วงลูก ซึ่งเป็นผู้หญิงและยังเล็กเกินไปที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่อยากให้ลูกรู้ปัญหาต่างๆ



อันดับ 9 โชว์สยองผูกคอตายผ่านแคมฟร็อก

หญิง สาวอายุ 24 ปี เกิดอาการอกหักใจสลาย เมื่อได้ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิก ก่อนทำใจไม่ได้ตัดสินใจลาโลก ลงมือก่อเหตุสุดสยองโชว์การผูกคอตายผ่านโปรแกรมแคมฟร็อก ห้องโกสเรดิโอ เพื่อให้แฟนหนุ่มได้ดูภาพการตายสดๆ โดยได้ใช้ผ้าปูที่นอนผูกคอตัวเองกับพัดลมเพดานในห้องพัก ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีคนเข้ามาดูคลิปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

[goosehhardcore]

อันดับ 8 โจ๋โหดฆ่าโบกปูนกิ๊กสาวใหญ่วัย 44ปี

วัยรุ่นชาย อายุ 19ปี ก่อเหตุฆาตกรรมสุดโหด เมื่อลงมือฆ่าแฟนสาวรุ่นราวคราวแม่อายุ 44ปี โดยได้ใช้ยานอนหลับถึง 12 เม็ดผสมเครื่องดื่มให้ผู้ตายกินจนหมดสติ ก่อนลากตัวเข้าไปในสวนป่า แล้วขุดหลุมฝังร่างของผู้ตาย โดยนำเศษอิฐ หิน ปูนซีเมนต์ มาโบกปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่ออำพรางศพ ซึ่งฆาตกรใจโหดได้สารภาพว่า สาเหตุการฆ่าในครั้งนี้มากจากผู้ตายได้โกหกว่าเป็นหม้าย และยังคบหากับชายคนอื่นอีกจึงเกิดความโกรธแค้นอย่างมาก ที่ถูกหลอกลวงประกอบกับหึงหวง เนื่องจากเป็นรักครั้งแรก



อันดับ 7 ผัวสุดชั่ว เมาซ้อมเมียไม่หนำใจ จุดไฟเผาทั้งเป็น

ผัวเดนนรกเมาเหล้าหัวราน้ำ โมโหเมียกลับบ้านช้า หลังจากเดินทางไปงานศพพ่อบังเกิดเกล้า จากนั้นได้ลงมือทุบตีทำร้ายเมียอย่างทารุณ ก่อนจับราดน้ำมันจุดไฟเผาทั้งเป็น ไม่สาใจลากตัวมาจับหัวกดน้ำอีก จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ ก่อนอ้างหน้าด้านๆ เมียจุดไฟเผาตัวเอง ขณะที่พ่อผัวสุดทนให้การลูกชายสุดเลว ไม่ทำงานทำการ เกาะเมียกิน เป็นคนลงมือทุกอย่าง

[goosehhardcore]

อันดับ 6 แม่คลั่ง น้ำมันราดจุดไฟเผาลูกตัวเอง

แม่เฒ่าวัย 70 เครียดใช้น้ำมันเบนซินราดตัวลูกชาย แล้วจุดไฟเผาทั้งลูก และตัวเองหวังฆ่าตัวตาย แต่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงร้องความช่วยเหลือจากลูกชายจึงรีบปีนรั้วเข้ามาดู ก่อนเจอภาพอันสยดสยองเมื่อพบลูกชายถูกไฟคลอกทั้งตัว ส่วนผู้เป็นแม่จุดไฟเผาตัวเองอยู่บนเก้าอี้กลางบ้าน จึงรีบดับเพลิงช่วยชีวิตแม่ลูกทั้งสองไว้ได้แต่อาการสาหัสทั้งคู่ และต่อมาแม่เฒ่าก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งสาเหตุในครั้งนี้มาจากแม่เฒ่ากลัวจะแพ้คดีฟ้องกรรมสิทธิ์ในการถือครอง บ้านกับน้องสะใภ้จึงเกิดความเครียดลงมือก่อเหตุดังกล่าว



อันดับ 5 รถตู้โรงเรียนตกทางด่วนดับย่างสดสยอง 8 ศพ

อุบัติเหตุสุดสยอง เมื่อรถตู้ขับมาด้วยความเร็วสูงก่อนเสียหลักพลิกตกลงมาจากทางด่วนพระราม 6 ด้านหน้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวอยู่ในสภาพเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงทั่วทั้งรถเนื่องจาก แก๊สระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ในรถ 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 8 คน ในจำนวนนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2คน ซึ่งสภาพศพทั้งหมดถูกไฟคลอกทั่วตัวจนดำเป็นตอตะโก สำหรับทางแยกลงด่วนพระราม 6 แห่งนี้ ได้รับฉายาว่า “ทางแยกมรณะ” เพราะเคยเกิดเหตุรถตกลงมาจากจุดเดียวกันนี้มาแล้วหลายราย

[goosehhardcore]

อันดับ 4 น้องโตมี่ เหยื่อกระสุน จากความคลั่ง

จากเหตุการณ์ที่คนทั้งประเทศเฝ้าติดตาม เมื่อด.ช.โภคิน ดีผิว หรือ น้องโตมี่ อายุ 12 ขวบ เด็กชายผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เคยทำให้ใครต้องเดือดร้อน แต่ต้องมาสังเวยชีวิตอย่างน่าเศร้าหลังถูก เดนสังคมอย่าง จิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ยิงระบายความแค้นหลังจากเพียงแค่รถที่น้องโตมี่นั่งอยู่นั้นได้เกิดขับแซง หน้ารถของจิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว ซึ่งต่อมาทั้ง2รายนี้ก็หนีไม่พ้นกฏหมายถูกวิสามัญ และถูกควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา



อันดับ 3 สุดเศร้า แม่นอนทับลูกคอหัก ก่อนลั่นไกตายตาม

เหตุการณ์สุดเศร้าในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อแม่ลูกอ่อนวัย 18 ปี ซึ่งเป็นคนนอนดิ้นตั้งแต่เด็ก ได้นอนทับลูกน้อยวัยเพียง 1 ขวบ จนคอหักเสียชีวิตคาที่นอน ซึ่งต่อมาแม่รายนี้ได้เสียใจเป็นอย่างมาก และทำใจไม่ได้ที่ตนเป็นเหตุให้ลูก ต้องเสียชีวิต จึงตัดสินใจคว้าปืน .38 ลั่นไกยิงตัวตายตามลูกน้อยไปในที่สุด

[goosehhardcore]

อันดับ 2 เก๋งซิ่งชนรถตู้ คนร่วงโทลล์เวย์ดัยสยอง 9ศพ

อุบัติเหตุสุดสยองที่ไม่ใครเคยคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เมื่อรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชนท้ายรถตู้โดยสารอย่างจังบนโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้รถตู้พลิกคว่ำไปชนขอบกั้น จนเสียหลักไปฟาดกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง ทำให้ประตูรถตู้เปิดออก ก่อนรถตู้จะคว่ำในลักษณะตะแคง แรงเหวี่ยงส่งผู้โดยสารภายในรถกระเด็นออกมา ตกลงไปยังพื้นข้างล่าง มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ โดย 1 ใน 8 ศพ กระเด็นมาสิ้นใจบนสะพานลอยคนข้าม ที่อยู่ใต้ทางด่วนโทลล์เวย์พอดี และมีผู้บาดเจ็บ 7ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา



อันดับ 1 ทัวร์มรณะ รถบัสมาเลเซียคว่ำ คร่าชาวไทยตาย 26ศพ

อุบัติเหตุแห่งการสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อนักท่องเที่ยวชาวไทยกำลังเดิน ทางกลับจากคาเมรอน ไฮแลนด์ ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่รถบัสของพวกเขาได้ชนเข้ากับขอบกั้นถนนเป็นเหตุทำให้รถเกิดพลิกคว่ำหงาย ท้องตกลงไปในคูระบายน้ำข้างทาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยที่สุด 28 คน โดยเป็นคนไทยถึง 26 คน นอกจากนั้นยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทยได้รับบาดเจ็บอีก 9 คน เหตุร้ายคราวนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับรถโดยสารครั้งร้ายแรงที่สุดของ มาเลเซีย


ขอบคุณที่มา: http://news.sanook.com/992347-10%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B8.html

[goosehhardcore]

http://www.hondacitythailand.com/club/thread-5778-1-1.html


ตอบ(1): รถที่ชน ซีวิคครับ ไม่ใช่ซิตี้

แต่เลขทะเบียนก็ป้ายขาวครับ ไม่ใช่ป้ายแดง

(หมายเหตุ: น่าจะมีตัวจริงทั้ง 2 คัน)

ขอบคุณที่มา:- http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=3341569

[goosehhardcore]

วัฒนธรรมไทยแท้แต่โบราณวัดกันที่ชาติกำเนิด แล้วก็วิวัฒนาการมาเป็นการวัดกันที่ปริญญา ตายไปแแล้วก็ยังมีการจัดอันดับว่าเป็นศพปริญญาเอก หรือศพปริญญาตรี งานศพที่คุณแม่นส.เอไปกราบขอขมาหน้ากล้องนั่นเป็นงานศพของดร. ปริญญาเอก ส่วนศพปริญญาตรีนี่ยังไม่มีการขอขมา

ขออนุญาตคุณแม่ของคุณเกียรติมันต์ รอดอารีย์ นำข้อความที่คุณแม่เขียนไว้ที่เฟซบุ๊คของนายเกีียรติมันต์มาเผยแพร่

"ตามที่มารดาของ น.ส.A ผู้ขับรถฮอนด้าซีวิคได้ให้ข่าวในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 1 มกราคม 2554 ว่าได้มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 30, 000บาทนั้น ดิฉันและรอบครัวของนายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ ผู้เสียชีวิต และได้รับพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ขอยึนยันว่า ไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ไม่เคยได้รับการแสดง ความเสียใจ หรือขอโทษ ไม่ว่าโดยวาจา หรือการส่งพวงหรีดมาเคารพศพใดๆทั้งสิ้น

จาก กษมน มั่นศิลป์ ผู้เป็นแม่ของโน้ต
โทร 0818829xxx

จริงๆการขอขมาหน้ากล้องก็ไม่ใช่สิ่งที่" ต้อง"ทำทางกฎหมายในขณะนี้
แต่ถ้าทำก็มีผลในการพิจารณาคดี

สื่อกระแสหลักก็แถต่อไป สื่อทางเลือก (เฟซบุ๊ค สังคมออนไลน์) ก็สู้กันต่อไป

สื่อมวลชนออกข่าวมุสาไป มีคอลัมน์สอนจริยธรรมคนไป ผีหลอกกลางวันแสกๆ


บาปกรรมอะไรไม่กลัวกันหรอก ถ้ากลัวจะอาชญากรรมสูง โกงภาษีกันจนติดอันดับโลกหรือ พูดกันไปงั้นเรื่องบาปกรรม คือคนทำบาปชอบพูดเรื่องบาปกรรม ส่วนคนไม่ทำบาปก็ใจอ่อนเชื่อเขา ก็หวังพึ่งกฎแห่งกรรมแทนกระบวนการยุติธรรม

ทั้งๆ ที่กฎแห่งกรรมนั้นมีความไม่แน่นอนสูงมากไม่รู้จะตามทันกันเมื่อไร รอชาติหน้ากันไปก็เท่านั้น หันมาพึ่งกฎหมายทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิดีกว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ เด็กซิ่งเวลามาเรียนต่อสหรัฐฯก็ปรับตัว เพราะรู้ตัวว่าถ้าซิ่งที่สหรัฐฯแล้วมีคนตายเจอของจริง พ่อแม่ที่เมืองไทยช่วยไม่ได้ เขาก็ไม่ซิ่งแบบตอนอยู่เมืองไทย


ขอบคุณที่มา: Wall Photos by Phoenix Griffins

[goosehhardcore]

ภาพประกอบ ส่งนางฟ้า -ในงานฌาปณกิจ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ หรือน้องนุ่น อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บุตรสาว พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ผกก.สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ที่วัดสุปัฎนาราม อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ต.อ.ศรัญกล่าวในพิธีไว้อาลัยตอนหนึ่งว่า น้องนุ่นเปรียบเหมือนนางฟ้าและคงถึงเวลาที่นางฟ้าต้องกลับสวรรค์แล้ว

จากคดีสะเทือนขวัญ ที่รถตู้สายBTSจตุจักร-ธรรมศาสตร์รังสิตถูกรถเก๋งชนบนโทลล์เวย์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายนั้น ในขณะนี้ ได้มีกระแสสังคมเรียกร้องให้มีผู้รับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องว่าต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมในแง่ของมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการของรถตู้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีอุบัติเหตุนี้ ผู้เขียนมองว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมาย แต่น่าจะอยู่ที่ความเคารพกฎหมายของประชาชนผู้ประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายมากกว่า


สำหรับความเคารพกฎหมายที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงในที่นี้ ผู้เขียนมองในแง่มุมของ “กฎหมายเทคนิค” เป็นสำคัญ โดยกฎหมายเทคนิค คือ“กฎหมายที่ไม่มีความถูกผิดในตัวเอง แต่ความถูกผิดเกิดขึ้นจากการกำหนดขึ้นมาโดยกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเทคนิคถูกบัญญัติขึ้นโดยเหตุผลทางเทคนิคบางประการ เพื่อความสะดวกของการอยู่ร่วมกันในสังคม”


ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายว่าด้วยการจราจร ซึ่งบัญญัติห้ามการขับยานพาหนะฝ่าสัญญาณไฟจราจรสีแดงไว้ ซึ่งการฝ่าสัญญาณไฟจราจรนี้ หากพิจารณาโดยสามัญสำนึกแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะไม่ใช่สิ่งที่ขัดต่อศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์หรือจารีตประเพณีใด ทว่าหากไม่กำหนดว่าห้ามฝ่าไฟแดง การสัญจรบนท้องถนนย่อมสับสนอลหม่านและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการใช้ถนน กฎหมายจึงกำหนดว่าห้ามขับยานพาหนะฝ่าสัญญาณไฟจราจรสีแดง


โดยกฎหมายเทคนิคนั้น จะแตกต่างกฎหมายชาวบ้าน ตรงที่กฎหมายเทคนิคจะไม่มีรากฐานทางกฎหมายมาจากเรื่องทางศีลธรรมหรือจารีตประเพณีเลย ขณะที่กฎหมายชาวบ้านนั้นจะมีรากฐานทางกฎหมายมาจากศีลธรรมหรือจารีตประเพณี เช่น การฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดอยู่ในตัวเอง ดังนั้นเมื่อฝ่าฝืนกฎหมายเทคนิค มนุษย์จึงไม่ได้รู้สึกว่าตนทำผิดอะไร กฎหมายเทคนิคจึงไม่มีลักษณะบังคับตามธรรมชาติ อันเป็นจุดอ่อนในการบังคับใช้กฎหมายเทคนิค


เมื่อกลับมาพิจารณาที่อุบัติเหตุคดีนี้และรวมไปถึงคดีอื่นๆด้วย เช่น คำพิพากษาฎีกาที่3055/2551, 4067/2550 โดยทั้งสองคดีนี้ เป็นคดีเมาแล้วขับซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา43ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 คดีที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะการขาดความเคารพในกฎหมายเทคนิคของประชาชนผู้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย


ซึ่งจากข้อเท็จจริงนั้น นางสาว เอ อายุราวๆ16-17ปี โดยปรากฏชัดแจ้งว่า นางสาวเอไม่มีใบขับขี่ แต่กลับนำรถยนต์ออกมาขับขี่บนถนนโทลล์เวย์อันเป็นถนนสาธารณะ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และที่น่าสงสัยยิ่งกว่านั้นคือ ผู้ที่เป็นเจ้าของรถ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ารถเก๋งดังกล่าวเป็นของบิดา หรือมารดาของนางสาว เอ หรือผู้อื่น และเพราะเหตุใดจึงได้อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีใบขับขี่นำรถยนต์ออกมาขับขี่ได้

นอกจากนี้ จากข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์นางสาว เอ ทางโทรศัพท์ผ่านรายการ "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ทางโมเดิร์น ไนน์ทีวี ทำให้ทราบว่า ขณะขับขี่รถยนต์นั้น นางสาว เอ ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งก็เป็นการละเมิดต่อกฎหมายอีกประเด็นหนึ่งเช่นกัน

รวมไปถึงการขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วสูงเกินกว่าอัตราเร็วที่กฎหมายกำหนดคือ เกินกว่า80กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ผู้เขียนสันนิษฐานว่าทั้งรถยนต์และรถตู้ต่างก็ขับด้วยความเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


ในส่วนของรถตู้โดยสารสาธารณะ จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้นั่งรถตู้โดยสารมานั้น โดยส่วนใหญ่ รถตู้มักดัดแปลงเบาะที่นั่งโดยสารเพื่อให้บรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น ซึ่งการดัดแปลงเบาะที่นั่งนี้ จะทำให้เบาะโดยสารไม่มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย อันเป็นการขัดต่อประกาศกรมการขนส่งทางบก ซึ่งหากมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัย จะทำให้ผู้โดยสารบางส่วนคาดเข็มขัดเพิ่มเติม และอาจทำให้ผู้เสียชีวิตมีจำนวนน้อยกว่าที่เป็นอยู่

ในส่วนของทั้งนางสาว เอ และ รถตู้นั้น มีการละเมิดกฎหมายในหลายกรณี โดยเป็นการละเมิดกฎหมายเทคนิคทั้งสิ้น เพราะกฎหมายที่กล่าวมานั้นไม่ได้มีรากฐานมาจากเรื่องทางศีลธรรมหรือจารีตประเพณี หากนางสาว เอ ไม่ละเมิดกฎหมายเทคนิค นั่นคือไม่ขับรถขณะที่ไม่มีใบขับขี่ รวมไปถึงหากรถตู้ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยตามกฎหมาย ผู้เขียนเชื่อว่า อุบัติเหตุที่อาจเกิดขณะใช้รถใช้ถนนคงจะไม่เกิดขึ้น หรือมีความสูญเสียลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ปัญหาของประเทศไทย ตามที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในข้างต้น นั่นก็คือ ความเคารพกฎหมาย เพราะหากเคารพกฎหมายแล้ว อุบัติเหตุบนท้องถนนก็จะลดน้อยลงมาก


ยกตัวอย่างเช่น การขับขี่ยานพาหนะบนถนนนั้น สัญญาณไฟจราจรสีเหลืองนั้น คือสัญญาณบอกเพื่อเตรียมจะหยุด แต่ยานพาหนะมักเร่งความเร็วเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจรสี ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เช่น ประเทศญี่ปุ่น เมื่อผู้ขับขี่เห็นสัญญาณไฟจราจรสีเหลืองยานพาหนะทุกคันจะหยุดโดยพร้อมเพรียงกัน ไม่มียานพาหนะใดที่ขับฝ่าสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง ทั้งนี้เพราะประชาชนของประเทศญี่ปุ่นมีความเคารพกฎหมายสูง


คดีนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆคดีที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้นยังมีโศกนาฏกรรมอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่เกิดขึ้นบนท้องถนนของประเทศไทย และมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังเช่นกรณีของการเมาสุราขณะขับยานพาหนะ เพียงแต่ไม่เป็นที่จับตามองของสังคม ดังนั้นเพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมดังเช่นคดีนี้เกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนท้องถนนของประเทศไทย ผู้เขียนมองว่า จะต้องแก้ปัญหาที่รากฐาน มิใช่แก้ปัญหาที่ปลายยอด ดังเช่นที่เป็นมาเสมอ

ดังนั้นจุดที่ประเทศไทยจะต้องปรับปรุงแก้ไขนั้นคือ จะต้องสร้างวัฒนธรรมการเคารพกฎหมายให้เข็มแข็ง ซึ่งการสร้างสำนึกนี้จะต้องอาศัยความเข้มงวดกวดขันจากสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา ที่จะต้องช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการเคารพกฎหมายให้ฝังรากลึกลงในนิสัยของเด็ก

ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น จะให้ความสำคัญกับอาชีพครูมาก เพราะกฎหมายญี่ปุ่นและประชาชนคาดหวังในหน้าที่ของครู โดยคาดหวังว่าครูจะช่วยปลูกฝังทัศนคติของสังคมลงในตัวเด็ก โดยครูที่ปล่อยให้นักเรียนกระทำผิดกฎหมายนอกโรงเรียน จะถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบและแสดงการขอโทษ ซึ่งจากการสั่งสอนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมของครูญี่ปุ่น ส่งผลให้เด็กญี่ปุ่นได้รับการปลูกฝังวัฒนธรรมการเคารพกฎหมายกฎหมายมาอย่างเข้มงวด เมื่อเป็นผู้ใหญ่จึงเป็นพลเมืองดีที่เคารพกฎหมาย มองว่ากฎหมายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามล่วงละเมิด


ทั้งนี้ในขณะที่วัฒนธรรมทางกฎหมายยังไม่เข็มแข็ง ในส่วนของบทบัญญัติกฎหมายนั้น จะต้องมีโทษที่รุนแรงถึงขนาดจะทำให้ประชาชนเคารพยำเกรงกฎหมาย ทั้งนี้เพราะกฎหมายเทคนิคนั้นขาดสภาพบังคับตามธรรมชาติ


ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องใบขับขี่ยานพานะ สำหรับประเทศไทยหากขับรถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่ มีอัตราโทษคือ จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่เรื่องเดียวกันนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น มีอัตราโทษคือจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนเยน (ประมาณหนึ่งแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อัตราโทษของกฎหมายไทยนั้นต่ำกว่าของกฎหมายญี่ปุ่นมากพอสมควร อันส่งผลต่อค่าบังคับของกฎหมาย เพราะอัตราโทษที่สูงย่อมเป็นการป้อมปรามไม่ให้บุคคลกระทำการอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายอยู่ในตัวเอง


รวมทั้งภาคสังคม และองค์กรภาครัฐเองก็จะต้องเข้มงวดกวดขันในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องไม่เลือกปฏิบัติในการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย และต้องคำนึงอยู่เสมอว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย หากพบผู้กระทำผิดจะต้องจับกุมทันที เพราะหากบัญญัติกฎหมายขึ้นแล้ว แต่องค์กรภาครัฐจับกุมผู้กระทำผิดบ้าง ไม่จับบ้าง จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ และจะทำให้กฎหมายเป็นเพียงกฎเกณฑ์ที่เป็นตัวหนังสือไร้สภาพบังคับ แม้บทบัญญัติจะมีโทษรุนแรง


ยกตัวอย่างเช่น การตรวจใบขับขี่ยานพาหนะ ตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดนั้น จะต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอ มิใช่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเฉพาะช่วงวันเทศกาลที่มีประชาชนใช้ถนนสัญจรเป็นจำนวนมากเท่านั้น แต่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติกับประชาชนทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ อันจะช่วยให้กฎหมายเทคนิคมีสภาพบังคับ ดังจะเห็นได้จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตำรวจได้จับลูกสาวของประธานาธิบดี George W. Bush ในข้อหานำบัตรประชาชนปลอมไปซื้อสุรา อันแสดงถึงการไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าผู้กระทำความผิดจะเป็นบุคคลใดก็ตาม


อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ต้องมีความสำนึกว่าตนทำหน้าที่แทนส่วนรวม (Public mind) และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่อาศัยอำนาจที่ตนมีตามกฎหมายในการแสวงหาประโยชน์ส่วนตน เพราะการกระทำเช่นนั้น ย่อมจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในตัวเจ้าหน้าที่ อันจะส่งผลให้ประชาชนไม่ยอมเคารพปฏิบัติตามกฎหมายในท้ายที่สุด


ยกตัวอย่างเช่น การออกใบสั่งนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องออกใบสั่งเพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ มิใช่การออกใบสั่งเพื่อฉวยโอกาสหาประโยชน์โดยการรีดไถเงินจากผู้ใช้ยานพาหนะ เพราะหากเจ้าหน้าที่กระทำการดังกล่าว ย่อมส่งผลให้ประชาชนเสื่อมความเชื่อถือในตัวเจ้าหน้าที่และในท้ายที่สุด ประชาชนจะไม่ยอมเคารพปฏิบัติตามกฎหมาย


หากประเทศไทยยังไม่มีการปรับปรุงในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ผู้เขียนเข้าใจว่า แม้จะมีการกำหนดมาตรการใดๆเพิ่มเติมขึ้นมาแต่หากประชาชนยังคงขาดจิตสำนึกในการเคารพกฎหมายและบ้านเมืองยังขาดการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นกิจจะลักษณะแล้ว คดีสะเทือนขวัญนี้ เมื่อเวลาผ่านไปจะเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆคดีที่จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนท้องถนนของสังคมไทยอีกคดีหนึ่งเท่านั้น


(เรื่องโดย เอื้อการย์ โสภาคดิษฐพงษ์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ที่มาข้อมูล: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1294032556&grpid=01&catid=&subcatid=