GENERAL HERO2010 Member
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

พยานเอกโผล่แฉ คดี 6 ศพวัดปทุมฯ!

Go down

พยานเอกโผล่แฉ คดี 6 ศพวัดปทุมฯ!   Empty พยานเอกโผล่แฉ คดี 6 ศพวัดปทุมฯ!

ตั้งหัวข้อ  lucky m. Wed Feb 22, 2012 11:56 am

ed Today, 10:21 AM




พยานเอกโผล่แฉ คดี 6 ศพวัดปทุมฯ!   Image-B32F_4F445A3A
อาสาพยาบาลวัดปทุมวนารามโผล่ให้การตำรวจมัดเจ‰าหน้าที่ยิงใส่ ประชาชนคืน 19 พ.ค.
เผยถูกยิงใส่เต็นท์พยาบาลจนหวาดผวาถูกบุกฆ่าเรียงตัว
ย้อนอดีต 'อัฐชัย' ถูกยิงร่วง ก่อนที่อาสามูลนิธิเข้าช่วยถูกยิงดับตาม น้อง 'เกด' ก็ถูกยิงทั้งที่มีสัญลักษณ์กาชาดชัดเจน
ย้ำต้องออกมาไม่ให้ใครตายฟรี จี้มาร์ค-เทือก จับชายชุดดำให้ได้ ส.ว.เสวนาเยียวยา 'อังคณา'
แนะรัฐเปิดความจริงสร้างความไว้ใจนำสู่ความปรองดอง 'ขวัญชัย' แจงเกาเหลานปช. เหตุมีคนเป่าหู ย้ำรักแม้วเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หัวหน้าพยาบาลอาสา ปฏิบัติหน้าที่ในวัดปทุมวนาราม
ในเหตุการณ์สลายชุมนุม พ.ค. 53 เปิดใจกับ 'ข่าวสด'
เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้พยาบาลอาสาที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า
การปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้พยาบาลอาสา
และอาสาสมัครกู้ภัยถูกยิงเสียชีวิต 6 ราย คือ นายบุญทิ้ง ปานศิลา อาสาวชิรพยาบาล นายมานะ แสนประเสริฐศรี อาสาป่อเต็กตึ๊ง
และนายถวิล คำมูล อาสาสยามร่วมใจ ถูกยิงขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบริเวณซอยรางน้ำ ช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 53

นอกจากนี้ยังมี น.ส.กมนเกด อัคฮาค นายอัครเดช ขันแก้ว และนายมงคล เข็มทอง ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม
วันที่ 19 พ.ค. 53 ทั้งที่ทุกคนถูกยิงขณะสวมเสื้อ หรือปลอกแขนมีสัญลักษณ์อาสาพยาบาล
ซึ่งถือว่าโหดร้ายเกินกว่าจะยอมรับได้ จึงต้องออกมาเป็นพยานให้การกับตำรวจ

"ก่อนหน้านี้ไม่กล้าออกมา เพราะเกรงจะถูกทำร้าย และยังทำใจไม่ได้
แต่ตอนนี้พร้อมแล้ว เพราะการที่พยาบาลอาสาถูกทำร้าย
ทั้งที่กฎเจนีวาก็ระบุว่า
ในสนามรบทหารเสนารักษ์ที่เข้าไปทำหน้าที่ยังถูกคุ้มครอง
แต่อาสาพยาบาลที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน ยังถูกสาดกระสุนไม่ยั้ง
และยังเห็นกับตาว่า เจ้าหน้าที่ขนศพใส่รถยีเอ็มซีที่มีโลงศพอยู่ 5 ใบไป
ทำให้ต้องออกมายุ่งเกี่ยว ไม่อย่างนั้นเพื่อนของเราก็ต้องตายฟรี"
น.ส.ณัฏฐธิดากล่าว

น.ส.ณัฏฐธิดากล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า
กลุ่มพยาบาลอาสาที่ตนร่วมด้วย
เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 53 ที่ลาดหลุมแก้ว
กระทั่งเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 ที่แยกคอกวัว
เป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่มีคนเจ็บเป็นพันคน จึงมาช่วยในนามภาคประชาชน
มีเครื่องแบบเสื้อสีขาว มีกากบาทสีเขียวอยู่ด้านหลัง
วันดังกล่าวเพื่อนอาสาฯ เก็บได้ทั้งกระสุนยางและกระสุนจริงไว้เต็มกำมือ
และยังเก็บเป็นหลักฐานไว้จนวันนี้ และหลังจากเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53
ก็ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก
เพราะผู้มาชุมนุมก็เรียกร้องเพียงให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ
ในขณะนั้นลาออกเท่านั้น แต่ในวันที่ 14-15 พ.ค. 53 กลับมีอาสาฯ ถูกยิงอีก

น.ส.ณัฏฐธิดากล่าวว่า จนกระทั่งวันที่ 16 พ.ค. 53
กลุ่มของตนต้องย้ายเต็นท์พยาบาลจากหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาภายในวัดปทุมวนาราม
เพราะเหตุการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ
จนไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้ และคิดว่าอย่างน้อยภายในวัดเป็นเขตอภัยทาน น่าจะปลอดภัย
โดยเราติดสัญลักษณ์กาชาดไว้หน้าเต็นท์ยาตลอด
จนกระทั่งวันที่ 18 ก.พ. 53 เมื่อกลุ่มส.ว.ที่มาเป็นตัวแทนเจรจา แล้วขอให้ประชาชนกลับบ้าน พวกตนก็คิดว่าจะได้กลับแล้ว
แต่รุ่งเช้าวันที่ 19 พ.ค. 53 กลับมีการเข้ามาสลายการชุมนุม มีเสียงปืนดังเป็นระยะเจ้าหน้าที่เริ่มกระชับพื้นที่เข้ามา
จนอาสาฯ เกือบทั้งหมดต้องเข้ามาหลบในวัดปทุมวนารามเพราะเชื่อว่าจะปลอดภัย แต่เวลาประมาณ 17.00 น.
เริ่มมีปืนยิงเข้าไปในวัด ตนเห็นเจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นข้างล่างชัดเจน
จนกระทั่งคนในวัดถูกยิงตายทีละคน ตั้งแต่นายอัฐชัยที่เป็นชาวบ้าน
เมื่อนายมงคลพยายามเข้าไปช่วยก็ถูกยิงอีก ต่อมาน.ส. กมนเกด และนายอัครเดช
ถูกยิงทั้งที่ห้อยป้ายกาชาด มีถุงมือแพทย์และผ้าปิดจมูก ต่อมาก็มีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิตอีก 2 คน

"มีกระสุนลงมาที่เต็นท์ยาตลอด คนที่ยิงไม่รู้เลยหรือว่านี่เป็นเต็นท์ยา ชาวบ้านอยู่ในวัด 4-5 พันคน
ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนแก่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาผู้ป่วยที่มาหาเรามีทั้งถูกสะเก็ดระเบิด ถูกยิง พยาบาลอาสาแทบไม่มีเวลากินข้าว
ทุกคนกลัวเจ้าหน้าที่จะเข้ามายิงเรียงตัว ทุกคนในวัดไม่มีอาวุธ
ไม่มีการยิงตอบโต้ ถ้าคนในวัดมีอาวุธจริงๆเจ้าหน้าที่บนบีทีเอสไม่รอดหรอกอยากถามจริงๆว่าพวกคุณมาจากหน่วยไหน
ใครสั่งคุณมายิงประชาชน" น.ส.ณัฏฐธิดากล่าว

น.ส.ณัฏฐธิดากล่าวว่าอยากให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ
แสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อบอกว่ามีชายชุดดำ
ก็ควรนำตัวมาให้ได้แต่ที่ตนเห็นเต็มตาคือเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า บีทีเอส 5 นาย
มีทั้งกระสุนจริงและกระสุนยางไล่ยิงประชาชน อยากให้รัฐบาลนำตัวนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มาลงโทษ
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ 5 นาย บนรางรถไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งหลักฐานทั้งรายชื่อ
ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ที่สำคัญคือเรื่องสัญลักษณ์ที่อาสาพยาบาลใช้ ขอให้เคารพในสิ่งนี้
ไม่ใช่มองเราเป็นผู้ก่อการร้ายแล้วสาดกระสุนลงตรงหน้า นอกจากนี้ขอให้เร่งสอบสวนคดีของพยาบาลอาสา
อย่าให้เวลาล่วงเลยจนหมดอายุความ แล้วปล่อยให้พยาบาลอาสาเหล่านี้ตายฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการให้สัมภาษณ์ น.ส.ณัฏฐธิดามอบรูปภาพที่บันทึกได้ในวันที่ 19 พ.ค. 53
ในเหตุการณ์วัดปทุมวนารามด้วย นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ยิงปืนเข้าใส่ประชาชน
คลิปบันทึกการชันสูตรพลิกศพน.ส.กมนเกด ที่เห็นหัวกระสุนภายในศพชัดเจนมอบให้ผู้สื่อข่าวด้วย

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
ร่วมกับกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล
คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาการฟื้นฟูพัฒนาตามวิถีวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้
คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการปฏิรูประบบงานความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา และสภาทนายความ
จัดเสวนาเรื่อง "เยียวยา 7.5 ล้านบาท เป็นธรรมหรือลำเอียง"

การเสวนามีนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ
โฆษกคณะกรรมการประสานงานคณะอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ป.คอป.)
พล.ท.อิสระ วัชรประทีป อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 1 นางอังคณา นีละไพจิตร รองเลขาฯ กมธ.วิสามัญศึกษา
และติดตามการแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูพัฒนาตามวิถีวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้
นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เข้าร่วมเสวนา

นายอดุลย์กล่าวว่า การเยียวยาหลักใหญ่อยู่ที่รัฐบาล
ต้องแสดงออกด้วยการขอโทษไม่ว่ารัฐบาลจะมาจากสีไหน
เพราะสิทธิประชาชนที่รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนใครผิดใครถูกขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีของกระบวนการยุติธรรม
ในอนาคตไม่ควรใช้กองทัพมาจัดการมวลชน เพราะทหารไม่ได้ถูกฝึกมาเพื่อปฏิบัติภารกิจเหล่านี้

นางอังคณากล่าวว่า การเยียวยาด้วยตัวเงินไม่สามารถนำไปสู่ความปรองดองได้
แต่จะต้องทำในส่วนของจิตใจด้วย เช่น ในกรณีที่มีบุคคลตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า กลัว และหวาดระแวง
โดยคงไม่สามารถจะชดเชยเป็นตัวเงินได้
แต่ในกรณีนี้ถือว่าเป็นการความทุกข์ทางกายเช่นกัน บางครั้งการสูญเสียนับเป็นตัวเลขไม่ได้
รัฐต้องเปิดเผยความจริงและทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ
เมื่อเกิดความเชื่อใจแล้วจะนำไปสู่การปรองดองได้อย่างแท้จริง

ที่โรงแรมนภาลัย จ.อุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ
กล่าวถึงความขัดแย้งกับนปช.ว่า ยอมรับว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่นางธิดา โตจิราการ ประธานนปช.พูด
เพราะตนเป็นฝ่ายปฏิบัติไม่ใช่ฝ่ายวิชาการ และหลังออกจากคุก
ก็ไม่เคยไปประชุมที่อิมพีเรียลลาดพร้าวอีก ทั้งนี้
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากคนที่อยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงอุดรธานี มักจะไปเป่าหูให้นางธิดา และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ฟัง
ไปหาว่าตนจัดรายการโจมตีนายจตุพร ซึ่งใครจะด่าน้องได้
ทั้งที่เราติดคุกมาด้วยกัน แต่ก็มีคนพยายามไปปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก
รวมทั้งส.ส.ในพื้นที่หลายคนก็เป็นไปกับเขาด้วย เพราะเห็นว่าชมรมคนรักอุดรฯ มีคนมาก
หรือแม้กระทั่งเมื่อตนจัดงาน พอมีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยมาซื้อโต๊ะไป
ก็หาว่าตนจะแปรพักตร์ ทั้งที่เมื่อตอนที่เขาเป็นรัฐบาล
ตนยังไม่ไป ตอนนี้เป็นฝ่ายค้านจะไปทำไม
ยืนยันว่าไม่มีใครรักพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เท่าตนหรอก

เวลา 18.00 น. ที่ลานทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี ชมรมคนรักอุดรฯ
ร่วมกับคนเสื้อแดงอีสาน 20 จังหวัด จัดเวทีปราศรัย โดยมีคนเสื้อแดงมาร่วมประมาณ 5,000 คน
และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครนับร้อยนายดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณจัดงาน ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าการ
จัดงานครั้งนี้มีส.ส.จากพรรคเพื่อไทยมาร่วม น้อยมาก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ
ปราศรัยถึงการเดินหน้าพ.ร.บ.ปรองดอง ว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวมี 6 มาตรา ทุกคนจะได้ประโยชน์หมด
ยกเว้นคนที่ฆ่ากลุ่มคนเสื้อแดง โดยหลังจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการพิจารณาจากสภาแล้ว จะเดินหน้าในเรื่องนี้ทันที
ซึ่งพ.ร.บ.จะไม่ปรองดองกับคนที่ฆ่าคนเสื้อแดงเด็ดขาด
ขอให้พี่น้องสบายใจได้ ส่วนการติดตามการดำเนินคดีว่ามีใครฆ่าคนเสื้อแดงและใครเป็นคนสั่งการ อีกไม่เกิน 30 วัน
คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาล
คนสั่งการเตรียมตัวรดน้ำมนต์ได้เลย ส่วนคดีล้มเจ้าก็เขียนกันเอาเองทั้งนั้น
ซึ่งตนได้บอกนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ไปแล้วว่าต้องจับตัวคนเขียนมาดำเนินคดี

"ส่วนเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ ผมเคยพูดตลอดว่าจะพาพ.ต.ท.ทักษิณ
กลับบ้านอย่างเปิดเผย เปิดหน้าเปิดตาอะไรจะเกิดก็เกิด
ถ้าลงสนามบินกรุงเทพฯไม่ได้ ก็มาลงที่สนามบินอุดรฯเรื่องจะกลับนั้นไม่ยากและจะกลับมาในเร็วๆ นี้
ไว้ใกล้ๆ จะมาบอกอีกครั้ง วันนี้ถือว่าเป็นวันสุกดิบก่อนและถ้าผมมาขึ้นเวทีอีกครั้งเพื่อบอกว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเมื่อไร
คิดว่าคนเสื้อแดงจะมาล้นสนามแห่งนี้มากกว่าในวันนี้" ร.ต.อ. เฉลิมกล่าว
lucky m.
lucky m.
Hero gen.seh member
Hero gen.seh member

จำนวนข้อความ : 2803
Join date : 12/06/2010

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ