GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !!

Go down

งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !! Empty งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !!

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Wed Aug 31, 2011 10:10 am

กัมพูชาออกแถลงการณ์ยินดีเจรจารบ.ยิ่งลักษณ์พร้อมแฉรบ.มาร์ค

ในวันนี้(30 ส.ค.) องค์การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงการดำเนินการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา ในอ่าวไทย ซึ่งในการเจรจาภายใต้การดำเนินการของรัฐบาลสมเด็จฯฮุน ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆ ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา รวมถึงข้อกล่าวหาจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ทำลายการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลลง โดยที่ผ่านมา รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีความพยายามติดต่อเจรจาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลมายังรัฐบาลสมเด็จฯฮุน เซ็น ด้วย นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังได้แสดงความยินดีและพร้อมจะเปิดการเจรจากับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกี่ยวกับเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชน ทั้ง 2 ประเทศ

ในแถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุ โดยอ้างบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชา อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับวันที่ 18 มิ.ย.2544 และการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม ซึ่งเอ็มโอยูปี 2544 ไม่ใช่เอกสารธรรมดา แต่เป็นเอกสารบันทึกความเข้าใจของ 2 ประเทศ ที่ได้จัดตั้งคณะทำงานทางเทคนิค ขึ้นมาเจรจาในเรื่องเขตแดน ในระหว่างปี 2544 - 2550 โดย 2 ประเทศประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งได้เกิดข้อเสนอในหลายประการ ทั้งในเรื่องการแบ่งโซนในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ในอ่าวไทย

แถลงการณ์ ระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คณะทำงานไม่ได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้พยายามติดต่อเพื่อเปิดเจรจาในเรื่องนี้กับทางรัฐบาลสมเด็จฯฮุน เซ็น โดยมีการประชุมระหว่างสมเด็จฯฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันที่ 27 มิ.ย. 2551 ที่ จ.กันดาน ใกล้กับกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีการประชุมระหว่างนายสุเทพ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2552 และที่คุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 16 ก.ค.2553 ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายสุเทพ ได้แสดงความตั้งใจ และอ้างพันธะที่ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ ในการดำเนินการเปิดเจรจาดังกล่าว ที่นำไปสู่คำถามจากรัฐบาลสมเด็จฯฮุน เซ็น ว่า ทำไมถึงต้องมีการประชุมลับ ทั้งที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ สามารถเจรจากับกัมพูชาได้อย่างเปิดเผย

:lookhere: แถลงการณ์ ยังอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวหาการเจรจาครั้งก่อนๆ ว่า เต็มไปด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวมากมาย ดังนั้น รัฐบาลกัมพูชาจึงขอถามว่า ทำไมภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ จะต้องมีการประชุมลับเช่นนี้ด้วย ซึ่งประชาชน ส.ส.ของไทย และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทราบถึงการเจรจาทางลับนี้หรือไม่ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในขณะนี้ ได้ประกาศยืนยันความโปร่งใสครั้งแล้วครั้งเล่า และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ซึ่งทำงานกับกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่า มีผลประโยชน์ส่วนตัวกับกัมพูชา นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังคงพยายามขัดขวางการเจรจาระหว่างรัฐบาลสมเด็จฯฮุน เซ็น กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดังนั้นกัมพูชาจึงมีความจำเป็นต้องเปิดเผยความลับนี้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์และชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้ประชุมใดๆ กับกัมพูชา หรือมีข้อเสนอใดกับกัมพูชา เกี่ยวกับการเจรจาผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ตามที่นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวหาในการแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่อรัฐสภา ในระหว่างวันที่ 23 - 25 ส.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กัมพูชา ยินดีจะเปิดการเจรจาอีกครั้งในเรื่องนี้ ในการแสวงหาแนวทางปฏิบัติและเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน 2 ประเทศ โดยมีการลงนาม ในท้ายแถลงการณ์ระบุ กรุงพนมเปญ วันที่ 30 ส.ค.54

เครดิต:breakingnews.nationchannel.com


แก้ไขล่าสุดโดย lucky m. เมื่อ Thu Sep 01, 2011 6:48 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !! Empty "ปานเทพ" จับเงื่อนเวลาเชื่อเขมรแฉจริง

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Wed Aug 31, 2011 10:21 am

"ปานเทพ" จับเงื่อนเวลาเชื่อเขมรแฉจริง

วันที่ 30 ส.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้ ออกอากาศทางสถานี ASTV ถึงกรณีเขมรออกมาแฉว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไปเจรจาลับกับ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึง นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าก่อนอื่นเรื่องนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่า สิ่งที่เขมรแถลงเป็นข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องรอให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาชี้แจงก่อนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากไม่จริงนายสุเทพต้องออกมาแถลง แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริง แสดงว่าทางเขมร คงจะงงว่าทำไมที่ผ่านมา รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ พยายามเจรจาเรื่องผลประโยชน์ในอ่าวไทยตลอด อยู่ดีๆต่อมาถึงให้สมาชิกในพรรค ยกมือถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ทั้งนี้หากเราเอาเงื่อนเวลามาต่อเป็นจิ๊กซอว์ จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เริ่มจาก วันที่ 27 มิ.ย. 2552 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปเจอ ฮุนเซน อย่างเป็นทางการ ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. 2552 นายสุเทพ แอบไปพบกับ ซกอาน ที่ฮ่องกง อีกสามเดือนถัดมา ครม.ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีมติให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 แต่ไม่มีการแจ้งให้เขมรทราบว่ายกเลิกเอ็มโอยู 2544 หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2553 นายสุเทพ ไปเจรจาลับกับ ซกอาน รอบที่สองที่คุนหมิง ประเด็นที่น่าสนใจคือ แม้ครม.จะให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 แล้ว แต่นายสุเทพ ยังรุกคืบไปเจรจาเรื่องผลประโยชน์ในอ่าวไทยต่อ

นายปานเทพ กล่าวอีกว่าหลังจากครม.มีมติให้ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ได้ข่าวว่า ส.ว.คำนูญ สิทธิสมาน ถาม นายกษิต ภิรมย์ ในสภาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2544 ถึงการจัดการยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ซึ่งได้คำตอบว่า "ตั้งเป้าให้เสร็จก่อนสิ้นปี ขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออีก 2-3 เดือน" ที่น่าตกใจต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 2553 ครม.ตั้งนายสุเทพ เป็นประธานเทคนิคร่วมในการเจรจาผลประโยชน์ร่วมในอ่าวไทย ด้วยเหตุนี้ทำให้อดไม่ได้ที่จะสงสัยในมติครม. ที่ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 เป็นเพราะเห็นว่าไทยเสียประโยชน์ หรือ เป็นแค่การเคาะกะลากันแน่ อีกอย่างเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามีมติครม.จะยกเลิกเอ็มโอยู2544 แล้วเหตุใดนายสุเทพ ต้องไปเจรจาต่อแถมบอกจะจบเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลให้ได้

เมื่อย้อนมองเงื่อนไขเวลาตั้งแต่เดือน ส.ค.2553 จึงไม่แปลกใจเลยถึงเหตุผลที่ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ พยายามเอา เจบีซีทั้ง 3 ฉบับ ผ่านสภาให้ได้ จึงได้เห็นภาพพยายามแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 จากเดิมเคยเข้าใจว่าเรื่องของความคลาดเคลื่อน แต่เมื่อมองเงื่อนเวลาแล้วย่อมสงสัยได้ว่า ทั้งหมดมีการวางแผนไว้แล้วทั้งสิ้น หากถามว่าถ้าปล่อยให้มีการเจรจาต่อไปผลจะเป็นอย่างไร ไทยได้หรือเสียผลประโยชน์ เห็นชัดเจนพื้นที่ที่อ้างสิทธิ์ของเขมร เรียกร้องสิทธิทับซ้อนมากเกินความเป็นจริง

"หากสิ่งที่ ซก อาน พูดเป็นความจริง และนายสุัเทพ ไม่ปฎิเสธแสดงว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความจริงใจยกเลิก เอ็มโอยู2544 ต้องการใช้เป็นเครื่องมือเอาไว้เจรจาผลประโยชน์ต่อไป ซ้ำร้ายยังส่งต่อพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งเกินความเป็นจริงให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ไปส่วมตอต่อ"

นายปานเทพ กล่าวว่า น่าเศร้า ตกลงแล้วเราจะพึ่งนักการเมืองฝั่งไหนกับปัญหาเอ็มโอยู 2544 ได้บ้าง คงหวังยาก ดังที่เราพูดบนเวทีชุมนุมที่สะพานมัฆวานตลอด ว่า รบ.นี้สวมตอต่อ ซึ่งวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วเป็นความจริงหรือไม่ จากการยืนยันของ ซกอาน อย่างไรก็ดีหากเป็นเรื่องจริง ต้องขอความรับผิดชอบจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ตกลงต้องการสวมตอต่อตาก รบ. ทักษิณ ใช่หรือไม่

http://thairecent.com/Politic/2011/934449/
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !! Empty Re: งานเข้าอีกแล้วเว้ย..!!! นายกฯ สั่ง"สุรพงษ์"สอบการเจรจาลับ "เขมร-รบ.ที่แล้ว" !!

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Thu Sep 01, 2011 6:46 pm

วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 14:26:17 น.
มติชน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 กันยายน นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแถลงการณ์ขององค์การปิโตรเลียมกัมพูชา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเรื่องนี้ในประเด็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล อีกทั้งอาจเป็นข้อสงสัยในประชาชน จึงได้มีการสั่งการให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร

ทั้งนี้ ยังไม่ได้กำหนดเวลา แต่นายสุรพงษ์ยืนยันว่าต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที ซึ่งส่วนเนื้อหาในแถลงการณ์ก็เป็นเรื่องของกัมพูชากับรัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่บ่งบอกว่าเป็นการเจรจาในลักษณะทางลับ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่าการเจรจาใดๆ ของทุกรัฐบาลควรจะมีขั้นตอนมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้อย่างแท้จริงในหลักการ

นางฐิติมากล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลชุดนี้ คงต้องเป็นการเจรจาลักษณะเปิดเผยแน่นอนเหมือนอย่างที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ เพราะว่าความโปร่งใสมันเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ เราคงไม่ให้ไปทำในทางลับเหมือนอย่างกับที่รัฐบาลชุดที่แล้วที่เขาถูกกล่าวหากัน ซึ่งทางลับมันก็แสดงว่ามีอะไรหรือเปล่า มีผลประโยชน์อะไรทับซ้อนตรงนั้น ส่วนจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นเพราะก่อนหน้านี้มีข่าว พ.ต.ท.ทักษิณมีการเจรจาเรื่องนี้หรือไม่นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่าท่านไม่ได้มีธุรกิจเรื่องนี้เลย
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics
» "สุรพงษ์"แย้ม"ทักษิณ"จะเปิดตัวบุคคลชูเป็น"นายกฯ"ช่วงปีใหม่
» เขมร แถลงโต้ไทย ปัดส่งสายลับเข้าไทย ฉะ อภิสิทธิ์ สร้างเรื่องโกหก วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2554 เขมร แถลงโต้ไทย ปัดส่งสายลับเข้าไทย ฉะ อภิสิทธิ์ สร้างเรื่องโกหก
» ความจริงเรื่องเขตแดนไทย-เขมร
» บิ๊กทหารแฉ"เขมร"
» มติกกต.สั่ง พธม.ปลดป้ายรูปสัตว์แล้ว

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ