นายกฯ ยอมรับรู้สึกเหนื่อยแต่เห็นใจประชาชนมากกว่า

[goosehhardcore]

นายกฯ ยอมรับรู้สึกเหนื่อยแต่เห็นใจประชาชนมากกว่า

เมื่อวันที่ 11 ต.ค เวลา 17.30 น. ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า เท่าที่ดูพบว่ามีประชาชนบางส่วนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยเฉพาะในเขตที่การคมนาคมยังเข้าไปไม่ถึง ซึ่งอาจจะมีการแบ่งโซนพื้นที่ในการเข้าไปดูแลและบางพื้นที่ก็อาจต้องอพยพประชาชนออกมา เพราะการช่วยเหลือจากภาครัฐแม้แต่ทางเรือยังเข้าไปไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้บินดูบริเวณนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคและนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งได้เห็นสภาพแล้วว่ามีน้ำทะลักเข้าไปในพื้นที่จำนวนมาก และได้ไปตามหาทารกวัย 6 เดือน ที่มารดาได้โทรศัพท์ร้องเรียนผ่าน Call Center หมายเลข 1111 กด 5 ซึ่งติดอยู่ในเกาะกลางน้ำ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ประสานไปยังตำรวจน้ำให้ไปติดตามและได้พบตัวเด็กนำมาส่งคืนมารดาที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะได้แล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ดูความเสียหายนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ยอมรับว่าคงต้องมีการปรับลดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลง เพราะมีผลกระทบในแนวกว้างจริง ๆ ในส่วนตัวนิคมอุตสาหกรรมโรจนะน่าจะเสียหายประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กลับไปทบทวนตัวเลขดูอีกครั้ง ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูเยียวยาทำงานควบคู่กันไปจำนวน 3 ชุด ชุดแรกด้านการฟื้นฟูเรื่องเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม รวมถึงดูแลผู้ประกอบการ และคนงานที่ตกงาน ชุดที่สองดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะให้ไปดูภาพรวมเรื่องการเดินทางต่าง ๆ สาธารณูปโภค โรงเรียน สถานศึกษา และวัดที่เสียหาย และชุดที่สามด้านการฟื้นฟูด้านสุขภาพชีวิต เพื่อให้มีอาชีพเลี้ยงตัวได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูเท่าไหร่ แต่เบื้องต้นคณะรัฐมนตรีจะปรับลดงบประมาณรายจ่ายของแต่ละกระทรวงลงไปร้อยละ 10 เพื่อจัดสรรเป็นงบสำหรับการฟื้นฟู

(มีต่อ)

[goosehhardcore]

ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่าต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูถึง 1 แสนล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็ตัดจากงบประมาณแต่ละกระทรวงร้อยละ 10 ซึ่งก็หลายหมื่นล้านบาท และจะไปทบทวนงบประมาณกลางปีอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งอาจใช้โครงสร้างมาตรการทางภาษีหรือรูปแบบเงินกู้ ซึ่งขณะนี้มีสถาบันการเงินต่างๆ ที่พร้อมให้ความร่วมมือ ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คณะทำงาน 3 ชุดได้ทำงานก่อน อย่างไรก็ตามยินดีหากแหล่งเงินกู้ใดพร้อมให้ เราก็จะทำ เพราะการฟื้นฟูก็ต้องเร่งทำในทุกส่วน


ส่วนการผลักดันน้ำลงสู่ทะเล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่ปริมาณน้ำฝน หากมีปริมาณมากก็จะระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ยาก แต่หากเราเร่งขุดลอกคูคลองให้เสร็จและทำพนังกั้นน้ำ 3 จุดสำคัญ คือ เมืองเอก รังสิตคลอง 5 และศาลายาให้แข็งแรง การระบายน้ำจะมีทางระบายได้ แต่วันนี้น้ำไม่มีทางไปทำให้สถานการณ์น้ำไปหนักอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงต้องค่อย ๆ ประคับประคองสถานการณ์น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไว้


กรณีที่น้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 14 - 17 ต.ค.นั้น จะทำให้น้ำระบายไม่ได้ ซึ่งต้องช่วยกันทำให้รอยต่อมีความแข็งแรงรองรับสถานการณ์น้ำได้ ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกัน และขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ขออย่าให้ประชาชนไปดึงกระสอบทราย วันนี้ต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ทั้งหมด ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่เครียด สำหรับการขุดลอกคูคลอง หากไม่ทันตามที่กำหนดไว้ อาจจะต้องตัดสินใจดำเนินการขุดลอกคลองบางคลองอย่างเร่งด่วนให้แล้วเสร็จ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่การบริหารจัดการ และได้ติดตามการดำเนินการอยู่ตลอดเวลา


นายกรัฐมนตรีกล่าวยอมรับว่า รู้สึกเหนื่อยแต่เห็นใจประชาชนมากกว่า เพราะบางที่ยังขาดแคลนอาหาร ส่วนคนที่อยู่ในค่ายอพยพสบายใจแล้ว เหลือแต่ประชาชนที่ยังไม่ได้ย้ายออกมา ทั้งนี้ หากสถานที่อพยพไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้อพยพ ซึ่งใช้ค่ายทหารทั้งหมด และศูนย์ต่าง ๆ แล้ว รัฐบาลได้เตรียมสถานที่ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิไว้รองรับจำนวนผู้อพยพ และสำหรับจอดยานพาหนะ โดยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเร่งสำรวจแล้ว นอกจากนั้นยังมีคลังสินค้าของสนามบินดอนเมือง

(มีต่อ)

[goosehhardcore]

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องของสถานที่พักของผู้อพยพไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นเรื่องของปลายทาง แต่เป็นห่วงว่าจะสามารถนำประชาชนออกมาได้อย่างไรนั่นคือต้นทาง เพราะจากการไปบินสำรวจพบว่าบางบ้านยังอยู่กลางน้ำ และยกป้ายขอความช่วยเหลือ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ไปส่งเสบียงได้ทุกบ้าน หากประชาชนย้ายมาอยู่ในศูนย์อพยพก็จะไม่เป็นปัญหาเรื่องนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการจัดโซนไว้แล้ว ทุกโซนจะมีศูนย์อาหาร แต่คนกลับไม่เข้ามาอยู่ที่ศูนย์อพยพ

การป้องกันพื้นที่กรุงเทพมหานคร นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายาม แต่เนื่องจากเป็นภารกิจที่คาบเกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งรัฐบาลได้ขอความร่วมมือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการกำจัดผักตบชวาไปแล้ว และได้หารือกันตลอด เพราะเรื่องนี้คือสิ่งสำคัญ


ในกรณีถึงจุดวิกฤติจำเป็นต้องปล่อยน้ำเข้ากรุงเทพหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้น ต้องกั้นตรงนี้ก่อน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าพายุลูกใหม่จะยังไม่เข้าประเทศไทย ก็หวังว่าจะไม่มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผังการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพมหานครที่รัฐบาลได้เตรียมไว้มีอยู่ 2 ทาง คือการระบายออกด้านข้าง และปล่อยลงพื้นที่ซึ่งวิธีนี้รัฐบาลไม่ต้องการทำ


นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดูจากภาพถ่ายทางอากาศยังเห็นสถานการณ์น้ำไม่ชัดเจนเท่าไหร่ คงจะไปดูทางเรือเพิ่มเติม โดยในเบื้องต้นได้มอบให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เข้าไปดูเพิ่มเติม


ซึ่งวันนี้ในส่วนของรอยต่อต่าง ๆ ทาง กรุงเทพมหานครรับไปดูแลเพราะเป็นเขตรอยต่อของกรุงเทพมหานครกับเขต จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับปากว่าจะไปปรับปรุงรอยต่อให้แข็งแรงที่สุดภายใน 3 วัน และในส่วนของคลองต่าง ๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับผิดชอบในการติดตาม เพราะในคลองที่จะขุดทั้งหมดเบื้องต้นได้ตกลงกัน 5 คลอง ซึ่ง 3 คลอง อยู่ในการดูแลของ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และสองคลองที่เหลือ อยู่ในการดูแลของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งจะพยายามเร่งทำให้เสร็จภายใน 3 วัน ถ้าทั้งหมดเสร็จตามเป้าหมาย น่าจะมีความปลอดภัยขึ้น ในส่วนกรุงเทพมหานครจะให้ทางกรมชลประทานมอนิเตอร์ดูในส่วนของระดับน้ำด้วย


สำหรับการระบายน้ำสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ที่หารือกันปริมาณน้ำทั้งหมดทั่วประเทศมีปริมาณมาก ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการระบายน้ำลงไปจะติดในเรื่องของคลองต่าง ๆ สุดท้ายผลที่ออกมาไม่ได้มากเหมือนที่ต้องการ ดังนั้นต้องพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะระบายน้ำ สำหรับมวลน้ำทั้งหมดขณะนี้มีถึง 10 - 20 ลบ.ม. ซึ่งเทียบกับปริมาณน้ำที่มีทั้งหมดทั่วประเทศที่เป็นหมื่นล้าน ถือว่าน้อยแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร และในภาพรวมปริมาณน้ำยังไม่เพิ่มมากขึ้น หากปริมาณฝนยังไม่เพิ่มขึ้นทุกวัน


สำหรับแนวกั้นน้ำทั้ง 3 จุด ที่กั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้ากรุงเทพมหานคร และมีรายงานว่า ประชาชนพยายามจะเข้าพัง แนวกั้นน้ำจะแก้ปัญหาอย่างไร นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทาง กรุงเทพมหานคร ตรวจเวรยามในการเฝ้าและขอความร่วมมือ ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน ในส่วนของแนวรอยต่อ หากไปดึงออกจะทำให้น้ำทะลักเข้ามา ดังนั้นขอความร่วมมือในการรักษาแนวกำแพงกั้นน้ำนี้ไว้ เพราะเป็นวิธีการป้องกันรอยต่อที่ต้องช่วยกันป้องกัน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1318392036&grpid=02&catid=&subcatid=